GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
บทความ
MOD คืออะไร ? ทำไมชาว PC มักชอบใช้ขิง แล้วมันดีจริงๆ หรือ ?
ลงวันที่ 06/05/2021

นอกจากเรื่อง กราฟิก หรือ เฟรมเรต แล้ว  "Modding (ม๊อดดิ้ง)" น่าจะเป็นอีกหนึ่งในสื่งที่ชาว PC Master Race (เป็นคำไว้เรียกเกมเมอร์สาย PC ที่ฝักใฝ่และรัก PC Gaming เพียงอย่างเดียว) มักจะเอามาขิงข่าใส่ชาว Console อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งการปรับแต่งเกมตามใจชอบ น่าจะเป็นสิ่งที่ชาวเกมเมอร์ส่วนใหญ่อยากจะลองทำ โดยเฉพาะกับเกมสุดโปรดของเรา ที่บางครั้งผู้พัฒนาก็ทำบางจุดออกมาได้ไม่ถูกใจเรา
    ซึ่งก็ไม่เป็นไร เพราะชาว Mod ก็จะแก้ไข ปรับปรุง ปรับแต่งจนถูกใจกันจนได้ หรือเกมบางเกมที่ดูจืดชืดเหลือเกิน แต่พอมี Modder ผู้สร้างสรรค์เข้ามาทำ Mods ประหลาดๆ เพิ่มนู้นเพิ่มนี้ขึ้นมา ทำให้เกมที่แสนจำเจนั้น กลายเป็นเกมที่น่าสนใจขึ้นมาซะงั้น... แต่การที่คนทั่วๆ ไปสามารถปรับแต่งเกมกันเอง สร้างนู้นสร้างนี่ขึ้นมาเอง มันดีแล้วจริงๆ หรือ?  วันนี้ผมจะมาอธิบายให้ฟังครับ

Mods คืออะไร มีประเภทไหนบ้าง
    ย่อมาจากคำว่า Modification (ความหมายโดยตรงคือ “การปรับเปลี่ยน”, “การแก้ไข” หรือ “การดัดแปลง”) แต่ความหมายจริงๆ ของคำว่า Mod ของเราในที่นี้ อาจจะอธิบายสั้นๆ ว่ามันคือการปรับเปลี่ยน ปรับแต่ง ดัดแปลง ปรับปรุง หรือแก้ไขบางอย่างภายในเกม โดยอาจจะกระทำจากตัวเราเองหรือบุคคลอื่นก็ได้ โดยการกระทำดังกล่าวอาจจะทำให้ตัวเกมเปลี่ยนแปลงไปในทางใดก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น การดัดแปลงวิวทิวทัศน์ภายในเกม การแก้ไข Bug จุกจิกที่ผู้พัฒนาออกมาแก้ช้าเหลือเกิน การปรับแต่งให้เกมสามารถปฏิบัติการบนฮาร์ดแวร์บางอย่างได้ดีขึ้น เป็นต้น
    จากคำอธิบายที่กล่าวมา อาจจะไม่ใช่ “ความหมาย” จริงๆ ของคำว่า Mod  แต่นั่นคือความหมายที่ผมพยายามจะอธิบายมันออกมาให้คนที่ไม่รู้จัก สามารถเข้าใจได้โดยง่าย แต่ผมเชื่อว่า เกมเมอร์ทั่วไป โดยเฉพาะ เกมเมอร์สาย PC Master Race  น่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว 
    Mods สามารถแบ่งประเภทง่ายๆ ได้ 5 ประเภท ดังนี้


1. Mod เปลี่ยนทั้งเกม (เปลี่ยนแปลงเกมเก่าให้กลายเป็นเกมใหม่ไปเลย) คือ การ Mod เนื้อหาภายในเกมขนานใหญ่ อาจจะเป็นการเข้าไปดัดแปลงกราฟิกหรือเกมเพลย์หรือทั้งคู่เลยก็ได้ โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ตัวเกมหลักเปลี่ยนไปในทางอื่นโดยสิ้นเชิง หรืออาจจะเปลี่ยนประเภทของเกมจากเดิมไปเลยก็ได้ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ เช่น การ Mod เกม Half Life ให้กลายเป็นเกม Counter-Strike หรือการ Mod เกม Warcraft 3 ให้กลายเป็นเกม Dota (Defense of the Ancients) เป็นต้น



