Crash Bandicoot 4: It's About Time
Platform: Nintendo Switch
Genre: Action 3D, Adventure
Crash Bandicoot เป็นเกมแนว Action 3D ที่พัฒนาโดย Toys for Bob และเผยแพร่โดย Activision เป็นแฟรนไชส์เกมภาคต่อ จากแพลตฟอร์ม PlayStation 1 ซึ่งวางจำหน่ายเมื่อปี 1996 - 1999 ที่มีด้วยกันถึง 3 ภาคหลัก และนอกจากนั้นยังวางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มอื่นๆ อีกเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้ถูกนับเป็นภาคหลักแต่อย่างใด…
จนถึงปัจจุบัน นับว่าเป็นเวลากว่า 20 ปี กับการกลับมาของ Crash Bandicoot ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้นับว่าเป็นภาคต่ออย่างเป็นทางการ และเป็นที่รอคอยของแฟนๆ
เนื้อเรื่อง
การกลับมาในครั้งนี้จะเป็นเนื้อเรื่องต่อจาก Crash Bandicoot 3: Warped โดยตรง หลังจากที่จัดการวายร้ายอย่าง Dr. Neo Cortex กับ Dr. Nefarious Tropy รวมถึง Aku Aku ด้วยการจับส่งทั้งสามให้ไปอยู่ในต่างมิติ เพื่อไม่ให้ออกมาสร้างความเดือดร้อนได้อีกตลอดไป จนกระทั้ง Aku Aku ได้ทำการเปิดประตูมิติสำเร็จ ทำให้ทั้งหมดหนีออกมาได้
แต่ผลกระทบจากการเปิดประตูมิตินั้น ทำให้มิติเวลารวมถึงจักรวาลเกิดความปั่นป่วน จนทำให้เกิด Multiverse หรือจักรวาลคู่ขนานขึ้นมากมาย และถึงคราวที่เหล่าวายร้ายได้ทำการวางแผนควบรวมยึดครองทั้งจักรวาล !!
ดังนั้น Crash และ Coco (น้องสาว) จะต้องร่วมมือกันออกผจญภัยอีกครั้ง เพื่อตามหาธาตุทั้ง 4 ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการหยุดยั้งแผนการร้ายในครั้งนี้ และผนวกพลังของจักรวาลเข้าด้วยกัน เพื่อให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางกลับสู่สภาวะดังเดิมอย่างที่ควรจะเป็น
คราวนี้มาในส่วนของเกมเพลย์กันบ้าง
Crash Bandicoot 4 ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของภาคก่อนๆ ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นมูฟเมนท์การบังคับตัวละคร การเปลี่ยนมุมมองเกมเพลย์ภายในด่านที่มีความหลากหลาย และยังคงความเป็นรูปแบบการผจญภัยที่มีกับดักมากมาย พร้อมกับศัตรูหลากหลายรูปแบบ ที่เราจะต้องใช้วิธีรับมือแตกต่างกันออกไป
