แม้จะเป็นเกม Play-to-EARN แต่ในบทความนี้จะไม่มีคำเตือนเรื่องการลงทุน เพราะเราจะพาไปเล่นเกม NFTs สัญชาติไทยอย่าง Morning Moon Village ตามสไตล์สายฟรีกันจ้า~ เย้!!~

ต้องขอบอกเลยว่า แม้เราจะไม่โฟกัสกับการทำเงินจาก Morning Moon Village แต่เพราะเป็น Browser Game ที่คนมีคอมและอินเทอร์เน็ตทำให้ทุกคนสามารถเข้ามาสนุกได้ และด้วยความง่ายของเกมก็ทำให้เล่นได้เพลินมากๆ เบื่อแล้วก็แค่กดออกไม่มีผลอะไรกับกิจกรรมในเกมทั้งสิ้น ดีเลยใช่ไหมล่ะ! ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าถ้าไม่ลงทุนเลย เราจะสามารถทำอะไรได้บ้าง? แล้ว... ผลตอบแทนที่ได้จะเป็นอย่างไรบ้างนะ?

ใช้ Wallet ของ Bitkub NEXT

ก่อนอื่นเลย ให้เราไปสมัครกระเป๋า Bitkub NEXT เป็นอันดับแรก หลายคนอาจมีคำถามว่า 'อ้าว! ไหนว่าฟรี ทำไมต้องมี wallet' คำตอบคือ เพราะ wallet มันก็คือไอดีเกมยังไงล่ะ! ก็คิดเสียว่าเป็นการสร้างบัญชีเกมแบบหนึ่งแล้วกัน แถมขั้นตอนการสมัครยังง่ายกว่าสร้างไอดีของหลายๆ เกมด้วยซ้ำ! ไม่เชื่อลองดูขั้นตอนตามด้านล่างนี้ได้เลย

1. เข้าไปที่หน้าบัญชี Bitkub NEXT แล้วเลือกสร้างบัญชี

2. กรอกข้อมูลตามช่องด้านล่าง กดยอมรับเงื่อนไข เท่านี้เป็นอักเรียบร้อย! แค่นี้เอง!! ง่ายมากเลยใช่ไหมล่ะ! เท่านี้เราก็พร้อมเป็นชาวฟาร์มกันแล้วจ้า~

เข้าสู่หมู่บ้าน Morning Moon

เมื่อเรา Log-in ด้วย Bitkub NEXT แล้วก็จะเข้าสู่หน้าสร้างตัวละคร ก็ปรับแต่งได้เต็มที่เลย จากนั้นเราก็จะมาอยู่หน้าโรงหน้าโล่งๆ ในตอนนี้ให้เราเริ่มลงแปลงผักเลย โดยลงเฉพาะแบบธรรมดาซึ่งอยู่แถบด้านบนสุดก็เพียงพอแล้ว เพราะอีก 2 แบบนั้น เราจำเป็นต้องลงทุนเหรียญ KUSDT หรือ KUB เพื่อซื้อ Stem มาปลูก ฉะนั้นเราจะข้ามในส่วนของแปลงทั้ง 2 แบบไปแล้วกันเนอะ

และเมื่อเพื่อนๆ วางแปลงผักแล้วจะมีหน้าแจ้งเตือนเรื่องค่า gas หรือเรียกง่ายว่าๆ ว่าเป็นค่าธรรมเนียมในการดำเนินกิจกรรมภายในเกม ซึ่งสำหรับผู้ที่ใช้กระเป๋า Bitkub NEXT จะสามารถได้รับการยกเว้นค่า gas ฟรี! วันละ 200 ครั้ง นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราให้ทุกคนสมัครไอดีด้วย Bitkub NEXT นั่นเอง โดย Quota Transaction นี้จะถูกรีเซ็ตทุกๆ เที่ยงคืนจ้า

หลังจากวางแปลงผักได้มุมที่พอใจแล้ว ก็เตรียมตัวเข้าป่าหาของกันเลย!