2. Mod ยกเครื่อง/อัปเกรดเกม (เปลี่ยนแปลงเกมเก่าให้กลายเป็นเกมเก่าที่ดีขึ้น) คือ การ Mod เกมที่เน้นการยกเครื่องเกมเดิมให้ดีขึ้น แต่จะไม่เปลี่ยนแปลงเกมเดิมนี้มากจนกลายเป็นเกมใหม่ไปเสีย โดยส่วนใหญ่จะเน้นการปรับปรุงกราฟิกให้สวยงามขึ้น ทันสมัยขึ้น หรือจะอาจจะปรับปรุงเกมเพลย์ให้ดีขึ้นเล็กน้อย แต่จะยังคงกลิ่นอาย และรสชาติของเกมเดิมๆ ไว้ ส่วนใหญ่จะไม่เข้ามาแก้ไขส่วนของเกมเพลย์มากจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกมสูญเสียตัวตนดั้งเดิม ยกตัวอย่างเช่นการ Mod เกม Deus Ex เกมเก่ายุค 2000 ให้กลายเป็นเกมที่ทันสมัยขึ้นใน Deus Ex: Revision หรือการ Mod เกมสุดคลาสสิคอย่าง The Elder Scrolls III: Morrowind ให้กลายเป็นเกมที่ภาพสวย เสียงใส ทันสมัยขึ้นเยอะด้วย Mod “OUTDATED - Morrowind Overhaul”



3. Mod กราฟิก  คือการ Mod เกมที่เน้นการปรับแต่งงานด้านกราฟิกของเกมให้ถูกใจคนเล่นมากขึ้น โดยจะแตกต่างจากข้อก่อนหน้าตรงที่จะมีการเข้ามาแก้ไขเกมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้ถึงกับยกเครื่องใหม่ทั้งเกม อาจจะมีการแก้ไขแค่การปรับ Shade สีภายในเกมเพียงเล็กน้อยไปจนถึงการปรับให้พื้นผิวภาพในเกมคมชัดมากขึ้น (High-Definition Textures) ส่วนใหญ่จะเน้นแค่ให้ภาพในเกมถูกใจคนเล่นมากขึ้นเท่านั้น (บางคนชอบเล่นภาพสีสด บางคนชอบเล่นภาพสีหม่นๆ เน้นสมจริง เป็นต้น) ยกตัวอย่างเช่น Mod “Skyrim HD - 2K Texture” Mod ยอดฮิตที่ชาว Skyrim บน PC มักจะลงไว้เพื่อภาพในเกมที่ดูสวยสดงดงามมากขึ้น หรือ Mod “RDR2 Photorealistic reshade” Mod จากเกม Red Dead Redemtion 2 ที่ปกติภาพก็สวยล้ำสมัยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เมื่อได้รับการปรับแต่งเพิ่มเติมจาก Mod นี้เสริมอีก ภาพในเกมก็ยิ่งสวยสดงดงามไปอีกขั้น



4. Mod Unofficial-Patch คือการ Mod เกมที่เน้นการแก้ไขข้อผิดพลาด หรือพัฒนาจุดด้อยของตัวเกมให้ดียิ่งขึ้นเช่นปัญหาบั๊ค เกมล่ม เกมค้าง โหลดช้าต่างๆ เหล่านี้ เป็นปัญหาพื้นฐานที่ชาวเกมเมอร์หลายคนต้องประสบ ซึ่งโดยปกติแล้วผู้พัฒนาจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยเร็ว เพื่อให้ลูกค้าสามารถเล่นเกมนั้นๆ ได้อย่างราบรื่น แต่บางครั้งคำว่าเร็วของเรา กับคำว่าเร็วของผู้พัฒนาก็ต่างกัน บ่อยครั้งจึงมี Modder เก่งๆ คอยปล่อย Mod Unofficial-Patch ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเหล่านี้ไปก่อนได้ ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาจากเกม GTA V ที่โหลดเข้าโหมด Online ช้ามาก ซึ่งปัญหานี้มีมาตั้งแต่เกมเปิดตัว (เมื่อประมาณ 7 ปีก่อน) และด้วยระยะเวลาที่ล่วงเลยมานาน แฟนเกมต่างก็ถอดใจ และคิดว่าปัญหานี้ทาง Rockstar Games ก็คงทำอะไรไม่ได้ แต่เมื่อไม่นานมานี้ เกมเมอร์นาม “tostercx” ได้พบกับต้นตอปัญหาดังกล่าว และเขาก็พยายามแก้ไขมันด้วยตัวเอง และสุดท้ายผลลัพธ์ก็ออกมาดีเกินคาด เค้าแจกจ่าย Mod ที่ทำให้เกมสามารถโหลดได้เร็วขึ้นมาก (จากประมาณ 6 นาทีเหลือแค่ไม่ถึง 2 นาที) นี่นับเป็นความสำเร็จที่สวยงามสำหรับ Modder คนหนึ่ง จน Rockstar Games ต้องนำไปปรับใช้ในตัวเกมหลักอย่างเป็นทางการ รวมถึงตบรางวัลอย่างงามเป็นเงินกว่า 300,000 บาทให้กับเจ้าตัวอีกด้วย

