ในวิดีโอเกมหนึ่งเกม ล้วนมีความลับซุ่มซ่อนตัวอยู่มากมาย จะทั้งความลับที่ตั้งใจให้ผู้เล่นเข้าไปค้นพบและเข้าถึงได้อย่างเช่น Easter Eggs ก็ดี หรือจะเป็นความลับในไฟล์เกมที่รอให้มีคนมือดีแอบเข้าไปขุดค้นก็ดี
ความลับเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ มันช่วยให้สังคมของวิดีโอเกมนั้น ๆ มีการตื่นตัวอยู่เสมอ เพราะนอกจากชุมชนคนเล่นเกมจะมาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันแล้ว มันยังทำให้คนภายนอกที่ไม่เคยเล่นเกมนั้น อาจจะเข้ามาสนใจเกมของคุณ เพียงเพราะความลับเจ๋ง ๆ นั่นก็ได้
ทว่ายังมีอีกหนึ่งความลับที่ทางผู้พัฒนาไม่ได้ตั้งใจซ่อน แต่ก็ยากที่จะหาเจอ ความลับที่ถูกหลบซ่อนเอาไว้ในระบบของเกม เรียกได้ว่าซ่อนแบบให้เห็นกันตรง ๆ สำหรับคนที่สังเกตมากพอ โดยความลับเหล่านี้ จะปรากฎกันอยู่ทนโท่ แต่แค่ไม่มีระบบการสอนหรือการพูดถึงเพียงเท่านั้นเอง
ส่วนความลับที่ว่าจะมีอะไรบ้างนั้น ขอเชิญติดตามต่อในบทความนี้กันได้เลย
ความลับของ Assassin’s Creed
ภาพจาก Ubisoft
Charles Randall หนึ่งในทีมพัฒนาของเกมภาคีมือสังหารภาคแรกได้ออกมาเปิดเผยว่า อันที่จริงแล้ว เวลาตัวละครแขนขาด โมเดลของแขนมันไม่ได้หายไปไหนหรอก แต่มันถูกหดกลับเข้าไปในตัวของตัวละครตัวนั้นต่างหาก ถึงแม้อาจจะฟังดูทำงานแบบลวก ๆ ไปบ้าง แต่มันก็ช่ายประหยัดเวลา แถมยังออกมาดูดีใช้ได้เสียอีก
นอกจากนี้ Randall ยังเล่าเสริมอีกว่า สมัยที่ทีมของพวกเขาพัฒนาเกม Assassin’s Creed 1 นั้น งบของพวกเขามีอยู่อย่างจำกัด และทีมงานก็ถนัดแต่การทำกระดูก (Rig) ของสิ่งมีชีวิตที่ยืนแบบสองเท้าด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงนำโครงกระดูกของมนุษย์ มายำ ๆ บี้ ๆ จนเละ และยัดมันใส่เป็นตัวของม้าในภายหลังนั่นเอง
“ต้องขอบคุณทีมอนิเมเตอร์จริง ๆ ที่ทำให้มันกลายเป็นม้าได้น่ะ” Randall กล่าวอย่างติดตลก
Fable: the Journey กับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบเรียบง่าย
ภาพจาก GameSpot
Luke Parkes-Haskell หนึ่งในทีมพัฒนาของเกม Fable: the Journey ก็ได้เล่าถึงประสบการณ์ระหว่างการพัฒนาวิดีโอเกมที่ตัวเขาได้เจอมาเช่นกัน
โดยย้อนกลับไปในวันที่ 9 ตุลาคม 2012 ซึ่งเป็นวันที่เกม Fable: the Journey กำลังจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแบบพอดิบพอดี ทว่าปัญหากลับเกิดขึ้นแบบไม่ทันคาดคิด เพราะในขณะที่ทางทีมงานกำลังจะเริ่มจัดส่งตัวเกมไปยังร้านค้าต่าง ๆ นั้น พวกเขาดันพบว่า Texture ของน้ำและหญ้าภายในเกมดันไม่โหลดขึ้นมาเสียฉิบ
เมื่อ Texture ไม่สามารถโหลดได้อย่างที่ควรจะเป็น ตัวเกมจึงเลือกที่จะแสดงผลพื้นผิวเหล่านั้นด้วยลายตารางหมากรุกสีเทาแทน (หากนึกไม่ออก มันคือลายตารางที่เรามักเห็นกันดีในภาพสกุล PNG ที่ไม่มีพื้นหลัง)