มีการเดินเรื่อง/ระบบการเล่นเป็นเส้นตรง มีความสลับซับซ้อนค่อนข้างน้อย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเล่นให้ผ่านได้ง่ายๆ มีระบบ Checkpoint ภายในด่าน และยังคงรูปแบบความเป็น World Part เหมือนเดิม (แต่ในภาคนี้จะเรียกว่า Dimensional map)
พูดง่ายๆ ว่า ใน 1 เวิลด์จะประกอบไปด้วย 5-6 ด่าน และด่านสุดท้ายก็จะมีบอสประจำเวิล์ด ถ้าเล่นผ่านก็สามารถไปเวิลด์ถัดไปได้ หรือด่านที่ผ่านไปแล้วก็สามารถกลับมาเล่นเพื่อเก็บของให้ครบได้อีก หรือจะแข่งกับเวลาในโหมด Time Trial ที่เน้นเร็วเน้นไวก็ได้ เพื่อเก็บ Relics ทำให้มีเหตุผลในการกลับมาเล่นด่านเหล่านี้หลายครั้ง โดย Time Trial จะแบ่งเป็น 3 ระดับคือ Sapphire, Gold, Platinum จากน้อยไปมากตามลำดับ ขึ้นอยู่กับเวลาที่ใช้ผ่านด่านเหมือนกับในภาค 3 และยังมีด่านพิเศษที่เป็นไซต์สตอรี่ของตัวละครอีกด้วย รับรองว่าจุใจเหล่าแฟนๆ หนุ่ม Crash แน่นอน
รวมถึงยังคงมีการเก็บกล่องให้ครบตามจำนวนที่แต่ละด่านกำหนด เพื่อแลกกับเพชรสีขาวเช่นเดิม และยังมีการเก็บเพชรสีเพื่อปลดล็อค Bonus Stage หรือสถานที่ลับในด่านต่างๆ (แต่ระบบการเก็บแอปเปิ้ลเพื่อสะสมเป็นไลฟ์อัพถูกยกเลิกไปแล้ว)
Dimensional Map
เริ่มเกมเลยเราสามารถเลือกโหมดที่จะเล่นได้ระหว่าง Modern Mode กับ Retro Mode โดยระบบในการเล่นทั้งสองโหมดจะแตกต่างกันออกไป ผู้เล่นสามารถเลือกตัวละครที่จะเล่นได้สองตัวตั้งแต่เริ่มเกม ซึ่งก็คือ Crash ตัวเอกของเรา และ Coco น้องสาวของของเขา ทั้งสองมีรูปแบบมูฟเมนท์การเคลื่อนไหวเหมือนๆ กัน
การเลือกเล่นตัวละครจะไม่ได้เป็นการเลือกในรูปแบบโหมด แต่เป็นการเลือกก่อนที่จะเริ่มด่าน หรือเริ่มเล่นในด่านนั้นๆ นอกจากการเลือกตัวละครเพื่อเล่นแล้ว ยังสามารถเลือกชุด (Skin) ของตัวละครได้อีกด้วย ทั้งนี้ชุด (Skin) จะต้องผ่านการปลดล็อกจากการทำภารกิจซะก่อนจึงจะเลือกมาใช้ได้
ในหนึ่งด่านจะมีการเก็บเพชรสีขาวที่เพิ่มมากขึ้น (จากเดิมมีเพชรสีขาว 1เม็ด/1ด่าน) โดยจะมีเพชรสีขาวหกเม็ดต่อ 1 ด่าน การเก็บเพชรจะขึ้นอยู่กับข้อกำหนดต่างๆ เช่น จำนวนแอปเปิ้ลที่เก็บ จำนวนครั้งที่เราตาย เพชรที่ซ่อนอยู่ตามด่าน และการเก็บกล่องในด่านให้ครบเหมือนภาคก่อนๆ