5. Mod Add-on/เสริม-เติมแต่ง คือการ Mod เกมที่เน้นการเพิ่มหรือดัดแปลงเนื้อหาบางอย่างเล็กๆ น้อยๆ เข้าไปในเกม ไม่ว่าจะเป็นตัวละครใหม่ ด่านใหม่ อาวุธใหม่ แผนที่ใหม่ เป็นต้น (Mod ภาษาไทย ที่เป็นที่นิยมในบ้านเรา ผมก็ขอยกไว้ในประเภทนี้ด้วยเช่นกัน) โดยการ Mod ประเภทนี้น่าจะเป็นที่นิยมที่สุดในทุกๆ ประเภท เพราะง่ายทั้งการติดตั้งและการทำความเข้าใจ และง่ายในการสร้างขึ้นมาอีกด้วย ยกตัวอย่าง Mod ประเภทนี้ได้แก่ Mod เพิ่ม “ภาษาไทย” เข้ามาในสุดยอดเกมอย่าง The Witcher 3 โดยฝีมือแฟนเกมชาวไทยคนละไม้ละมือช่วยกันแปล หรือ Mod สุดปั่นประสาทอย่างการเปลี่ยน Okami ในเกม Sekiro: Shadows Die Twice ให้กลายเป็น Genji จากเกม Overwatch อะไรแบบนั้น



Mods สร้างผลดี/ผลเสียอะไรบ้าง


จากที่กล่าวไปข้างต้น เห็นได้ว่าการ Mod เกมอาจจะมีผลดีต่อผู้เล่นก็จริง แต่ในความเป็นจริงก็อาจจะสร้างผลเสียต่อผู้เล่นได้ไม่น้อยเช่นกัน ถ้าจะต้องสรุปความเห็นของผู้เขียนทั้งข้อดีและข้อเสียของการ Mod เกมอาจจะแบ่งได้ดังนี้

ข้อดี

  • “สร้าง Replay Value ให้กับเกมมากขึ้น” อันเนื่องมาจากการลง Mods อาจจะทำให้การเล่นเกมในแต่ละครั้งเกิดความแตกต่าง ไม่ว่าจะแตกต่างแค่ในความรู้สึก หรืออาจจะแตกต่างจริงๆ ด้วยตาเห็นเลยก็ได้ เช่น Mod Realistic Survival Damage จากเกม Fallout 4 ที่จะทำให้การยิงปะทะกันสมจริงสุดๆ ซึ่งถึงแม้ว่าจะในการเล่น เราจะไม่ได้เห็นอย่างชัดเจนว่าการความเสียหายนั้นเพิ่มขึ้นมากน้อยเท่าใด แต่ในความรู้สึกของผู้เล่นนั้นจะสัมผัสได้ถึงความสมจริงอย่างมีนัยสำคัญ หรือ Mod LooksMenu จากเกมเดียวกัน ที่เข้าไปเปลี่ยนหน้าต่างสำหรับปรับแต่งหน้าตาตัวละครให้ละเอียด และหลากหลายมากขึ้น ซึ่ง Mod นี้จะทำให้เราเห็นถึงความแตกต่างระหว่างก่อนและหลังติดตั้ง ได้อย่างชัดเจนมากกว่า Mod แรก เป็นต้น ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่ ทำให้เราอยากจะเล่นเกมนี้ซ้ำเข้าไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับเกมที่เน้นการเล่นซ้ำอยู่แล้ว อย่างเกมแนว Rogelike นั่นเอง

 

  • “ทำให้เล่นเกมได้สนุกขึ้น” ไม่ว่าเกมที่เราชื่นชอบจะดีงามและถูกใจเรามากขนาดไหน แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้ ที่จะถูกใจเราไปซะทุกอย่าง คงจะมีบางจุด บางมุมที่เรารู้สึกว่าอยากให้เป็นแบบนั้นแบบนี้ หรือบางจุดบางปัญหาที่ควรจะได้รับการแก้ไข ซึ่งแน่นอนว่า Mod สามารถสนองความต้องการนั้นได้ คุณจะสามารถแก้ไขเกมไปในทิศทางที่คุณชอบแบบไหนก็ได้ หรือถ้า Mod ที่มียังไม่สนองความต้องการของเรา งั้นก็ลองศึกษา แล้วเขียน Mod ขึ้นมาเองเลยสิ (ได้ความรู้ด้วยนะ) ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเกมที่เรารักอยู่แล้วสามารถแก้ไขตัวเองให้ถูกใจเรามากขึ้นไปอีก หรือสามารถแก้ไขปัญหาจุกจิกออกไปได้ การเล่นเกมเกมนั้นคงสนุกขึ้นอีกหลายเท่าเลยใช่ไหมครับ