Step การล่าของป่า

ในตอนนี้ ตัวเกมยังเปิดพื้นที่ให้เราหาของได้เพียง 3 แมพก็คือ The crossing, Floral woods และ Pine valley ซึ่งเราสามารถเลือกเข้าที่ไหนก่อนก็ได้ โดยการเข้า 1 ครั้งจะใช้ Lodestone 1 ชิ้น และ Lodestone จะเพิ่มขึ้น 1 ชิ้นทุกๆ 2 ชั่วโมง

เมื่อเราเข้ามาแล้วจะมี Energy ให้เราใช้ 100 แต้ม โดยในการ action 1 ครั้งเราจะเสีย 4 Energy แนะนำว่าให้เริ่มจากการหากล่องสมบัติหรือกล่องใส่ของก่อน เพื่อหาสมบัติ ของกิน และทรัพยากรที่บรรจุอยู่ภายในก่อน โดยเราจะต้องทุบกล่องประมาณ 1-2 ครั้งของภายในจึงจะออกมา ถ้าได้ของแรร์ก็ถือว่าโชคดีเลย จากนั้นค่อยตัดไม้หรือกระเทาะหินทีหลังก็ได้ ซึ่งถ้าเราตัดต้นไม้ใหญ่หรือหินก้อนใหญ่ต้องคลิ๊ก 6 ครั้ง หรือเท่ากับเสีย 24 Energy ส่วนตอไม้และหินก้อนเล็กจะใช้แค่ 3 คลิ๊ก นอกจากนี้ยังมีขอนไม้และเศษหินที่เราสามารถเก็บได้ภายในคลิ๊กเดียว ก็อย่าลืมคำนวนแต้ม Energy ให้ดีในการเข้าป่าแต่ละครั้งด้วยล่ะ

ในแต่ละแผนที่ จะมีลักษณะที่ค่อนข้างแตกต่างกันโดย Pine Valley เหมาะกับการกอบโกยไม้และหิน เพราะในป่าแห่งนี้จะไม่ค่อยมีอะไรพิเศษ ผิดกับ Floral woods ที่จะมีต้นไม้แบบพิเศษซึ่งเราสามารถเก็บรังผึ้งได้ ถ้าได้มาก็สามารถนำไปคราฟต์เป็นของใช้ดีๆ ได้เลย อีกทั้งยังมีโอกาสเจอดอกไม้ชนิดต่างๆ ที่สามารถขายเป็น LUMI ได้โดยตรงด้วย นับว่าได้กำไรมาแบบหวานหมูเลยล่ะ

ถ้า Energy หมดทำอย่างไรดี?

หากมีทรัพยากรที่อยากได้แล้วเหลืออีกแค่ 1-2 คลิ๊ก ก็สามารถกดใช้ผลไม้ที่เราเก็บได้จากในป่าหรือกล่อง แต่ถ้าให้แนะนำจริงๆ Energy หมดปุ๊บกลับเมืองเลยจ้า~ เพราะทันทีที่เราเข้าเมือง Energy จะถูกรีเซตกลับมาเต็ม 100 ทันที แล้วเราก็รอให้ระบบรีเซตป่าสักครู่หรือวิ่งไปป่าในอีกแผนที่แทนเลยก็ได้ ทำแบบนี้สลับกันไปเรื่อยๆ จนกว่า Lodestone จะหมด เท่านี้เราก็จะได้ทรัพยากรมาจำนวนมากแล้วซึ่งของที่หาได้จะมีจำนวนเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับการบริหาร Energy ของเราเลย ว่าจะใช้มันได้คุ้มแค่ไหน และเราจะเน้นไปที่การเก็บเกี่ยวไม้หรือหินมากกว่ากันนั่นเอง แต่ถ้าให้คำนวณแบบหยาบๆ เราจะสามารถได้รับทรัพยากรรวมประมาณ 600-700 ชิ้น หากใช้ Lodestone จนหมด 30 อัน โดยในจำนวนนี้ไม่นับรวมพวกของกินและสมบัติที่เราอาจเก็บได้ระหว่างเข้าป่านะ ก็นับว่าเยอะเลยแหละ

ซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกกันเถอะ

เมื่อเรามีไม้และหินมากพอแล้ว ให้หอบทรัพยากรเหล่านั้นไปหา Uncle Jack เพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์ โดยมะเขือเทศจะใช้ไม้ 10 ชิ้น, ข้าวโพดใช้หิน 10 ชิ้น ส่วนกะหล่ำปลีใช้ไม้กับหินอย่างละ 5 ชิ้น ถ้าสมมุติว่าเราใช้ทรัพยากรที่หามาได้จากการเข้าป่าครบ 30 ครั้ง จะได้เมล็ดพืชมา 40-60 เมล็ด ใครอยากได้เมล็ดไหนเท่าไหร่ก็ลองคำนวณให้ดีก่อนเข้าป่าไปจะช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นเยอะเลย 