เวลาปล่อยเกมเริ่มขยับเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที พวกเขาไม่มีเวลาที่จะไปงบหาว่าบั๊กครั้งนี้มันเกิดขึ้นมาจากตรงไหนกันแน่
ดังนั้นเหล่าทีมพัฒนาของ Fable: the Journey จึงได้เลือกวิธีที่ง่ายที่สุด แต่ก็ได้ผลดีที่สุดเช่นกัน นั่นก็คือ การปรับเปลี่ยน Texture แบบ Default ที่เคยเป็นลายตารางหมากรุกสีเทา ให้กลายไปเป็นสีเขียวแทนนั่นเอง
ส่งผลให้ ถึงตัวเกมจะไม่โหลดพื้นผิวแบบที่ควรจะเป็น แต่มันก็ยังสามารถแสดงผลไปเป็นพื้นหญ้า หลอกตาคนเล่นได้อยู่ดี
The Settlers lll กับการกวาดขยะซ่อนไว้ใต้พรม
ภาพจาก GameFabrique
Rolf Klischewski หนึ่งในทีมพัฒนาของเกม The Settlers lll ก็ได้ร่วมแบ่งปันความฮาในครั้งนี้ด้วย
Rolf เล่าว่า ในช่วงที่ The Settlers lll วางจำหน่ายได้เพียงไม่นานนั้น ได้มีผู้เล่นร้องเรียนเข้ามาจำนวนมากเกี่ยวกับปัญหา Desync ของตัวเกมระหว่างที่พวกเขากำลังเล่นออนไลน์อยู่ ซึ่งหลังจากที่ใช้เวลากว่า 1 สัปดาห์เต็มไปกับการค้นหาต้นเหตุและแก้ไขปัญหา ในที่สุดข้อความที่แจ้งเตือน Error ก็ได้หายไปจากหน้าจอของทุกคนเสียที
จากความสำเร็จในครั้งนี้ CEO ของบริษัทถึงกับเอ่ยปากชมเปาะไปยังทีมงานที่สามารถแก้ไขปัญหาลงได้ ทว่าในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาไม่ได้แก้ไขมัน แต่พวกเขาหลบซ่อนมันให้พ้นสายตาต่างหาก
โดยหนึ่งในทีมพัฒนาได้แอบใส่โค้ดเพิ่มเข้าไป เพื่อให้ Error Message ที่แจ้งเตือนว่า เกมเกิดอาการ Desync ไม่ขึ้นแสดงผลบนหน้าจอก็เท่านั้นเอง และแน่นอนว่า มันเป็นความลับ ที่มีน้อยคนในบริษัทเท่านั้นที่รู้เรื่องราวนี้ (แต่ตอนนี้คงจะรู้กันหมดแล้วล่ะมั้ง)
Outer Worlds กับการลักไก่ที่ช่วยให้ไฟล์เล็กลง
ด้าน Taylor Swope ก็ไม่ยอมน้อยหน้า เปิดเผยความลับที่ใช้พัฒนาเกม Outer Worlds เช่นกัน โดยเขาได้เล่าว่า ทุกการพูดคุยของ NPC ที่ติดต่อตัวละครของเราเข้ามาในเกม Outer Worlds นั้น แม้เนื้อเรื่องในเกมจะบอกว่า พวกเขาติดต่อมาจากสถานที่อื่น แต่อันที่จริงแล้ว พวกเขายืนอยู่ข้าง ๆ ตัวผู้เล่นเลยต่างหาก ส่วนฉากหลังที่ทำให้พวกเขาดูอยู่ห่างไกลนั้น มันก็เป็นฉากลอย ๆ ที่เอาไว้หลอกภาพที่บันทึกจากกล้องเท่านั้นเอง
ซึ่ง Taylor ได้บอกเหตุผลที่ทีมงานเลือกใช้เทคนิคนี้ว่า มันจะช่วยประหยัดไฟล์พื้นที่ภายในเกมได้มากกว่าการเตรียมวิดีโอที่เรนเดอร์ไว้แล้ว แถมมันยังช่วยลดความยุ่งยากของทีมพัฒนาอีก พวกเราไม่ต้องคอยมาเตรียมไฟล์ทั้งหมดเพื่อให้มันถูกเล่น เวลาที่ตัวละครติดต่อไป แต่เราเลือกใช้การถ่ายทอดสด และส่งภาพไปด้วยฉากหลังที่จำลองขึ้นมา