  • “เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ให้กับทั้งนักเสพและนักสร้าง” การจะสร้าง Mod หนึ่งขึ้นมาได้ นอกจากจะต้องใช้ความรู้ทางเทคนิคต่างๆ แล้ว ยังต้องมีความคิดริเริ่มและความคิดสร้างสรรค์เป็นอย่างมากด้วย โดยเฉพาะพวก Mod ที่เป็นผลงานดั้งเดิมจาก Modder เอง ที่พยายามสร้างสรรค์อะไรบางอย่างออกมาเพื่อสนองความต้องการของตนเอง รวมถึงแฟนๆ ของเกมนั้นๆ ด้วย โดยผลที่ออกมาจากความคิดสร้างสรรค์ของผู้สร้างบางครั้งมันก็ดีจนเกินคาด จากแค่ Mod กลายเป็นเกมใหม่ไปซะงั้น (เช่น CS หรือ DOTA ดังที่กล่าวไปข้างต้น) ซึ่งไม่ใช่แค่กับผู้สร้างอย่างเดียว ที่จะสามารถใช้พื้นที่ในการ Mod เกมเพื่อแบ่งปันปันไอเดียของตัวเอง แต่สำหรับในฐานะผู้เสพอย่างเราๆ การจะดึง Mod นี้มาลง ดึง Mod นั้นมาปรับใช้ ก็ถือเป็นการได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ในการที่จะออกแบบเกมขึ้นมาในแบบของตัวเราเอง ในความคิดเห็นส่วนตัว ผู้เขียนมองว่าขั้นตอนการเลือก Mod แล้วจินตนาการว่าถ้ามันอยู่ในเกมของเรามันจะดียังไง หรือถ้ามันใช้ร่วมกับ Mod นี้มันจะดียังไง นี่นับเป็นความสนุกของการลง Mod อีกอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้





ข้อเสีย

  • “Hacker โปรแกรมโกง โปรแกรมช่วยเล่น เริ่มต้นจากตรงนี้” ข้อเสียที่ใหญ่หลวงสุดๆ ของวงการ Mod ก็คือเหล่าผู้เล่นหัวหมอ ที่พยายามจะเอาเปรียบผู้เล่นคนอื่นด้วยการ “โกง” ไม่ว่าจะเป็น Aimbot, Aimlock, Wallhack หรืออะไรก็ตาม จุดเริ่มต้นก็มาจากการแก้ไข ดัดแปลงตัวเกมนั่นเอง ซึ่งก็คงเถียงไม่ได้ว่าถ้าชาว PC จะขิงข่าใส่ชาว Console ว่า “ข้ามี Mod” ก็คงต้องยอมรับ หากชาว Console ตอกกลับมาว่า “เอ็งก็มี Hack เหมือนกันละโว้ย” โดยหากมองจากข้อดีของการ Mod เกมว่ามันทำให้เกมสนุกขึ้น เล่นได้ยาวนานขึ้นจริง ก็คงต้องมองในมุมกลับเหมือนกันว่า เกมที่มี Hack ที่เกิดจากการ Mod นั้น มันก็ทำให้เกมเล่นไม่สนุกไปด้วยเช่นกัน

 

  • “เกิดความเสี่ยงกับ Software และ Hardware” ก่อนการลง Mod เกม มักจะมีคำเตือนเสมอว่าให้ Back up ไฟล์เกม/ไฟล์เซฟ ไว้ก่อน เพราะการลง Mod นั้นคือการเข้าไปแก้ไข ดัดแปลงอะไรบางอย่างในตัวเกม ซึ่งเราก็ไม่อาจรู้ได้ว่าการปรับแต่งนั้นๆ มันจะเสถียรหรือปลอดภัยแค่ไหน ซึ่ง Mod ต่างๆ ที่มีการแจกจ่ายออกมาเราก็ไม่รู้ด้วยว่า Modder คนที่ทำนั้นเก่งแค่ไหน มีอะไรแอบแฝงหรือไม่ หรือถึงแม้ว่า Mod ที่เราใช้จะมาจาก Modder ยอดฝีมือก็ตาม แต่ถ้าหากเรามีการลง Mod ผิดพลาดเองหรือลง Mod มากเกินไป จนสุดท้ายเกิดความผิดพลาดอะไรบางอย่างขึ้นมาในตัวเกม กรณีอย่างเบาก็อาจจะแค่เกมมีแสดงผลผิดเพี้ยน หรือถ้ากรณีอย่างหนัก อาจจะเปิดเกมไม่ติด แก้ไขไม่ได้ ต้อง Re-install เกมใหม่เลยก็ได้ ซึ่งความเสี่ยงต่างๆ เหล่านี้ ชาว Mod ที่ตัดสินใจจะ Mod เกมของตัวเองแล้ว ต้องยอมรับความเสี่ยงกันเอาเอง



    โดยสรุปแล้ว Mod ถือเป็นดาบสองคม สามารถสร้างคุณูปการให้กับวงการเกมก็จริง แต่มันก็เป็นจุดกำเนิดของความด่างพร้อยของวงการเกมเช่นกัน ดังนั้นสุดท้ายนี้ ผมอยากจะให้ทุกคนได้ลองตอบคำถามสำคัญที่ว่า “หากต้องเลือกระหว่างลง Mod ได้เต็มที่ แต่เกม Multiplayer บางเกมต้องเล่นกับ Hacker หรือจะเลือกลง Mod ไม่ได้ แต่เกม Multiplayer รับรองว่าไม่มี Hacker แน่นอน ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกทางไหน” ใครมีความเห็นอย่างไร ลองแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ และสำหรับใครที่สนใจอยากจะลองเจ้าสู่วงการ Mod และกำลังหาเกมเล่นอยู่ รอติดตามบทความ “แนะนำเกมสำหรับสาย Mod” ที่จะเป็นบทความถัดไปได้เลยครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบ สวัสดีครับ



GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
MOD คืออะไร ? ทำไมชาว PC มักชอบใช้ขิง แล้วมันดีจริงๆ หรือ ?
06/05/2021

นอกจากเรื่อง กราฟิก หรือ เฟรมเรต แล้ว  "Modding (ม๊อดดิ้ง)" น่าจะเป็นอีกหนึ่งในสื่งที่ชาว PC Master Race (เป็นคำไว้เรียกเกมเมอร์สาย PC ที่ฝักใฝ่และรัก PC Gaming เพียงอย่างเดียว) มักจะเอามาขิงข่าใส่ชาว Console อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งการปรับแต่งเกมตามใจชอบ น่าจะเป็นสิ่งที่ชาวเกมเมอร์ส่วนใหญ่อยากจะลองทำ โดยเฉพาะกับเกมสุดโปรดของเรา ที่บางครั้งผู้พัฒนาก็ทำบางจุดออกมาได้ไม่ถูกใจเรา
    ซึ่งก็ไม่เป็นไร เพราะชาว Mod ก็จะแก้ไข ปรับปรุง ปรับแต่งจนถูกใจกันจนได้ หรือเกมบางเกมที่ดูจืดชืดเหลือเกิน แต่พอมี Modder ผู้สร้างสรรค์เข้ามาทำ Mods ประหลาดๆ เพิ่มนู้นเพิ่มนี้ขึ้นมา ทำให้เกมที่แสนจำเจนั้น กลายเป็นเกมที่น่าสนใจขึ้นมาซะงั้น... แต่การที่คนทั่วๆ ไปสามารถปรับแต่งเกมกันเอง สร้างนู้นสร้างนี่ขึ้นมาเอง มันดีแล้วจริงๆ หรือ?  วันนี้ผมจะมาอธิบายให้ฟังครับ

Mods คืออะไร มีประเภทไหนบ้าง
    ย่อมาจากคำว่า Modification (ความหมายโดยตรงคือ “การปรับเปลี่ยน”, “การแก้ไข” หรือ “การดัดแปลง”) แต่ความหมายจริงๆ ของคำว่า Mod ของเราในที่นี้ อาจจะอธิบายสั้นๆ ว่ามันคือการปรับเปลี่ยน ปรับแต่ง ดัดแปลง ปรับปรุง หรือแก้ไขบางอย่างภายในเกม โดยอาจจะกระทำจากตัวเราเองหรือบุคคลอื่นก็ได้ โดยการกระทำดังกล่าวอาจจะทำให้ตัวเกมเปลี่ยนแปลงไปในทางใดก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น การดัดแปลงวิวทิวทัศน์ภายในเกม การแก้ไข Bug จุกจิกที่ผู้พัฒนาออกมาแก้ช้าเหลือเกิน การปรับแต่งให้เกมสามารถปฏิบัติการบนฮาร์ดแวร์บางอย่างได้ดีขึ้น เป็นต้น
    จากคำอธิบายที่กล่าวมา อาจจะไม่ใช่ “ความหมาย” จริงๆ ของคำว่า Mod  แต่นั่นคือความหมายที่ผมพยายามจะอธิบายมันออกมาให้คนที่ไม่รู้จัก สามารถเข้าใจได้โดยง่าย แต่ผมเชื่อว่า เกมเมอร์ทั่วไป โดยเฉพาะ เกมเมอร์สาย PC Master Race  น่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว 
    Mods สามารถแบ่งประเภทง่ายๆ ได้ 5 ประเภท ดังนี้


1. Mod เปลี่ยนทั้งเกม (เปลี่ยนแปลงเกมเก่าให้กลายเป็นเกมใหม่ไปเลย) คือ การ Mod เนื้อหาภายในเกมขนานใหญ่ อาจจะเป็นการเข้าไปดัดแปลงกราฟิกหรือเกมเพลย์หรือทั้งคู่เลยก็ได้ โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ตัวเกมหลักเปลี่ยนไปในทางอื่นโดยสิ้นเชิง หรืออาจจะเปลี่ยนประเภทของเกมจากเดิมไปเลยก็ได้ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ เช่น การ Mod เกม Half Life ให้กลายเป็นเกม Counter-Strike หรือการ Mod เกม Warcraft 3 ให้กลายเป็นเกม Dota (Defense of the Ancients) เป็นต้น



2. Mod ยกเครื่อง/อัปเกรดเกม (เปลี่ยนแปลงเกมเก่าให้กลายเป็นเกมเก่าที่ดีขึ้น) คือ การ Mod เกมที่เน้นการยกเครื่องเกมเดิมให้ดีขึ้น แต่จะไม่เปลี่ยนแปลงเกมเดิมนี้มากจนกลายเป็นเกมใหม่ไปเสีย โดยส่วนใหญ่จะเน้นการปรับปรุงกราฟิกให้สวยงามขึ้น ทันสมัยขึ้น หรือจะอาจจะปรับปรุงเกมเพลย์ให้ดีขึ้นเล็กน้อย แต่จะยังคงกลิ่นอาย และรสชาติของเกมเดิมๆ ไว้ ส่วนใหญ่จะไม่เข้ามาแก้ไขส่วนของเกมเพลย์มากจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกมสูญเสียตัวตนดั้งเดิม ยกตัวอย่างเช่นการ Mod เกม Deus Ex เกมเก่ายุค 2000 ให้กลายเป็นเกมที่ทันสมัยขึ้นใน Deus Ex: Revision หรือการ Mod เกมสุดคลาสสิคอย่าง The Elder Scrolls III: Morrowind ให้กลายเป็นเกมที่ภาพสวย เสียงใส ทันสมัยขึ้นเยอะด้วย Mod “OUTDATED - Morrowind Overhaul”



