GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
บทความ
[ขุมทรัพย์ GF] มารู้จักกับ Paragon: The Overprime คืนชีพเกมแอคชัน MOBA สุดอาภัพของ Epic Games ที่หลายคนไม่มีโอกาสลอง
ลงวันที่ 21/11/2022

หากใครยังจำกันได้ ย้อนเวลาไปสมัยที่ทาง Epic Games เปิดตัวใหม่ ๆ พวกเขาเองก็มีความพยายามในการที่จะแหวกแนวตลาดวิดีโอเกม แถมยังเป็นแนวเกมที่ยอดนิยมเป็นอย่างมาก อย่าง MOBA ด้วยการจับเอากราฟิกสุดสวยงามสมจริงมาดัดแปลงให้เป็นเกม MOBA ซะเลย และเปิดตัวมาในชื่อ Paragon แต่เพราะความสำเร็จของ Fortnite ทาง Epic Games จึงจำใจต้องปิดตัว Paragon ไปในปี 2017 และปล่อย Asset หรือทรัพยากรต่าง ๆ ที่จำเป็นในการทำเกม มาแจกให้ทุกคนเอาไปใช้กันแบบฟรี ๆ และวันนี้ Paragon กลับมาอีกครั้งโดย Netmarble พร้อมชื่อพ่วงอย่าง Paragon: The Overprime แต่มันจะดีงามเหมือนต้นฉบับหรือไม่ ต้องมาดูกัน

ก่อนจะมาเป็น MOBA 3D สุดแหวกแนว


Paragon เป็นเกมที่ทาง Epic Games เป็นผู้อำนวยการสร้างในการพัฒนา สาเหตุมาจากการที่ John Wasilczyk ได้รับโจทย์ที่ค่อนข้างกว้างอย่าง "ทำอะไรก็ได้" และเปิดโอกาสให้สร้างสรรค์ได้อย่างอิสระเต็มที่ในการเริ่มโปรเจกต์นี้ แต่ขอแค่มีองค์ประกอบของความเป็นเกมแอ็คชั่นก็พอ เมื่อโจทย์กว้างขนาดนี้ เกมจึงถูกสร้างมาโดยมีรูปแบบการเล่นให้เป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่ 3 และตัวละครในเกมถูกสร้างให้มีรูปแบบการเคลื่อนไหวที่เฉพาะเป็นของตัวเอง เช่น ฮีโร่ Chimera ที่สามารถกระโดดและโจมตีได้ เป็นต้น

ท้ายที่สุดทีมงานตัดสินใจที่เปลี่ยนแปลงแนวเกมให้กลายเป็นเกม MOBA แต่เป็น MOBA ที่เป็นแบบ Full 3D และมีความเป็นเกมแอ็คชั่นอยู่ และถูกออกแบบมาให้แผนที่นั้น ดูง่าย เข้าใจง่าย และให้มีแนวคิดเหมือนมองจากด้านบนชาม (Like a Bowl) ลงมา ผสมกับการที่มันเป็นเกมแบบ Full 3D มันจึงเข้ากันได้อย่างลงตัวกับการออกแบบเกม


นอกเหนือไปจากนั้น โจทย์ของทีมงานคือการลดความยุ่งยากซับซ้อนในการเล่นเกม MOBA ลง ในตอนแรก การออกแบบไอเทมทั้งหลาย จึงไม่อิงตามเกม MOBA ทั่วไป แต่เป็นระบบการ์ด หยิบการ์ด เลือกการ์ดอะไรมา ก็จะได้ไอเทมชิ้นนั้นมาใช้บวกสเตตัสและความสามารถลงไปในตัวละครเลย น่าเสียดายที่ไอเดียแนวเกม MOBA นี้ มาผิดช่วงผิดเวลามาก เพราะตอนนั้นทั่วทุกวงการเกม ต่างเลือกที่จะผลักดันเกมแนว Battle Royale ทำให้เกมนี้ไม่เป็นกระแสเท่าที่ควร ท้ายที่สุด หลังจากเปิดตัว Fortnite Battle Royale แถมเกมบูมกว่ามาก ทาง Epic จึงจำเป็นจะต้องเลือกเกมใดเกมหนึ่งให้ได้ไปต่อ พวกเขาจึงตัดสินใจถอดเครื่องช่วยหายใจของ Paragon และไปทุ่มกับการพัฒนา Fortnite