นอกจากนี้ Taylor ยังเผยอีกหนึ่งความลับว่า ในบางแผนที่ จะมีแผนที่ย่อย ๆ แบ่งโซนกันด้านในมากมาย ทว่าพวกเขาไม่ต้องการให้หน้าฉากโหลดเกมมันมีระยะเวลาที่นานจนเกินไป พวกเขาจึงได้สร้างให้แผนที่เล็ก ๆ เหล่านั้น ถูกปลีกตัวไปจากฉากหลักตั้งแต่แรกเลย ซึ่งพวกมันจะถูกเรียกใช้อีกทีก็ต่อเมื่อผู้เล่นเดินเข้าไปใกล้ทางบริเวณรอยเชื่อมต่อระหว่างแผนที่เท่านั้น เช่น เมื่อผู้เล่นเปิดประตูของยานอวกาศออก ตัวผู้เล่นจะถูกวาร์ปไปยังกล่องที่ถูกสร้างขึ้นมา และฝังเอาไว้ใต้ดิน แต่มันถูกตกแต่งด้านในให้เหมือนกับยานอวกาศที่ผู้เล่นกำลังจะเข้าไปนั่นเอง
พลังชีวิตหยดสุดท้าย ที่ท้าทายทุกดาเมจในหลากหลายเกม
นอกจากนี้ Jennifer Scheurle หนึ่งในนักออกแบบเกมชื่อดัง ที่เคยกวาดรางวัลมากมากมายด้วยเกมในแฟรนไชส์ของ Eartlight ยังได้ทวีตข้อความชวนให้เหล่าผู้พัฒนาเกมทั้งหลายร่วมกันออกมาแชร์ถึง Mechanic หรือระบบเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พวกเขาใส่เข้าไปโดยไม่ได้บอกกล่าวกับผู้เล่น เพื่อให้วิดีโอเกมของพวกเขามีความสนุกเพิ่มขึ้นอีกด้วย
Jennifer ก็ได้เปิดหัวเรื่องก่อนใครเพื่อนด้วยสองเกมชื่อดังอย่าง Doom และ Assassin’s Creed ที่แอบทำระบบพลังชีวิตให้มีลูกเล่นอยู่เล็กน้อย โดยเมื่อผู้เล่นมีพลังชีวิตอยู่ในระดับที่ต่ำจนเข้าขั้นใกล้ตาย แม้ตัวเกมอาจจะแสดงผลให้มันดูมีค่าเท่ากันกับพลังชีวิตในช่วงอื่น แต่อันที่จริงแล้ว ผู้พัฒนาแอบทำให้พลังชีวิตหยดสุดท้ายของคุณนั้น สามารถรับดาเมจได้มากกว่าเดิม การทำแบบนี้ มันจะช่วยให้คนเล่นสัมผัสถึงความตื่นเต้น พร้อมกับสัมผัสความดิ้นรนของการเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์คับขันได้นั่นเอง
ด้าน Paul Hellquist นักออกแบบของเกม BioShock ก็ได้ออกมาตอบกลับว่า พวกเขาก็ใช้ระบบที่คล้าย ๆ กัน โดยใน BioShock นั้น หากคุณรับดาเมจถึงตาย คุณจะมีเวลาประมาณ 1-2 วินาทีที่เป็นอมตะ ก่อนที่จะตายจริง ๆ ซึ่งระบบนี้มันถูกออกแบบมันช่วยเพิ่มอะดรีนาลีนให้กับผู้เล่น และยังช่วยเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตอีกด้วย
และ Rick Lesley นักออกแบบของเกม Middle-earth: Shadow of Mordor ก็ได้ออกมาเปิดเผยความลับในวิดีโอเกมของพวกเขาอีกด้วย Rick เล่าว่า ใน Shadow of Mordor นั้น พวกเขาได้แอบใส่ระบบที่เพิ่มพลังชีวิตให้กับ Uruk ที่กำลังต่อสู้กันอยู่ การทำแบบนี้จะส่งผลให้พวก Uruk ยืนสู้ต่อได้นานขึ้น และมันก็ช่วยทำให้ภาพการต่อสู้ออกมาดูดุเดือดมากขึ้นไปยิ่งกว่าเดิม
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับความลับแปลก ๆ ที่ผู้พัฒนาเกมเลือกใส่เข้าไปโดยที่ไม่ได้บอกกับคนเล่น เชื่อว่าบางข้อน่าจะต้องทำให้คุณผู้อ่านถึงกับร้องว้าวอย่างแน่นอน
หวังว่าบทความนี้จะช่วยเสริมความรู้ของคุณผู้อ่านได้บ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ
ในวิดีโอเกมหนึ่งเกม ล้วนมีความลับซุ่มซ่อนตัวอยู่มากมาย จะทั้งความลับที่ตั้งใจให้ผู้เล่นเข้าไปค้นพบและเข้าถึงได้อย่างเช่น Easter Eggs ก็ดี หรือจะเป็นความลับในไฟล์เกมที่รอให้มีคนมือดีแอบเข้าไปขุดค้นก็ดี
ความลับเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ มันช่วยให้สังคมของวิดีโอเกมนั้น ๆ มีการตื่นตัวอยู่เสมอ เพราะนอกจากชุมชนคนเล่นเกมจะมาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันแล้ว มันยังทำให้คนภายนอกที่ไม่เคยเล่นเกมนั้น อาจจะเข้ามาสนใจเกมของคุณ เพียงเพราะความลับเจ๋ง ๆ นั่นก็ได้
ทว่ายังมีอีกหนึ่งความลับที่ทางผู้พัฒนาไม่ได้ตั้งใจซ่อน แต่ก็ยากที่จะหาเจอ ความลับที่ถูกหลบซ่อนเอาไว้ในระบบของเกม เรียกได้ว่าซ่อนแบบให้เห็นกันตรง ๆ สำหรับคนที่สังเกตมากพอ โดยความลับเหล่านี้ จะปรากฎกันอยู่ทนโท่ แต่แค่ไม่มีระบบการสอนหรือการพูดถึงเพียงเท่านั้นเอง
ส่วนความลับที่ว่าจะมีอะไรบ้างนั้น ขอเชิญติดตามต่อในบทความนี้กันได้เลย
ความลับของ Assassin’s Creed
ภาพจาก Ubisoft
Charles Randall หนึ่งในทีมพัฒนาของเกมภาคีมือสังหารภาคแรกได้ออกมาเปิดเผยว่า อันที่จริงแล้ว เวลาตัวละครแขนขาด โมเดลของแขนมันไม่ได้หายไปไหนหรอก แต่มันถูกหดกลับเข้าไปในตัวของตัวละครตัวนั้นต่างหาก ถึงแม้อาจจะฟังดูทำงานแบบลวก ๆ ไปบ้าง แต่มันก็ช่ายประหยัดเวลา แถมยังออกมาดูดีใช้ได้เสียอีก
นอกจากนี้ Randall ยังเล่าเสริมอีกว่า สมัยที่ทีมของพวกเขาพัฒนาเกม Assassin’s Creed 1 นั้น งบของพวกเขามีอยู่อย่างจำกัด และทีมงานก็ถนัดแต่การทำกระดูก (Rig) ของสิ่งมีชีวิตที่ยืนแบบสองเท้าด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงนำโครงกระดูกของมนุษย์ มายำ ๆ บี้ ๆ จนเละ และยัดมันใส่เป็นตัวของม้าในภายหลังนั่นเอง
“ต้องขอบคุณทีมอนิเมเตอร์จริง ๆ ที่ทำให้มันกลายเป็นม้าได้น่ะ” Randall กล่าวอย่างติดตลก
Fable: the Journey กับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบเรียบง่าย
ภาพจาก GameSpot
Luke Parkes-Haskell หนึ่งในทีมพัฒนาของเกม Fable: the Journey ก็ได้เล่าถึงประสบการณ์ระหว่างการพัฒนาวิดีโอเกมที่ตัวเขาได้เจอมาเช่นกัน
โดยย้อนกลับไปในวันที่ 9 ตุลาคม 2012 ซึ่งเป็นวันที่เกม Fable: the Journey กำลังจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแบบพอดิบพอดี ทว่าปัญหากลับเกิดขึ้นแบบไม่ทันคาดคิด เพราะในขณะที่ทางทีมงานกำลังจะเริ่มจัดส่งตัวเกมไปยังร้านค้าต่าง ๆ นั้น พวกเขาดันพบว่า Texture ของน้ำและหญ้าภายในเกมดันไม่โหลดขึ้นมาเสียฉิบ
เมื่อ Texture ไม่สามารถโหลดได้อย่างที่ควรจะเป็น ตัวเกมจึงเลือกที่จะแสดงผลพื้นผิวเหล่านั้นด้วยลายตารางหมากรุกสีเทาแทน (หากนึกไม่ออก มันคือลายตารางที่เรามักเห็นกันดีในภาพสกุล PNG ที่ไม่มีพื้นหลัง)