3. Mod กราฟิก  คือการ Mod เกมที่เน้นการปรับแต่งงานด้านกราฟิกของเกมให้ถูกใจคนเล่นมากขึ้น โดยจะแตกต่างจากข้อก่อนหน้าตรงที่จะมีการเข้ามาแก้ไขเกมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้ถึงกับยกเครื่องใหม่ทั้งเกม อาจจะมีการแก้ไขแค่การปรับ Shade สีภายในเกมเพียงเล็กน้อยไปจนถึงการปรับให้พื้นผิวภาพในเกมคมชัดมากขึ้น (High-Definition Textures) ส่วนใหญ่จะเน้นแค่ให้ภาพในเกมถูกใจคนเล่นมากขึ้นเท่านั้น (บางคนชอบเล่นภาพสีสด บางคนชอบเล่นภาพสีหม่นๆ เน้นสมจริง เป็นต้น) ยกตัวอย่างเช่น Mod “Skyrim HD - 2K Texture” Mod ยอดฮิตที่ชาว Skyrim บน PC มักจะลงไว้เพื่อภาพในเกมที่ดูสวยสดงดงามมากขึ้น หรือ Mod “RDR2 Photorealistic reshade” Mod จากเกม Red Dead Redemtion 2 ที่ปกติภาพก็สวยล้ำสมัยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เมื่อได้รับการปรับแต่งเพิ่มเติมจาก Mod นี้เสริมอีก ภาพในเกมก็ยิ่งสวยสดงดงามไปอีกขั้น



4. Mod Unofficial-Patch คือการ Mod เกมที่เน้นการแก้ไขข้อผิดพลาด หรือพัฒนาจุดด้อยของตัวเกมให้ดียิ่งขึ้นเช่นปัญหาบั๊ค เกมล่ม เกมค้าง โหลดช้าต่างๆ เหล่านี้ เป็นปัญหาพื้นฐานที่ชาวเกมเมอร์หลายคนต้องประสบ ซึ่งโดยปกติแล้วผู้พัฒนาจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยเร็ว เพื่อให้ลูกค้าสามารถเล่นเกมนั้นๆ ได้อย่างราบรื่น แต่บางครั้งคำว่าเร็วของเรา กับคำว่าเร็วของผู้พัฒนาก็ต่างกัน บ่อยครั้งจึงมี Modder เก่งๆ คอยปล่อย Mod Unofficial-Patch ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเหล่านี้ไปก่อนได้ ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาจากเกม GTA V ที่โหลดเข้าโหมด Online ช้ามาก ซึ่งปัญหานี้มีมาตั้งแต่เกมเปิดตัว (เมื่อประมาณ 7 ปีก่อน) และด้วยระยะเวลาที่ล่วงเลยมานาน แฟนเกมต่างก็ถอดใจ และคิดว่าปัญหานี้ทาง Rockstar Games ก็คงทำอะไรไม่ได้ แต่เมื่อไม่นานมานี้ เกมเมอร์นาม “tostercx” ได้พบกับต้นตอปัญหาดังกล่าว และเขาก็พยายามแก้ไขมันด้วยตัวเอง และสุดท้ายผลลัพธ์ก็ออกมาดีเกินคาด เค้าแจกจ่าย Mod ที่ทำให้เกมสามารถโหลดได้เร็วขึ้นมาก (จากประมาณ 6 นาทีเหลือแค่ไม่ถึง 2 นาที) นี่นับเป็นความสำเร็จที่สวยงามสำหรับ Modder คนหนึ่ง จน Rockstar Games ต้องนำไปปรับใช้ในตัวเกมหลักอย่างเป็นทางการ รวมถึงตบรางวัลอย่างงามเป็นเงินกว่า 300,000 บาทให้กับเจ้าตัวอีกด้วย