กลับมาใหม่ในชื่อ Overprime


จริง ๆ แล้ว หลังจากที่ Paragon ปิดตัวไป ด้วยความที่ทาง Epic Games ก็เสียดายไม่ใช่น้อยที่ต้องสั่งปิดเกมนี้ ทั้งที่แฟนเกมบางส่วนก็ยังพร้อมจะสนับสนุน พวกเขาจึงโชว์ความป๋าด้วยการนำเอา Asset เกมทั้งหมด ที่ใช้ในการสร้างเกม Paragon ปล่อยสู่สาธารณะให้ใครก็ได้สามารถนำไปใช้งานได้อย่างอิสระ ซึ่งก็มีหลากหลายคน พยายามสานต่อ แต่ด้วยทุนสร้างที่น้อย และการออกแบบที่ขาดการประณีต หลากหลายเกมที่ใช้ Asset ของเกมนี้จึงออกมาไม่ค่อยจะเวิร์คนัก จนค่ายเกมยักษ์ใหญ่อย่าง Netmarble เป็นคนออกโรงด้วยตัวเอง

ปี 2022 Netmarble ก็ประกาศเปิดตัว Overprime เกม MOBA Full 3D ที่ตอนแรกยังไม่ได้บอกว่ามันคือการหยิบเอา Asset ของเกม Paragon มาใช้ จนหลายคนก็สงสัยในความเหมือนว่า ทำไมมันช่างคล้ายกับเกมของ Epic แบบนั้น จนในที่สุดทีมงานก็ออกมาเปิดเผยว่า นี่คือเกมที่ใช้ Asset จากเกม Paragon โดยทำการปรับปรุงประสิทธิภาพเกมใหม่ ออกแบบระบบเกมใหม่ จากการใช้ระบบการ์ด ก็เปลี่ยนมาเป็นการออกของทั่วไปแบบเกม MOBA รวมไปถึงปรับปรุงโหมดฝึกสอนหรือ Tutorial ให้หลายคนเข้าใจง่ายขึ้น


ตัวเกมประกาศเปิดตัวในปี 2022 และมีการทดสอบกันไป 2 รอบในเดือนมกราคม และเดือนพฤษภาคม และล่าสุดกับ Final Test เมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนจะเปิดให้เล่นกันจริง ๆ ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งเราเองก็มีโอกาสไปเล่นทดสอบมาทั้ง 3 ครั้ง จึงอยากมาแชร์ประสบการณ์เกมนี้ให้ได้รู้กัน สำหรับใครที่อยากเล่นเกมนี้

โปรดจำไว้ว่า นี่คือเกม MOBA ไม่ใช่เกม Action


ด้วยการออกแบบเกม ที่ถูกออกแบบมาซะสวยงาม จัดเต็ม ราวกับเป็นเกมแอ็คชั่น จึงไม่แปลกใจที่หลายคนจะถูกดึงดูดเข้ามาให้ลองเล่นด้วยความรู้สึกที่คิดว่ามันคือเกมแอ็คชั่นแบ่งทีมแบบ 5vs5 ทั้งที่จริง ๆ แล้วมันคือเกม MOBA สำหรับใครที่เคยเล่นเกม MOBA ย่อมรู้ดีว่า รูปแบบการเล่น และการควบคุมมันจะไม่ใช่แบบเกมแอ็คชั่นทั่วไป การเคลื่อนไหว ท่วงท่าการโจมตีของแต่ละตัวละคร จะมีจังหวะ มีช่วงเวลา เราไม่สามารถสาดพลัง แอ็คชั่น คอมโบศัตรูได้เหมือนเกมแอ็คชั่นทั่วไป

และนี่คือสิ่งหนึ่งที่ผู้เล่นมักจะเข้าใจผิด เพราะคิดว่ามาเล่นเกมแอ็คชั่น ทำให้ระดมสกิล ระดมการโจมตีแบบผิดจังหวะ จนโดนอีกฝ่ายที่อาจจะเล่นเป็น หรือแม่นจังหวะกว่า จัดการเอาได้ง่าย ๆ กฎข้อแรกของการเล่นเกมนี้คือ เข้าใจก่อนว่ามันคือเกม MOBA นั่นเอง