เวลาปล่อยเกมเริ่มขยับเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที พวกเขาไม่มีเวลาที่จะไปงบหาว่าบั๊กครั้งนี้มันเกิดขึ้นมาจากตรงไหนกันแน่
ดังนั้นเหล่าทีมพัฒนาของ Fable: the Journey จึงได้เลือกวิธีที่ง่ายที่สุด แต่ก็ได้ผลดีที่สุดเช่นกัน นั่นก็คือ การปรับเปลี่ยน Texture แบบ Default ที่เคยเป็นลายตารางหมากรุกสีเทา ให้กลายไปเป็นสีเขียวแทนนั่นเอง
ส่งผลให้ ถึงตัวเกมจะไม่โหลดพื้นผิวแบบที่ควรจะเป็น แต่มันก็ยังสามารถแสดงผลไปเป็นพื้นหญ้า หลอกตาคนเล่นได้อยู่ดี
The Settlers lll กับการกวาดขยะซ่อนไว้ใต้พรม
ภาพจาก GameFabrique
Rolf Klischewski หนึ่งในทีมพัฒนาของเกม The Settlers lll ก็ได้ร่วมแบ่งปันความฮาในครั้งนี้ด้วย
Rolf เล่าว่า ในช่วงที่ The Settlers lll วางจำหน่ายได้เพียงไม่นานนั้น ได้มีผู้เล่นร้องเรียนเข้ามาจำนวนมากเกี่ยวกับปัญหา Desync ของตัวเกมระหว่างที่พวกเขากำลังเล่นออนไลน์อยู่ ซึ่งหลังจากที่ใช้เวลากว่า 1 สัปดาห์เต็มไปกับการค้นหาต้นเหตุและแก้ไขปัญหา ในที่สุดข้อความที่แจ้งเตือน Error ก็ได้หายไปจากหน้าจอของทุกคนเสียที
จากความสำเร็จในครั้งนี้ CEO ของบริษัทถึงกับเอ่ยปากชมเปาะไปยังทีมงานที่สามารถแก้ไขปัญหาลงได้ ทว่าในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาไม่ได้แก้ไขมัน แต่พวกเขาหลบซ่อนมันให้พ้นสายตาต่างหาก
โดยหนึ่งในทีมพัฒนาได้แอบใส่โค้ดเพิ่มเข้าไป เพื่อให้ Error Message ที่แจ้งเตือนว่า เกมเกิดอาการ Desync ไม่ขึ้นแสดงผลบนหน้าจอก็เท่านั้นเอง และแน่นอนว่า มันเป็นความลับ ที่มีน้อยคนในบริษัทเท่านั้นที่รู้เรื่องราวนี้ (แต่ตอนนี้คงจะรู้กันหมดแล้วล่ะมั้ง)
Outer Worlds กับการลักไก่ที่ช่วยให้ไฟล์เล็กลง
ด้าน Taylor Swope ก็ไม่ยอมน้อยหน้า เปิดเผยความลับที่ใช้พัฒนาเกม Outer Worlds เช่นกัน โดยเขาได้เล่าว่า ทุกการพูดคุยของ NPC ที่ติดต่อตัวละครของเราเข้ามาในเกม Outer Worlds นั้น แม้เนื้อเรื่องในเกมจะบอกว่า พวกเขาติดต่อมาจากสถานที่อื่น แต่อันที่จริงแล้ว พวกเขายืนอยู่ข้าง ๆ ตัวผู้เล่นเลยต่างหาก ส่วนฉากหลังที่ทำให้พวกเขาดูอยู่ห่างไกลนั้น มันก็เป็นฉากลอย ๆ ที่เอาไว้หลอกภาพที่บันทึกจากกล้องเท่านั้นเอง
ซึ่ง Taylor ได้บอกเหตุผลที่ทีมงานเลือกใช้เทคนิคนี้ว่า มันจะช่วยประหยัดไฟล์พื้นที่ภายในเกมได้มากกว่าการเตรียมวิดีโอที่เรนเดอร์ไว้แล้ว แถมมันยังช่วยลดความยุ่งยากของทีมพัฒนาอีก พวกเราไม่ต้องคอยมาเตรียมไฟล์ทั้งหมดเพื่อให้มันถูกเล่น เวลาที่ตัวละครติดต่อไป แต่เราเลือกใช้การถ่ายทอดสด และส่งภาพไปด้วยฉากหลังที่จำลองขึ้นมา