5. Mod Add-on/เสริม-เติมแต่ง คือการ Mod เกมที่เน้นการเพิ่มหรือดัดแปลงเนื้อหาบางอย่างเล็กๆ น้อยๆ เข้าไปในเกม ไม่ว่าจะเป็นตัวละครใหม่ ด่านใหม่ อาวุธใหม่ แผนที่ใหม่ เป็นต้น (Mod ภาษาไทย ที่เป็นที่นิยมในบ้านเรา ผมก็ขอยกไว้ในประเภทนี้ด้วยเช่นกัน) โดยการ Mod ประเภทนี้น่าจะเป็นที่นิยมที่สุดในทุกๆ ประเภท เพราะง่ายทั้งการติดตั้งและการทำความเข้าใจ และง่ายในการสร้างขึ้นมาอีกด้วย ยกตัวอย่าง Mod ประเภทนี้ได้แก่ Mod เพิ่ม “ภาษาไทย” เข้ามาในสุดยอดเกมอย่าง The Witcher 3 โดยฝีมือแฟนเกมชาวไทยคนละไม้ละมือช่วยกันแปล หรือ Mod สุดปั่นประสาทอย่างการเปลี่ยน Okami ในเกม Sekiro: Shadows Die Twice ให้กลายเป็น Genji จากเกม Overwatch อะไรแบบนั้น



Mods สร้างผลดี/ผลเสียอะไรบ้าง


จากที่กล่าวไปข้างต้น เห็นได้ว่าการ Mod เกมอาจจะมีผลดีต่อผู้เล่นก็จริง แต่ในความเป็นจริงก็อาจจะสร้างผลเสียต่อผู้เล่นได้ไม่น้อยเช่นกัน ถ้าจะต้องสรุปความเห็นของผู้เขียนทั้งข้อดีและข้อเสียของการ Mod เกมอาจจะแบ่งได้ดังนี้

ข้อดี

  • “สร้าง Replay Value ให้กับเกมมากขึ้น” อันเนื่องมาจากการลง Mods อาจจะทำให้การเล่นเกมในแต่ละครั้งเกิดความแตกต่าง ไม่ว่าจะแตกต่างแค่ในความรู้สึก หรืออาจจะแตกต่างจริงๆ ด้วยตาเห็นเลยก็ได้ เช่น Mod Realistic Survival Damage จากเกม Fallout 4 ที่จะทำให้การยิงปะทะกันสมจริงสุดๆ ซึ่งถึงแม้ว่าจะในการเล่น เราจะไม่ได้เห็นอย่างชัดเจนว่าการความเสียหายนั้นเพิ่มขึ้นมากน้อยเท่าใด แต่ในความรู้สึกของผู้เล่นนั้นจะสัมผัสได้ถึงความสมจริงอย่างมีนัยสำคัญ หรือ Mod LooksMenu จากเกมเดียวกัน ที่เข้าไปเปลี่ยนหน้าต่างสำหรับปรับแต่งหน้าตาตัวละครให้ละเอียด และหลากหลายมากขึ้น ซึ่ง Mod นี้จะทำให้เราเห็นถึงความแตกต่างระหว่างก่อนและหลังติดตั้ง ได้อย่างชัดเจนมากกว่า Mod แรก เป็นต้น ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่ ทำให้เราอยากจะเล่นเกมนี้ซ้ำเข้าไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับเกมที่เน้นการเล่นซ้ำอยู่แล้ว อย่างเกมแนว Rogelike นั่นเอง

 

  • “ทำให้เล่นเกมได้สนุกขึ้น” ไม่ว่าเกมที่เราชื่นชอบจะดีงามและถูกใจเรามากขนาดไหน แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้ ที่จะถูกใจเราไปซะทุกอย่าง คงจะมีบางจุด บางมุมที่เรารู้สึกว่าอยากให้เป็นแบบนั้นแบบนี้ หรือบางจุดบางปัญหาที่ควรจะได้รับการแก้ไข ซึ่งแน่นอนว่า Mod สามารถสนองความต้องการนั้นได้ คุณจะสามารถแก้ไขเกมไปในทิศทางที่คุณชอบแบบไหนก็ได้ หรือถ้า Mod ที่มียังไม่สนองความต้องการของเรา งั้นก็ลองศึกษา แล้วเขียน Mod ขึ้นมาเองเลยสิ (ได้ความรู้ด้วยนะ) ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเกมที่เรารักอยู่แล้วสามารถแก้ไขตัวเองให้ถูกใจเรามากขึ้นไปอีก หรือสามารถแก้ไขปัญหาจุกจิกออกไปได้ การเล่นเกมเกมนั้นคงสนุกขึ้นอีกหลายเท่าเลยใช่ไหมครับ