รูปแบบการเล่นที่เคารพต้นฉบับเดิมไว้มากที่สุด


ส่วนของรูปแบบการเล่นเกมอื่น ๆ นั้น ก็เกือบจะเหมือนกับเกม MOBA ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลาสท์ครีป หรือพวกศัตรูทั่วไปในเกม เพื่อได้รับเงิน จากนั้นสะสมเงินกลับไปที่บ้านเกิด เพื่อออกไอเทมที่แข็งแกร่งขึ้นและจัดการกับทีมศัตรู ส่วนของแผนที่นั้น จะแตกต่างกับเกมอื่น เราอาจจะเคยชินกับแผนที่แบบ 3 เลน บน กลาง ล่าง แต่เมื่อเกมนี้เป็น Full 3D รูปแบบแผนที่เป็น 3 เลนเหมือนกัน แต่จะเป็น ซ้าย กลาง ขวา และในแต่ละเลน จะมีการกำหนดตำแหน่งไว้อย่างชัดเจน ว่าตำแหน่งใดควรจะไป ในขณะที่นอกจากสามเลนหลักแล้ว เกมยังมีตำแหน่งที่เรียกว่า Assassin หรือถ้าจะเอาให้เข้าใจง่ายก็คือ Jungle หรือ ป่า ที่แฟนเกม MOBA ชอบเรียกกัน ตำแหน่งนี้จะทำหน้าที่ฟาร์มในป่า แล้วออกช่วยเหลือเลนต่าง ๆ 


ส่วนของหน้าจอการออกไอเทม ก็จะเป็นสูตรเดียวกันกับเกม MOBA ทั่วไป คือเริ่มออกจากของชิ้นเล็กชิ้นน้อย ผสมกันเป็นไอเทมชิ้นใหญ่ ที่มีพลังแฝงสูงขึ้น และมีเอฟเฟคท์แถม หรือมีการกดใช้งานได้ นอกนั้นก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของผู้เล่น

อีกส่วนที่สำคัญไม่แพ้กัน ด้วยความที่เป็นเกม MOBA นั่นคือการที่ตัวเกมใส่ตัวละครหรือฮีโร่เข้ามามากมาย โดยหลัก ๆ จะแบ่งตำแหน่งกันอย่างชัดเจน ส่วนเรื่องความท่และการดีไซน์ตัวละครนั้น ก็ต้องบอกว่าจัดหนักจัดเต็ม สมแล้วที่ทำให้แฟนเกมหลายคนเข้าใจผิดว่ามันคือเกมแอ็คชั่น และหลังจากผ่านการทดสอบทั้ง 3 รอบ ตอนนี้ตัวเกมก็พร้อมที่จะเข้าสู่ช่วง Early Access ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้แล้ว

ความรู้สึกหลังได้ลองเล่นช่วง Beta ที่ผ่านมา


หลังจากเปิดทดสอบกันไป 3 รอบ โดยเฉพาะรอบล่าสุดที่มีการแพทช์ตัวเกมให้รองรับซับไตเติลภาษาไทยด้วยแล้ว สำหรับ Paragon: The Overprime นั้น ถือว่าเป็นเกมที่เล่นยากพอสมควร ด้วยความที่ตัวเกมพยายามจะรักษารูปแบบเกมเพลย์ดั้งเดิมแบบ MOBA เอาไว้ให้ได้มากที่สุด ทำให้แม้ว่าการนำเสนอของมันจะออกมาดีมาก แต่แลกมากับระยะเวลาการเล่นต่อรอบที่นานไม่แพ้เกมรุ่นพี่ นั่นคืออย่างน้อยถ้าจะจบเกมโดยทำให้อีกฝ่ายยอมแพ้ได้ ก็ต้อง 20 นาที และถ้าเกมไหนตึง ๆ ล่ะก็ อย่างน้อยอาจจะมี 40-50 นาทีขึ้นไป

ด้วยความที่ตัวเกมนำเสนอประสบการณ์แบบ Full 3D ดังนั้น กับเกมอื่นที่เราสามารถล็อกเป้าโจมตีครีป หรือตัวศัตรูได้ พอมาเป็น Full 3D ก็ต้องอาศัยความแม่นยำในการยิงและการเล็งล้วน ๆ เรียกได้ว่า ใครที่ยิงไม่แม่น เล็งพลาดบ่อย ๆ ยังไงก็ลำบากแน่นอน และต้องมานั่งปรับ Setting เรื่องความเร็วเมาส์กันอีกด้วย 