มีการเก็บไอเทม Flashback Tapes เพื่อปลดล็อคด่านพิเศษภายใน (Flashback Tapes Level) อีกที และภายใน Level จะเป็นด่านคล้ายๆ กับโบนัสสเตจที่เป็นการเก็บกล่องโดยเฉพาะ เพียงแต่จะมีความยาวและความยากกว่าพอสมควร ถ้าหากเล่นไปได้สักพักจะมีโหมดกลับซ้าย-ขวา N. Verted เข้ามาเสริมในทุกๆ ด่านอีกด้วย
ทางด้านตัวละคร จะมีตัวละครเพื่อนใหม่อย่าง Tawna ที่จะมีไทม์ไลน์เนื้อเรื่องของตนเอง เป็นเนื้อเรื่องคู่ขนานกับเนื้อเรื่องหลักของพวก Crash และธีมหลักของภาคนี้เลยก็คือพวก Quantum Masks ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือน Uka Uka ซึ่งจะมีเอกลักษณ์/สกิลเฉพาะตัวเมื่อสวมใส่ เพื่อนำความสามารถนี้ใช้ในการผ่านฉากที่มีรูปแบบเฉพาะ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกมมีความหลากหลายในการเล่นมากขึ้น รวมถึงตัวละครอื่นๆ ที่จะร่วมสร้างสีสันและมิติใหม่ๆ ในการผจญภัยครั้งนี้ด้วย
รวมเหล่า Quantum Masks
Tawna เพื่อนใหม่ของ Crash และ Coco
เพชรสีขาวที่มีให้เก็บเพิ่มขึ้นต่อหนึ่งด่าน ถ้าเก็บได้ครบจะได้ชุด(skin) ของตัวละคร
ยังคงรูปแบบความเป็นอนิเมชั่น+การ์ตูนที่มีสีสันเยอะๆ รูปแบบด่านที่เปลี่ยนสีสันตามธีมของแต่ละเวิลด์ ส่วนเรื่องของเฟรมเรท ยังไม่เจอเฟรมเรทตกตลอดการเล่นบนเครื่อง Nintendo Switch ลื่นไหลดีปกติ ไม่มีภาพค้าง ไม่มีเด้งออกจากเกม
เมื่อลองต่อ Dock ขึ้นจอ 4K ภาพสวยกว่าเดิมนิดหน่อย ไม่แน่ใจว่าภาพสวยขึ้นจริงๆ หรือว่าเพราะจอใหญ่ก็เลยดูสวยเพราะรายละเอียดมันชัดขึ้นหรือเปล่า แต่จริงๆ ทางด้านกราฟิกคงไม่มีอะไรให้เขียนถึงมากนัก เอาเป็นว่าเล่นบน Nintendo Switch ที่สามารถพกพาไปไหนต่อไหนได้ก็เข้ากับเกมเพลย์แบบ Crash ดี แต่จะหวังให้กราฟิกสู้คอนโซลอื่นๆ คงไม่ได้อยู่แล้ว
เกม Crash Bandicoot 4 ยังคงเป็นเกมที่ต้องใช้ความชำนาญ รวมถึงการฝึกสังเกติ เพราะเป็นเกมที่มีทางลับและไอเทมที่ซ่อนอยู่ รวมไปถึงกับดักต่างๆ ผู้เล่นจะต้องทำความคุ้นเคยกับองค์ประกอบภายในแต่ละด่านที่แตกต่างกันออกไป และอาศัยความอดทนถึงจะเล่นผ่านไปได้
สำหรับผู้เขียนที่เคยเล่นมาก่อนแล้วตั้งแต่ภาคแรก ก็รู้สึกว่ายังยากอยู่พอควรเลยล่ะ แต่ก็สนุกมากๆ และตื่นเต้นกับลูกเล่นใหม่ๆ ด้วยในเวลาเดียวกัน ยิ่งถ้าหากจะเก็บของให้ครบๆ หรือพิชิต Achievements / Trophies ทุกอย่างที่มี เกมก็จะยิ่งมีความยากเพิ่มขึ้นไปอีกเท่าตัว!!