นอกจากนี้ Taylor ยังเผยอีกหนึ่งความลับว่า ในบางแผนที่ จะมีแผนที่ย่อย ๆ แบ่งโซนกันด้านในมากมาย ทว่าพวกเขาไม่ต้องการให้หน้าฉากโหลดเกมมันมีระยะเวลาที่นานจนเกินไป พวกเขาจึงได้สร้างให้แผนที่เล็ก ๆ เหล่านั้น ถูกปลีกตัวไปจากฉากหลักตั้งแต่แรกเลย ซึ่งพวกมันจะถูกเรียกใช้อีกทีก็ต่อเมื่อผู้เล่นเดินเข้าไปใกล้ทางบริเวณรอยเชื่อมต่อระหว่างแผนที่เท่านั้น เช่น เมื่อผู้เล่นเปิดประตูของยานอวกาศออก ตัวผู้เล่นจะถูกวาร์ปไปยังกล่องที่ถูกสร้างขึ้นมา และฝังเอาไว้ใต้ดิน แต่มันถูกตกแต่งด้านในให้เหมือนกับยานอวกาศที่ผู้เล่นกำลังจะเข้าไปนั่นเอง
พลังชีวิตหยดสุดท้าย ที่ท้าทายทุกดาเมจในหลากหลายเกม
นอกจากนี้ Jennifer Scheurle หนึ่งในนักออกแบบเกมชื่อดัง ที่เคยกวาดรางวัลมากมากมายด้วยเกมในแฟรนไชส์ของ Eartlight ยังได้ทวีตข้อความชวนให้เหล่าผู้พัฒนาเกมทั้งหลายร่วมกันออกมาแชร์ถึง Mechanic หรือระบบเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พวกเขาใส่เข้าไปโดยไม่ได้บอกกล่าวกับผู้เล่น เพื่อให้วิดีโอเกมของพวกเขามีความสนุกเพิ่มขึ้นอีกด้วย
Jennifer ก็ได้เปิดหัวเรื่องก่อนใครเพื่อนด้วยสองเกมชื่อดังอย่าง Doom และ Assassin’s Creed ที่แอบทำระบบพลังชีวิตให้มีลูกเล่นอยู่เล็กน้อย โดยเมื่อผู้เล่นมีพลังชีวิตอยู่ในระดับที่ต่ำจนเข้าขั้นใกล้ตาย แม้ตัวเกมอาจจะแสดงผลให้มันดูมีค่าเท่ากันกับพลังชีวิตในช่วงอื่น แต่อันที่จริงแล้ว ผู้พัฒนาแอบทำให้พลังชีวิตหยดสุดท้ายของคุณนั้น สามารถรับดาเมจได้มากกว่าเดิม การทำแบบนี้ มันจะช่วยให้คนเล่นสัมผัสถึงความตื่นเต้น พร้อมกับสัมผัสความดิ้นรนของการเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์คับขันได้นั่นเอง
ด้าน Paul Hellquist นักออกแบบของเกม BioShock ก็ได้ออกมาตอบกลับว่า พวกเขาก็ใช้ระบบที่คล้าย ๆ กัน โดยใน BioShock นั้น หากคุณรับดาเมจถึงตาย คุณจะมีเวลาประมาณ 1-2 วินาทีที่เป็นอมตะ ก่อนที่จะตายจริง ๆ ซึ่งระบบนี้มันถูกออกแบบมันช่วยเพิ่มอะดรีนาลีนให้กับผู้เล่น และยังช่วยเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตอีกด้วย
และ Rick Lesley นักออกแบบของเกม Middle-earth: Shadow of Mordor ก็ได้ออกมาเปิดเผยความลับในวิดีโอเกมของพวกเขาอีกด้วย Rick เล่าว่า ใน Shadow of Mordor นั้น พวกเขาได้แอบใส่ระบบที่เพิ่มพลังชีวิตให้กับ Uruk ที่กำลังต่อสู้กันอยู่ การทำแบบนี้จะส่งผลให้พวก Uruk ยืนสู้ต่อได้นานขึ้น และมันก็ช่วยทำให้ภาพการต่อสู้ออกมาดูดุเดือดมากขึ้นไปยิ่งกว่าเดิม
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับความลับแปลก ๆ ที่ผู้พัฒนาเกมเลือกใส่เข้าไปโดยที่ไม่ได้บอกกับคนเล่น เชื่อว่าบางข้อน่าจะต้องทำให้คุณผู้อ่านถึงกับร้องว้าวอย่างแน่นอน
หวังว่าบทความนี้จะช่วยเสริมความรู้ของคุณผู้อ่านได้บ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