อีกข้อที่อาจจะส่งผลกระทบกับบางคนแน่นอน คือเรื่องของเอฟเฟกต์ที่ค่อนข้างฉูดฉาด จัดจ้าน ใครที่ตาลายง่าย เวียนหัวง่าย ต่อให้นี่เป็นเกมแบบ Full 3D ในรูปแบบ Third Person ก็อาจจะมีหลายคนที่เล่นไม่ไหวกันไปซะก่อน และอีกปัญหาหนึ่งคือเรื่องของการแปลภาษาไทย จากการที่ผู้เขียนได้ทดลองเล่นในช่วง Final Test มา จริงอยู่ว่าการแปลไทยนั้น ค่อนข้างครบเครื่อง ทั้งแปลรายละเอียดความสามารถของตัวละคร แปลความสามารถไอเทม ทำให้เกมการเล่นเข้าใจได้ง่ายขึ้น แต่ปัญหาคือฟอนต์ภาษาไทยในเกมที่ตัวเล็กจนอ่านลำบากมาก ก็หวังว่าในช่วงเปิดจริง จะมีการปรับปรุงแก้ไขในส่วนนี้

การกลับมาของ Paragon: The Overprime นั้น ถือว่าน่าสนใจมาก แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ ในยุคสมัยที่แฟนเกม ชอบเกมที่เล่นง่าย เข้าใจง่าย จบเกมได้รวดเร็ว เกมแบบนี้จะยังครองใจผู้คนได้หรือไม่ โดยเฉพาะกับเกมแนว MOBA ที่มียักษ์ใหญ่ครองบัลลังก์อยู่แล้วมากมาย ทั้ง League of Legends, DOTA 2 หรือแม้แต่บนมือถืออย่าง RoV งานนี้ก็ต้องดูกันแล้วว่า Netmarble จะมีวิธีทำให้ Paragon กลับเข้าไปอยู่ในใจแฟนเกมได้อย่างไร


GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[ขุมทรัพย์ GF] มารู้จักกับ Paragon: The Overprime คืนชีพเกมแอคชัน MOBA สุดอาภัพของ Epic Games ที่หลายคนไม่มีโอกาสลอง
21/11/2022

หากใครยังจำกันได้ ย้อนเวลาไปสมัยที่ทาง Epic Games เปิดตัวใหม่ ๆ พวกเขาเองก็มีความพยายามในการที่จะแหวกแนวตลาดวิดีโอเกม แถมยังเป็นแนวเกมที่ยอดนิยมเป็นอย่างมาก อย่าง MOBA ด้วยการจับเอากราฟิกสุดสวยงามสมจริงมาดัดแปลงให้เป็นเกม MOBA ซะเลย และเปิดตัวมาในชื่อ Paragon แต่เพราะความสำเร็จของ Fortnite ทาง Epic Games จึงจำใจต้องปิดตัว Paragon ไปในปี 2017 และปล่อย Asset หรือทรัพยากรต่าง ๆ ที่จำเป็นในการทำเกม มาแจกให้ทุกคนเอาไปใช้กันแบบฟรี ๆ และวันนี้ Paragon กลับมาอีกครั้งโดย Netmarble พร้อมชื่อพ่วงอย่าง Paragon: The Overprime แต่มันจะดีงามเหมือนต้นฉบับหรือไม่ ต้องมาดูกัน

ก่อนจะมาเป็น MOBA 3D สุดแหวกแนว


Paragon เป็นเกมที่ทาง Epic Games เป็นผู้อำนวยการสร้างในการพัฒนา สาเหตุมาจากการที่ John Wasilczyk ได้รับโจทย์ที่ค่อนข้างกว้างอย่าง "ทำอะไรก็ได้" และเปิดโอกาสให้สร้างสรรค์ได้อย่างอิสระเต็มที่ในการเริ่มโปรเจกต์นี้ แต่ขอแค่มีองค์ประกอบของความเป็นเกมแอ็คชั่นก็พอ เมื่อโจทย์กว้างขนาดนี้ เกมจึงถูกสร้างมาโดยมีรูปแบบการเล่นให้เป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่ 3 และตัวละครในเกมถูกสร้างให้มีรูปแบบการเคลื่อนไหวที่เฉพาะเป็นของตัวเอง เช่น ฮีโร่ Chimera ที่สามารถกระโดดและโจมตีได้ เป็นต้น