รวมๆ แล้วรู้สึกว่า ทีมสร้างเกมพยายามออกแบบการเล่นให้มีมิติที่จะเล่นสนุกได้หลากหลายมากขึ้นกว่าภาคก่อนๆ มีโหมดทางเลือกในการเล่น การสะสมของภายในเกมที่เยอะมากขึ้น กับดักที่มีรูปแบบใหม่ๆ และมีความต่อเนื่อง(ยาก)มากขึ้น มีตัวละครให้เลือกเล่นได้พร้อมกับมูฟเมนท์หรือเรื่องราวที่แตกต่างกัน การเก็บของบางด่านที่ต้องใช้ไซต์สตอรี่ร่วมด้วยถึงจะสามารถเก็บได้ครบ มีความเป็น puzzle ที่ต้องใช้ไหวพริบ และการสังเกตในการเล่น ถึงจะเป็นเกมที่เล่นค่อนข้างยากสำหรับมือใหม่ แต่ภายในเกมได้มีระบบช่วยเหลือการเล่นเพิ่มขึ้นมา นั่นก็คือ..ถ้าหากผู้เล่นตายในด่านซ้ำๆ จำนวนหลายครั้ง
จะมี Uka Uka ให้ตั้งแต่จุดเกิด (Checkpoint) และจะมี Checkpoint ให้เยอะมากขึ้นกว่าปกติ นั่นก็เพื่อรองรับผู้เล่นใหม่ๆ ให้สามารถเล่นเกมนี้ได้ง่ายกว่าปกติอีกด้วย
ทั้งหมดนี้ทำให้รู้สึกได้ว่า ภาคนี้ตอบโจทย์ในแง่ของการสร้างความหลากหลายในการเล่นได้สำเร็จจริงๆ
ส่วนท่านใดกำลังจะหาเกมเล่น ที่สามาถเล่นได้ยาวๆ ใช้เวลาในการเล่นค่อนข้างมาก ชอบสะสมของภายในเกมที่มีเยอะๆ ฝึกสมองใช้ไหวพริบ ฝึกการสังเกต ชอบความท้าทายชอบเกมเล่นยากๆ ตายซ้ำๆ กับจุดเดิมๆ หัวร้อนเป็นปกติ
ผมก็ขอแนะนำ Crash Bandicoot 4: It's About Time รับรองว่าคุณจะได้สนุก และตื่นเต้นไปกับเกมนี้อย่างแน่นอน
Crash และผองเพื่อน
ในฐานะของคนที่เล่นมาตั้งแต่ภาคแรก
รู้สึกหายคิดถึง เราจะยังได้เห็นอะไรเดิมๆ อยู่บ้าง เช่น ฉากแรกที่ชายหาด เหมือนกับที่ฉากแรกเริ่มใน Crash Bandicoot ภาคแรก หรือฉากที่มีมังกรก็จะนึกถึงด่านกำแพงเมืองจีนในภาค 3 รวมถึงจะฉากวิ่งหนี เราจะต้องวิ่งหนีเหมือนที่เราเคยวิ่งหนีหินกลิ้งแบบภาคก่อนๆ เราจะได้หลบกระแสน้ำวน จะได้สำรวจฉากเพื่อตามหากล่องที่ถูกซ่อนอยู่ ได้ตื่นเต้นกับการเจอเพชรสีต่างๆ ที่ดีใจเหมือนตัวเองได้เจอจริงๆ
จะได้เห็นตัวละครที่คุ้นเคยเราจะได้เจอเพื่อนเก่าอย่าง Crash ที่ขี้เล่นมีสีสันเปื่ยมไปด้วยชีวิตชีวา และน่าหมั่นไส้ในเวลาเดียวกัน รวมถึงวายร้ายอย่าง N. Cortex ที่ยังไม่ยอมแพ้ต่อความอยากจะเอาชนะเหมือนเคย รวมถึง Easter eggs ที่มีอยู่ภายในเกม และที่สำคัญยังคงรู้สึกว่าผมรักเกมนี้จริงๆ แม้ในตอนนี้ผมได้โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ความสนุกที่ได้จากเกมนี้มันโตมากขึ้นกว่าอายุที่เพิ่มขึ้นทุกๆ วันเสียอีก