เมื่อได้เมล็ดมาแล้วก็ลุยปลูกเลย แล้วรอเวลาเก็บเกี่ยวได้เลย ซึ่งถ้าทำตามทุก step จนมาถึงขั้นตอนนี้เราจะใช้เวลาเพียงวันละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น (เข้าป่าครั้งละไม่เกิน 2 นาที บวกเวลาเดินไปซื้อของและนำผักลงแปลงอีกเล็กน้อย) ถ้าไม่เจอปัญหา "ไก่หมุน" (Transaction waiting) นานล่ะก็ ถือว่าใช้เวลาเล่นต่อไว้ไม่มากเลย มีเวลาไปทำอย่างอื่นอีกตั้งเยอะแน่ะ! ส่วนเรื่อง Quota Transaction ก็ไม่ต้องห่วง ยังไงก็ใช้ไม่เกิน 200 ครั้งอยู่แล้ว ..เชื่อเราสิ..

คำแนะนำ: ให้รอผลผลิตโตให้เต็มที่ก่อนค่อยเก็บ โดยพืชพันธุ์ 1 แปลงเมื่อโตแล้วจะอยู่ได้ 48 ชั่วโมง ให้เราคำนวณเวลาแล้วเข้ามาเก็บในชั่วโมงสุดท้ายก่อนผลผลิตจะเน่าเสีย เพราะช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่ได้ผลผลิตเยอะที่สุด แต่ถ้ารีบเราก็จะได้มาน้อยและไม่คุ้มกับการถางแปลงทิ้ง

เราสามารถเช็คจำนวนผลผลิตที่เราจะได้ที่ Produce rate อย่างกะหล่ำปลีในภาพที่ปลูกโดยใช้เมล็ด 4 เมล็ด จะผลิตได้ 0.13 crop ต่อวัน ซึ่งพืชแต่ละชนิดก็จะมีกำลังการผลิตต่างกัน แต่ถ้าคำนวณคร่าวๆ จากเมล็ดพืชที่เราหาได้ในแต่ละวัน ก็จะได้ผลผลิตประมาณ 1.3 - 1.9 crop ต่อวัน ถ้ารอจนครบ 48 ชั่วโมงก็ได้คูณ 2 ไปเลย~

ทำอย่างไรกับผลผลิตได้บ้าง

หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตมาแล้ว เราสามารถนำมาคราฟต์อาหารกับ Matilda เพื่อใช้เพิ่ม Energy เวลาเข้าป่าได้ หรือจะนำไปแลกเป็นเหรียญ LUMI ที่ Kyle ก็ได้เช่นกันโดยผลผลิต 1 crop คิดเป็น 0.1 LUMI หาก 1 วันเราสามารถผลิตได้อย่างน้อย 1.6 crop ก็เท่ากับได้ 0.16 LUMI ต่อวัน 

เมื่อเราสะสม LUMI ไว้มากพอ จะสามารถนำมาแลกของกับ The Mayor ซึ่งเขาจะมีกล่องสุ่มมาขายให้เราในราคา 200 LUMI โดยภายในเราจะมีโอกาสได้รับเมล็ดพืช ผลไม้ สมบัติ ของใช้ ไปจนสามารถลุ้นคอสตูมหายากได้อีกด้วย และ The Mayor ยังมีของใช้สำหรับเข้าป่าอีกหลายอย่างให้เราเลือกหยิบกันด้วย ลองไปคุยกับเขาดูนะ

แล้วพวกผลไม้ที่เก็บจากในป่ามาได้ล่ะ? เห็นบอกว่าไม่แนะนำให้กินเพิ่ม Energy ใช่ไหมล่ะ เพราะเราจะให้ไปคราฟต์กับ Matilda ยังไงล่ะ! ซึ่งเราจะได้อาหารที่ดีขึ้นพร้อมทั้งยังเพิ่มความสนิทกับ NPC ได้ด้วย ประเด็นอยู่ตรงนี้แหละ... เพราะตั้งแต่ shop lv.2 ขึ้นไป เราสามารถคราฟต์อุปกรณ์เข้าป่าที่ดีกว่าเดิมได้ ซึ่งจะช่วยให้เราประหยัด Energy ในการเข้าป่าได้และทำให้เรากอบโกยทรัพยากรได้มากขึ้นด้วย ดีไปเลยใช่ไหมล่ะ!