ท้ายที่สุดทีมงานตัดสินใจที่เปลี่ยนแปลงแนวเกมให้กลายเป็นเกม MOBA แต่เป็น MOBA ที่เป็นแบบ Full 3D และมีความเป็นเกมแอ็คชั่นอยู่ และถูกออกแบบมาให้แผนที่นั้น ดูง่าย เข้าใจง่าย และให้มีแนวคิดเหมือนมองจากด้านบนชาม (Like a Bowl) ลงมา ผสมกับการที่มันเป็นเกมแบบ Full 3D มันจึงเข้ากันได้อย่างลงตัวกับการออกแบบเกม


นอกเหนือไปจากนั้น โจทย์ของทีมงานคือการลดความยุ่งยากซับซ้อนในการเล่นเกม MOBA ลง ในตอนแรก การออกแบบไอเทมทั้งหลาย จึงไม่อิงตามเกม MOBA ทั่วไป แต่เป็นระบบการ์ด หยิบการ์ด เลือกการ์ดอะไรมา ก็จะได้ไอเทมชิ้นนั้นมาใช้บวกสเตตัสและความสามารถลงไปในตัวละครเลย น่าเสียดายที่ไอเดียแนวเกม MOBA นี้ มาผิดช่วงผิดเวลามาก เพราะตอนนั้นทั่วทุกวงการเกม ต่างเลือกที่จะผลักดันเกมแนว Battle Royale ทำให้เกมนี้ไม่เป็นกระแสเท่าที่ควร ท้ายที่สุด หลังจากเปิดตัว Fortnite Battle Royale แถมเกมบูมกว่ามาก ทาง Epic จึงจำเป็นจะต้องเลือกเกมใดเกมหนึ่งให้ได้ไปต่อ พวกเขาจึงตัดสินใจถอดเครื่องช่วยหายใจของ Paragon และไปทุ่มกับการพัฒนา Fortnite

กลับมาใหม่ในชื่อ Overprime


จริง ๆ แล้ว หลังจากที่ Paragon ปิดตัวไป ด้วยความที่ทาง Epic Games ก็เสียดายไม่ใช่น้อยที่ต้องสั่งปิดเกมนี้ ทั้งที่แฟนเกมบางส่วนก็ยังพร้อมจะสนับสนุน พวกเขาจึงโชว์ความป๋าด้วยการนำเอา Asset เกมทั้งหมด ที่ใช้ในการสร้างเกม Paragon ปล่อยสู่สาธารณะให้ใครก็ได้สามารถนำไปใช้งานได้อย่างอิสระ ซึ่งก็มีหลากหลายคน พยายามสานต่อ แต่ด้วยทุนสร้างที่น้อย และการออกแบบที่ขาดการประณีต หลากหลายเกมที่ใช้ Asset ของเกมนี้จึงออกมาไม่ค่อยจะเวิร์คนัก จนค่ายเกมยักษ์ใหญ่อย่าง Netmarble เป็นคนออกโรงด้วยตัวเอง

ปี 2022 Netmarble ก็ประกาศเปิดตัว Overprime เกม MOBA Full 3D ที่ตอนแรกยังไม่ได้บอกว่ามันคือการหยิบเอา Asset ของเกม Paragon มาใช้ จนหลายคนก็สงสัยในความเหมือนว่า ทำไมมันช่างคล้ายกับเกมของ Epic แบบนั้น จนในที่สุดทีมงานก็ออกมาเปิดเผยว่า นี่คือเกมที่ใช้ Asset จากเกม Paragon โดยทำการปรับปรุงประสิทธิภาพเกมใหม่ ออกแบบระบบเกมใหม่ จากการใช้ระบบการ์ด ก็เปลี่ยนมาเป็นการออกของทั่วไปแบบเกม MOBA รวมไปถึงปรับปรุงโหมดฝึกสอนหรือ Tutorial ให้หลายคนเข้าใจง่ายขึ้น