...บรรยากาศทั้งหมดภายในเกมเหล่านี้เปรียบเสมือนเพื่อนหรือครอบครัวใหญ่ครอบครัวนึงที่เรารอ หรือเคยรอการกลับมา…
ฉากแรกบนชายหาด ที่ทำให้หายคิดถึง หรือคิดถึงมากกว่าเดิม
(แอบมี Easter eggs เกม Spyro the Dragon ด้วยแน่ะ)
...ควรค่าแก่การรอคอยมากๆๆๆๆๆๆ
ขอบคุณมากนะที่กลับมาหาเพื่อนคนนี้อีกครั้ง
และยินดีต้อนรับเสมอไม่ว่าจะอีกกี่ครั้งก็ตาม
Crash Bandicoot 4: It's About Time
Platform: Nintendo Switch
Genre: Action 3D, Adventure
Crash Bandicoot เป็นเกมแนว Action 3D ที่พัฒนาโดย Toys for Bob และเผยแพร่โดย Activision เป็นแฟรนไชส์เกมภาคต่อ จากแพลตฟอร์ม PlayStation 1 ซึ่งวางจำหน่ายเมื่อปี 1996 - 1999 ที่มีด้วยกันถึง 3 ภาคหลัก และนอกจากนั้นยังวางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มอื่นๆ อีกเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้ถูกนับเป็นภาคหลักแต่อย่างใด…
จนถึงปัจจุบัน นับว่าเป็นเวลากว่า 20 ปี กับการกลับมาของ Crash Bandicoot ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้นับว่าเป็นภาคต่ออย่างเป็นทางการ และเป็นที่รอคอยของแฟนๆ
เนื้อเรื่อง
การกลับมาในครั้งนี้จะเป็นเนื้อเรื่องต่อจาก Crash Bandicoot 3: Warped โดยตรง หลังจากที่จัดการวายร้ายอย่าง Dr. Neo Cortex กับ Dr. Nefarious Tropy รวมถึง Aku Aku ด้วยการจับส่งทั้งสามให้ไปอยู่ในต่างมิติ เพื่อไม่ให้ออกมาสร้างความเดือดร้อนได้อีกตลอดไป จนกระทั้ง Aku Aku ได้ทำการเปิดประตูมิติสำเร็จ ทำให้ทั้งหมดหนีออกมาได้
แต่ผลกระทบจากการเปิดประตูมิตินั้น ทำให้มิติเวลารวมถึงจักรวาลเกิดความปั่นป่วน จนทำให้เกิด Multiverse หรือจักรวาลคู่ขนานขึ้นมากมาย และถึงคราวที่เหล่าวายร้ายได้ทำการวางแผนควบรวมยึดครองทั้งจักรวาล !!
ดังนั้น Crash และ Coco (น้องสาว) จะต้องร่วมมือกันออกผจญภัยอีกครั้ง เพื่อตามหาธาตุทั้ง 4 ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการหยุดยั้งแผนการร้ายในครั้งนี้ และผนวกพลังของจักรวาลเข้าด้วยกัน เพื่อให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางกลับสู่สภาวะดังเดิมอย่างที่ควรจะเป็น
คราวนี้มาในส่วนของเกมเพลย์กันบ้าง
Crash Bandicoot 4 ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของภาคก่อนๆ ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นมูฟเมนท์การบังคับตัวละคร การเปลี่ยนมุมมองเกมเพลย์ภายในด่านที่มีความหลากหลาย และยังคงความเป็นรูปแบบการผจญภัยที่มีกับดักมากมาย พร้อมกับศัตรูหลากหลายรูปแบบ ที่เราจะต้องใช้วิธีรับมือแตกต่างกันออกไป