  • “เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ให้กับทั้งนักเสพและนักสร้าง” การจะสร้าง Mod หนึ่งขึ้นมาได้ นอกจากจะต้องใช้ความรู้ทางเทคนิคต่างๆ แล้ว ยังต้องมีความคิดริเริ่มและความคิดสร้างสรรค์เป็นอย่างมากด้วย โดยเฉพาะพวก Mod ที่เป็นผลงานดั้งเดิมจาก Modder เอง ที่พยายามสร้างสรรค์อะไรบางอย่างออกมาเพื่อสนองความต้องการของตนเอง รวมถึงแฟนๆ ของเกมนั้นๆ ด้วย โดยผลที่ออกมาจากความคิดสร้างสรรค์ของผู้สร้างบางครั้งมันก็ดีจนเกินคาด จากแค่ Mod กลายเป็นเกมใหม่ไปซะงั้น (เช่น CS หรือ DOTA ดังที่กล่าวไปข้างต้น) ซึ่งไม่ใช่แค่กับผู้สร้างอย่างเดียว ที่จะสามารถใช้พื้นที่ในการ Mod เกมเพื่อแบ่งปันปันไอเดียของตัวเอง แต่สำหรับในฐานะผู้เสพอย่างเราๆ การจะดึง Mod นี้มาลง ดึง Mod นั้นมาปรับใช้ ก็ถือเป็นการได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ในการที่จะออกแบบเกมขึ้นมาในแบบของตัวเราเอง ในความคิดเห็นส่วนตัว ผู้เขียนมองว่าขั้นตอนการเลือก Mod แล้วจินตนาการว่าถ้ามันอยู่ในเกมของเรามันจะดียังไง หรือถ้ามันใช้ร่วมกับ Mod นี้มันจะดียังไง นี่นับเป็นความสนุกของการลง Mod อีกอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้





ข้อเสีย

  • “Hacker โปรแกรมโกง โปรแกรมช่วยเล่น เริ่มต้นจากตรงนี้” ข้อเสียที่ใหญ่หลวงสุดๆ ของวงการ Mod ก็คือเหล่าผู้เล่นหัวหมอ ที่พยายามจะเอาเปรียบผู้เล่นคนอื่นด้วยการ “โกง” ไม่ว่าจะเป็น Aimbot, Aimlock, Wallhack หรืออะไรก็ตาม จุดเริ่มต้นก็มาจากการแก้ไข ดัดแปลงตัวเกมนั่นเอง ซึ่งก็คงเถียงไม่ได้ว่าถ้าชาว PC จะขิงข่าใส่ชาว Console ว่า “ข้ามี Mod” ก็คงต้องยอมรับ หากชาว Console ตอกกลับมาว่า “เอ็งก็มี Hack เหมือนกันละโว้ย” โดยหากมองจากข้อดีของการ Mod เกมว่ามันทำให้เกมสนุกขึ้น เล่นได้ยาวนานขึ้นจริง ก็คงต้องมองในมุมกลับเหมือนกันว่า เกมที่มี Hack ที่เกิดจากการ Mod นั้น มันก็ทำให้เกมเล่นไม่สนุกไปด้วยเช่นกัน

 

  • “เกิดความเสี่ยงกับ Software และ Hardware” ก่อนการลง Mod เกม มักจะมีคำเตือนเสมอว่าให้ Back up ไฟล์เกม/ไฟล์เซฟ ไว้ก่อน เพราะการลง Mod นั้นคือการเข้าไปแก้ไข ดัดแปลงอะไรบางอย่างในตัวเกม ซึ่งเราก็ไม่อาจรู้ได้ว่าการปรับแต่งนั้นๆ มันจะเสถียรหรือปลอดภัยแค่ไหน ซึ่ง Mod ต่างๆ ที่มีการแจกจ่ายออกมาเราก็ไม่รู้ด้วยว่า Modder คนที่ทำนั้นเก่งแค่ไหน มีอะไรแอบแฝงหรือไม่ หรือถึงแม้ว่า Mod ที่เราใช้จะมาจาก Modder ยอดฝีมือก็ตาม แต่ถ้าหากเรามีการลง Mod ผิดพลาดเองหรือลง Mod มากเกินไป จนสุดท้ายเกิดความผิดพลาดอะไรบางอย่างขึ้นมาในตัวเกม กรณีอย่างเบาก็อาจจะแค่เกมมีแสดงผลผิดเพี้ยน หรือถ้ากรณีอย่างหนัก อาจจะเปิดเกมไม่ติด แก้ไขไม่ได้ ต้อง Re-install เกมใหม่เลยก็ได้ ซึ่งความเสี่ยงต่างๆ เหล่านี้ ชาว Mod ที่ตัดสินใจจะ Mod เกมของตัวเองแล้ว ต้องยอมรับความเสี่ยงกันเอาเอง



    โดยสรุปแล้ว Mod ถือเป็นดาบสองคม สามารถสร้างคุณูปการให้กับวงการเกมก็จริง แต่มันก็เป็นจุดกำเนิดของความด่างพร้อยของวงการเกมเช่นกัน ดังนั้นสุดท้ายนี้ ผมอยากจะให้ทุกคนได้ลองตอบคำถามสำคัญที่ว่า “หากต้องเลือกระหว่างลง Mod ได้เต็มที่ แต่เกม Multiplayer บางเกมต้องเล่นกับ Hacker หรือจะเลือกลง Mod ไม่ได้ แต่เกม Multiplayer รับรองว่าไม่มี Hacker แน่นอน ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกทางไหน” ใครมีความเห็นอย่างไร ลองแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ และสำหรับใครที่สนใจอยากจะลองเจ้าสู่วงการ Mod และกำลังหาเกมเล่นอยู่ รอติดตามบทความ “แนะนำเกมสำหรับสาย Mod” ที่จะเป็นบทความถัดไปได้เลยครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบ สวัสดีครับ



บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header