ตัวเกมประกาศเปิดตัวในปี 2022 และมีการทดสอบกันไป 2 รอบในเดือนมกราคม และเดือนพฤษภาคม และล่าสุดกับ Final Test เมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนจะเปิดให้เล่นกันจริง ๆ ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งเราเองก็มีโอกาสไปเล่นทดสอบมาทั้ง 3 ครั้ง จึงอยากมาแชร์ประสบการณ์เกมนี้ให้ได้รู้กัน สำหรับใครที่อยากเล่นเกมนี้

โปรดจำไว้ว่า นี่คือเกม MOBA ไม่ใช่เกม Action


ด้วยการออกแบบเกม ที่ถูกออกแบบมาซะสวยงาม จัดเต็ม ราวกับเป็นเกมแอ็คชั่น จึงไม่แปลกใจที่หลายคนจะถูกดึงดูดเข้ามาให้ลองเล่นด้วยความรู้สึกที่คิดว่ามันคือเกมแอ็คชั่นแบ่งทีมแบบ 5vs5 ทั้งที่จริง ๆ แล้วมันคือเกม MOBA สำหรับใครที่เคยเล่นเกม MOBA ย่อมรู้ดีว่า รูปแบบการเล่น และการควบคุมมันจะไม่ใช่แบบเกมแอ็คชั่นทั่วไป การเคลื่อนไหว ท่วงท่าการโจมตีของแต่ละตัวละคร จะมีจังหวะ มีช่วงเวลา เราไม่สามารถสาดพลัง แอ็คชั่น คอมโบศัตรูได้เหมือนเกมแอ็คชั่นทั่วไป

และนี่คือสิ่งหนึ่งที่ผู้เล่นมักจะเข้าใจผิด เพราะคิดว่ามาเล่นเกมแอ็คชั่น ทำให้ระดมสกิล ระดมการโจมตีแบบผิดจังหวะ จนโดนอีกฝ่ายที่อาจจะเล่นเป็น หรือแม่นจังหวะกว่า จัดการเอาได้ง่าย ๆ กฎข้อแรกของการเล่นเกมนี้คือ เข้าใจก่อนว่ามันคือเกม MOBA นั่นเอง

รูปแบบการเล่นที่เคารพต้นฉบับเดิมไว้มากที่สุด


ส่วนของรูปแบบการเล่นเกมอื่น ๆ นั้น ก็เกือบจะเหมือนกับเกม MOBA ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลาสท์ครีป หรือพวกศัตรูทั่วไปในเกม เพื่อได้รับเงิน จากนั้นสะสมเงินกลับไปที่บ้านเกิด เพื่อออกไอเทมที่แข็งแกร่งขึ้นและจัดการกับทีมศัตรู ส่วนของแผนที่นั้น จะแตกต่างกับเกมอื่น เราอาจจะเคยชินกับแผนที่แบบ 3 เลน บน กลาง ล่าง แต่เมื่อเกมนี้เป็น Full 3D รูปแบบแผนที่เป็น 3 เลนเหมือนกัน แต่จะเป็น ซ้าย กลาง ขวา และในแต่ละเลน จะมีการกำหนดตำแหน่งไว้อย่างชัดเจน ว่าตำแหน่งใดควรจะไป ในขณะที่นอกจากสามเลนหลักแล้ว เกมยังมีตำแหน่งที่เรียกว่า Assassin หรือถ้าจะเอาให้เข้าใจง่ายก็คือ Jungle หรือ ป่า ที่แฟนเกม MOBA ชอบเรียกกัน ตำแหน่งนี้จะทำหน้าที่ฟาร์มในป่า แล้วออกช่วยเหลือเลนต่าง ๆ 


ส่วนของหน้าจอการออกไอเทม ก็จะเป็นสูตรเดียวกันกับเกม MOBA ทั่วไป คือเริ่มออกจากของชิ้นเล็กชิ้นน้อย ผสมกันเป็นไอเทมชิ้นใหญ่ ที่มีพลังแฝงสูงขึ้น และมีเอฟเฟคท์แถม หรือมีการกดใช้งานได้ นอกนั้นก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของผู้เล่น