มีการเดินเรื่อง/ระบบการเล่นเป็นเส้นตรง มีความสลับซับซ้อนค่อนข้างน้อย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเล่นให้ผ่านได้ง่ายๆ มีระบบ Checkpoint ภายในด่าน และยังคงรูปแบบความเป็น World Part เหมือนเดิม (แต่ในภาคนี้จะเรียกว่า Dimensional map)
พูดง่ายๆ ว่า ใน 1 เวิลด์จะประกอบไปด้วย 5-6 ด่าน และด่านสุดท้ายก็จะมีบอสประจำเวิล์ด ถ้าเล่นผ่านก็สามารถไปเวิลด์ถัดไปได้ หรือด่านที่ผ่านไปแล้วก็สามารถกลับมาเล่นเพื่อเก็บของให้ครบได้อีก หรือจะแข่งกับเวลาในโหมด Time Trial ที่เน้นเร็วเน้นไวก็ได้ เพื่อเก็บ Relics ทำให้มีเหตุผลในการกลับมาเล่นด่านเหล่านี้หลายครั้ง โดย Time Trial จะแบ่งเป็น 3 ระดับคือ Sapphire, Gold, Platinum จากน้อยไปมากตามลำดับ ขึ้นอยู่กับเวลาที่ใช้ผ่านด่านเหมือนกับในภาค 3 และยังมีด่านพิเศษที่เป็นไซต์สตอรี่ของตัวละครอีกด้วย รับรองว่าจุใจเหล่าแฟนๆ หนุ่ม Crash แน่นอน
รวมถึงยังคงมีการเก็บกล่องให้ครบตามจำนวนที่แต่ละด่านกำหนด เพื่อแลกกับเพชรสีขาวเช่นเดิม และยังมีการเก็บเพชรสีเพื่อปลดล็อค Bonus Stage หรือสถานที่ลับในด่านต่างๆ (แต่ระบบการเก็บแอปเปิ้ลเพื่อสะสมเป็นไลฟ์อัพถูกยกเลิกไปแล้ว)
Dimensional Map
เริ่มเกมเลยเราสามารถเลือกโหมดที่จะเล่นได้ระหว่าง Modern Mode กับ Retro Mode โดยระบบในการเล่นทั้งสองโหมดจะแตกต่างกันออกไป ผู้เล่นสามารถเลือกตัวละครที่จะเล่นได้สองตัวตั้งแต่เริ่มเกม ซึ่งก็คือ Crash ตัวเอกของเรา และ Coco น้องสาวของของเขา ทั้งสองมีรูปแบบมูฟเมนท์การเคลื่อนไหวเหมือนๆ กัน
การเลือกเล่นตัวละครจะไม่ได้เป็นการเลือกในรูปแบบโหมด แต่เป็นการเลือกก่อนที่จะเริ่มด่าน หรือเริ่มเล่นในด่านนั้นๆ นอกจากการเลือกตัวละครเพื่อเล่นแล้ว ยังสามารถเลือกชุด (Skin) ของตัวละครได้อีกด้วย ทั้งนี้ชุด (Skin) จะต้องผ่านการปลดล็อกจากการทำภารกิจซะก่อนจึงจะเลือกมาใช้ได้
ในหนึ่งด่านจะมีการเก็บเพชรสีขาวที่เพิ่มมากขึ้น (จากเดิมมีเพชรสีขาว 1เม็ด/1ด่าน) โดยจะมีเพชรสีขาวหกเม็ดต่อ 1 ด่าน การเก็บเพชรจะขึ้นอยู่กับข้อกำหนดต่างๆ เช่น จำนวนแอปเปิ้ลที่เก็บ จำนวนครั้งที่เราตาย เพชรที่ซ่อนอยู่ตามด่าน และการเก็บกล่องในด่านให้ครบเหมือนภาคก่อนๆ