===============================

ซึ่งการเล่นแบบหมุนเวียเศรษฐกิจภายในเกม (และฟาร์มของเราคนเดียว) ก็จะออกมาประมาณนี้

ใครที่อยากหาเกมเล่นเพลินๆ สะสมทรัพยากรไว้แล้วรอรับแจคพอต โดยใช้เวลาต่อวันไม่มาก

เราก็ขอแนะนำวิธีการตามนี้เลยจ้า~ เป็นไง? เล่นง่าย มีอะไรให้ทำเพียบเลยใช่ไหม?

===============================

เพิ่มเติม: สำหรับคนที่อยากสร้างรายได้แบบจริงจัง

หากถามว่าเล่นแบบสายฟรีแต่จะซีเรียสเรื่องหาเงินจะเป็นไปได้ไหม ก็ต้องตอบว่า "ได้อยู่แล้ว" เพียงแต่คุณต้องอาศัยความขยันและการจัดการเวลารวมถึงทรัพยากรทุกอย่างในเกมอย่างรอบคอบ

อย่างที่บอกว่า Lodestone จะเพิ่มขึ้น 1 เม็ดในทุกๆ 2 ชั่วโมง เราก็อาจจะยิงยาว 1 ชั่วโมงแล้วอาจจะรอยาวๆ ก่อนกลับมาเข้าป่าใหม่อีกระลอกหนึ่งก็ยังได้ จากนั้นค่อยซื้อและปลูกเมล็ดพันธุ์ในคราวเดียวเลยเพื่อเป็นการประหยัด Quota Transaction แบบนี้จะทำให้เราได้ผลผลิตมากขึ้นและสามารถนำไปสร้างกำไรได้มากขึ้นนั่นเอง

โดยหากเรานำ LUMI ที่ได้ไปขายแลกเป็นเงินบาท เทียบราคาแล้วจะอยู่ที่ 16.5 บาท ต่อ 1 LUMI (ราคา ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2021) ซึ่งในแต่ละวันถ้าขยันจริงๆ ก็มีโอกาสทำกำไรได้มากถึงวันละ 500 บาทเลยล่ะ

หรือถ้าไม่แลก LUMI เราสามารถนำ seed หรือเมล็ดพันธุ์ไปขายโดยตรงเลย จะได้ราคาประมาณ 2.5 บาทต่อ 1 เมล็ด (ราคา ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2021)  ก็ลองชั่งน้ำหนักดูว่าอยากซื้อ-ขายแบบไหน

ว่าแต่.. จะไปขายหรือแลกเปลี่ยนที่ไหนได้ล่ะ? คำตอบคือ ของทุกอย่างที่เราหาได้ในเกมจะอยู่ในกระเป๋า Bitkub NEXT ซึ่งเราสามารถเข้าไปเช็คได้ในเว็บหรือแอปของ Bitkub NEXT ได้เลย จากนั้นให้ไปเช็คราคาและแลกเปลี่ยนของกันในกลุ่ม Facebook ว่าช่วงนี้มีใครรับอะไรบ้าง ราคาเป็นอย่างไร น่าปล่อยหรือเก็บไว้เก็งกำไรก่อนดี ที่นี่มีทุกอย่างที่คุณอยากรู้จ้า 

ส่วนการซื้อขายในช่วงนี้ จะเป็นการโอนของจากกระเป๋า Bitkub NEXT ของคนหนึ่งไปให้อีกคนหนึ่ง ส่วนเงินบาทที่จะได้ก็เป็นการโอนเข้าบัญชี เท่ากับว่าเป็นการตกลงกันแบบตัวต่อตัวนั่นเอง สำหรับใครที่ไม่ไว้ใจ กลัวโดนโกงก็รออีกสักนิด เดี๋ยว Marketplace ก็จะเปิดแล้ว ทีนี้ก็มีตลาดกลางให้จัดการจบในหน้าเดียวโดยไม่ต้องกังวลอีกต่อไป ^0^