อีกส่วนที่สำคัญไม่แพ้กัน ด้วยความที่เป็นเกม MOBA นั่นคือการที่ตัวเกมใส่ตัวละครหรือฮีโร่เข้ามามากมาย โดยหลัก ๆ จะแบ่งตำแหน่งกันอย่างชัดเจน ส่วนเรื่องความท่และการดีไซน์ตัวละครนั้น ก็ต้องบอกว่าจัดหนักจัดเต็ม สมแล้วที่ทำให้แฟนเกมหลายคนเข้าใจผิดว่ามันคือเกมแอ็คชั่น และหลังจากผ่านการทดสอบทั้ง 3 รอบ ตอนนี้ตัวเกมก็พร้อมที่จะเข้าสู่ช่วง Early Access ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้แล้ว

ความรู้สึกหลังได้ลองเล่นช่วง Beta ที่ผ่านมา


หลังจากเปิดทดสอบกันไป 3 รอบ โดยเฉพาะรอบล่าสุดที่มีการแพทช์ตัวเกมให้รองรับซับไตเติลภาษาไทยด้วยแล้ว สำหรับ Paragon: The Overprime นั้น ถือว่าเป็นเกมที่เล่นยากพอสมควร ด้วยความที่ตัวเกมพยายามจะรักษารูปแบบเกมเพลย์ดั้งเดิมแบบ MOBA เอาไว้ให้ได้มากที่สุด ทำให้แม้ว่าการนำเสนอของมันจะออกมาดีมาก แต่แลกมากับระยะเวลาการเล่นต่อรอบที่นานไม่แพ้เกมรุ่นพี่ นั่นคืออย่างน้อยถ้าจะจบเกมโดยทำให้อีกฝ่ายยอมแพ้ได้ ก็ต้อง 20 นาที และถ้าเกมไหนตึง ๆ ล่ะก็ อย่างน้อยอาจจะมี 40-50 นาทีขึ้นไป

ด้วยความที่ตัวเกมนำเสนอประสบการณ์แบบ Full 3D ดังนั้น กับเกมอื่นที่เราสามารถล็อกเป้าโจมตีครีป หรือตัวศัตรูได้ พอมาเป็น Full 3D ก็ต้องอาศัยความแม่นยำในการยิงและการเล็งล้วน ๆ เรียกได้ว่า ใครที่ยิงไม่แม่น เล็งพลาดบ่อย ๆ ยังไงก็ลำบากแน่นอน และต้องมานั่งปรับ Setting เรื่องความเร็วเมาส์กันอีกด้วย 


อีกข้อที่อาจจะส่งผลกระทบกับบางคนแน่นอน คือเรื่องของเอฟเฟกต์ที่ค่อนข้างฉูดฉาด จัดจ้าน ใครที่ตาลายง่าย เวียนหัวง่าย ต่อให้นี่เป็นเกมแบบ Full 3D ในรูปแบบ Third Person ก็อาจจะมีหลายคนที่เล่นไม่ไหวกันไปซะก่อน และอีกปัญหาหนึ่งคือเรื่องของการแปลภาษาไทย จากการที่ผู้เขียนได้ทดลองเล่นในช่วง Final Test มา จริงอยู่ว่าการแปลไทยนั้น ค่อนข้างครบเครื่อง ทั้งแปลรายละเอียดความสามารถของตัวละคร แปลความสามารถไอเทม ทำให้เกมการเล่นเข้าใจได้ง่ายขึ้น แต่ปัญหาคือฟอนต์ภาษาไทยในเกมที่ตัวเล็กจนอ่านลำบากมาก ก็หวังว่าในช่วงเปิดจริง จะมีการปรับปรุงแก้ไขในส่วนนี้

การกลับมาของ Paragon: The Overprime นั้น ถือว่าน่าสนใจมาก แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ ในยุคสมัยที่แฟนเกม ชอบเกมที่เล่นง่าย เข้าใจง่าย จบเกมได้รวดเร็ว เกมแบบนี้จะยังครองใจผู้คนได้หรือไม่ โดยเฉพาะกับเกมแนว MOBA ที่มียักษ์ใหญ่ครองบัลลังก์อยู่แล้วมากมาย ทั้ง League of Legends, DOTA 2 หรือแม้แต่บนมือถืออย่าง RoV งานนี้ก็ต้องดูกันแล้วว่า Netmarble จะมีวิธีทำให้ Paragon กลับเข้าไปอยู่ในใจแฟนเกมได้อย่างไร


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header