มีการเก็บไอเทม Flashback Tapes เพื่อปลดล็อคด่านพิเศษภายใน (Flashback Tapes Level) อีกที และภายใน Level จะเป็นด่านคล้ายๆ กับโบนัสสเตจที่เป็นการเก็บกล่องโดยเฉพาะ เพียงแต่จะมีความยาวและความยากกว่าพอสมควร ถ้าหากเล่นไปได้สักพักจะมีโหมดกลับซ้าย-ขวา N. Verted เข้ามาเสริมในทุกๆ ด่านอีกด้วย
ทางด้านตัวละคร จะมีตัวละครเพื่อนใหม่อย่าง Tawna ที่จะมีไทม์ไลน์เนื้อเรื่องของตนเอง เป็นเนื้อเรื่องคู่ขนานกับเนื้อเรื่องหลักของพวก Crash และธีมหลักของภาคนี้เลยก็คือพวก Quantum Masks ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือน Uka Uka ซึ่งจะมีเอกลักษณ์/สกิลเฉพาะตัวเมื่อสวมใส่ เพื่อนำความสามารถนี้ใช้ในการผ่านฉากที่มีรูปแบบเฉพาะ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกมมีความหลากหลายในการเล่นมากขึ้น รวมถึงตัวละครอื่นๆ ที่จะร่วมสร้างสีสันและมิติใหม่ๆ ในการผจญภัยครั้งนี้ด้วย
รวมเหล่า Quantum Masks
Tawna เพื่อนใหม่ของ Crash และ Coco
เพชรสีขาวที่มีให้เก็บเพิ่มขึ้นต่อหนึ่งด่าน ถ้าเก็บได้ครบจะได้ชุด(skin) ของตัวละคร
ยังคงรูปแบบความเป็นอนิเมชั่น+การ์ตูนที่มีสีสันเยอะๆ รูปแบบด่านที่เปลี่ยนสีสันตามธีมของแต่ละเวิลด์ ส่วนเรื่องของเฟรมเรท ยังไม่เจอเฟรมเรทตกตลอดการเล่นบนเครื่อง Nintendo Switch ลื่นไหลดีปกติ ไม่มีภาพค้าง ไม่มีเด้งออกจากเกม
เมื่อลองต่อ Dock ขึ้นจอ 4K ภาพสวยกว่าเดิมนิดหน่อย ไม่แน่ใจว่าภาพสวยขึ้นจริงๆ หรือว่าเพราะจอใหญ่ก็เลยดูสวยเพราะรายละเอียดมันชัดขึ้นหรือเปล่า แต่จริงๆ ทางด้านกราฟิกคงไม่มีอะไรให้เขียนถึงมากนัก เอาเป็นว่าเล่นบน Nintendo Switch ที่สามารถพกพาไปไหนต่อไหนได้ก็เข้ากับเกมเพลย์แบบ Crash ดี แต่จะหวังให้กราฟิกสู้คอนโซลอื่นๆ คงไม่ได้อยู่แล้ว
เกม Crash Bandicoot 4 ยังคงเป็นเกมที่ต้องใช้ความชำนาญ รวมถึงการฝึกสังเกติ เพราะเป็นเกมที่มีทางลับและไอเทมที่ซ่อนอยู่ รวมไปถึงกับดักต่างๆ ผู้เล่นจะต้องทำความคุ้นเคยกับองค์ประกอบภายในแต่ละด่านที่แตกต่างกันออกไป และอาศัยความอดทนถึงจะเล่นผ่านไปได้
สำหรับผู้เขียนที่เคยเล่นมาก่อนแล้วตั้งแต่ภาคแรก ก็รู้สึกว่ายังยากอยู่พอควรเลยล่ะ แต่ก็สนุกมากๆ และตื่นเต้นกับลูกเล่นใหม่ๆ ด้วยในเวลาเดียวกัน ยิ่งถ้าหากจะเก็บของให้ครบๆ หรือพิชิต Achievements / Trophies ทุกอย่างที่มี เกมก็จะยิ่งมีความยากเพิ่มขึ้นไปอีกเท่าตัว!!
รวมๆ แล้วรู้สึกว่า ทีมสร้างเกมพยายามออกแบบการเล่นให้มีมิติที่จะเล่นสนุกได้หลากหลายมากขึ้นกว่าภาคก่อนๆ มีโหมดทางเลือกในการเล่น การสะสมของภายในเกมที่เยอะมากขึ้น กับดักที่มีรูปแบบใหม่ๆ และมีความต่อเนื่อง(ยาก)มากขึ้น มีตัวละครให้เลือกเล่นได้พร้อมกับมูฟเมนท์หรือเรื่องราวที่แตกต่างกัน การเก็บของบางด่านที่ต้องใช้ไซต์สตอรี่ร่วมด้วยถึงจะสามารถเก็บได้ครบ มีความเป็น puzzle ที่ต้องใช้ไหวพริบ และการสังเกตในการเล่น ถึงจะเป็นเกมที่เล่นค่อนข้างยากสำหรับมือใหม่ แต่ภายในเกมได้มีระบบช่วยเหลือการเล่นเพิ่มขึ้นมา นั่นก็คือ..ถ้าหากผู้เล่นตายในด่านซ้ำๆ จำนวนหลายครั้ง
จะมี Uka Uka ให้ตั้งแต่จุดเกิด (Checkpoint) และจะมี Checkpoint ให้เยอะมากขึ้นกว่าปกติ นั่นก็เพื่อรองรับผู้เล่นใหม่ๆ ให้สามารถเล่นเกมนี้ได้ง่ายกว่าปกติอีกด้วย
ทั้งหมดนี้ทำให้รู้สึกได้ว่า ภาคนี้ตอบโจทย์ในแง่ของการสร้างความหลากหลายในการเล่นได้สำเร็จจริงๆ
ส่วนท่านใดกำลังจะหาเกมเล่น ที่สามาถเล่นได้ยาวๆ ใช้เวลาในการเล่นค่อนข้างมาก ชอบสะสมของภายในเกมที่มีเยอะๆ ฝึกสมองใช้ไหวพริบ ฝึกการสังเกต ชอบความท้าทายชอบเกมเล่นยากๆ ตายซ้ำๆ กับจุดเดิมๆ หัวร้อนเป็นปกติ
ผมก็ขอแนะนำ Crash Bandicoot 4: It's About Time รับรองว่าคุณจะได้สนุก และตื่นเต้นไปกับเกมนี้อย่างแน่นอน
Crash และผองเพื่อน
ในฐานะของคนที่เล่นมาตั้งแต่ภาคแรก
รู้สึกหายคิดถึง เราจะยังได้เห็นอะไรเดิมๆ อยู่บ้าง เช่น ฉากแรกที่ชายหาด เหมือนกับที่ฉากแรกเริ่มใน Crash Bandicoot ภาคแรก หรือฉากที่มีมังกรก็จะนึกถึงด่านกำแพงเมืองจีนในภาค 3 รวมถึงจะฉากวิ่งหนี เราจะต้องวิ่งหนีเหมือนที่เราเคยวิ่งหนีหินกลิ้งแบบภาคก่อนๆ เราจะได้หลบกระแสน้ำวน จะได้สำรวจฉากเพื่อตามหากล่องที่ถูกซ่อนอยู่ ได้ตื่นเต้นกับการเจอเพชรสีต่างๆ ที่ดีใจเหมือนตัวเองได้เจอจริงๆ
จะได้เห็นตัวละครที่คุ้นเคยเราจะได้เจอเพื่อนเก่าอย่าง Crash ที่ขี้เล่นมีสีสันเปื่ยมไปด้วยชีวิตชีวา และน่าหมั่นไส้ในเวลาเดียวกัน รวมถึงวายร้ายอย่าง N. Cortex ที่ยังไม่ยอมแพ้ต่อความอยากจะเอาชนะเหมือนเคย รวมถึง Easter eggs ที่มีอยู่ภายในเกม และที่สำคัญยังคงรู้สึกว่าผมรักเกมนี้จริงๆ แม้ในตอนนี้ผมได้โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ความสนุกที่ได้จากเกมนี้มันโตมากขึ้นกว่าอายุที่เพิ่มขึ้นทุกๆ วันเสียอีก
...บรรยากาศทั้งหมดภายในเกมเหล่านี้เปรียบเสมือนเพื่อนหรือครอบครัวใหญ่ครอบครัวนึงที่เรารอ หรือเคยรอการกลับมา…
ฉากแรกบนชายหาด ที่ทำให้หายคิดถึง หรือคิดถึงมากกว่าเดิม
(แอบมี Easter eggs เกม Spyro the Dragon ด้วยแน่ะ)
...ควรค่าแก่การรอคอยมากๆๆๆๆๆๆ
ขอบคุณมากนะที่กลับมาหาเพื่อนคนนี้อีกครั้ง
และยินดีต้อนรับเสมอไม่ว่าจะอีกกี่ครั้งก็ตาม