แม้ว่าจะมีประวัติศาสตร์ในวงการเกมมายาวนานไม่แพ้ตัวเอกหน้าไหน ๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเจ้าเม่นสายฟ้า Sonic นั้นไม่ได้เป็นที่นิยมในวงการเกมเท่ากับสมัยก่อนอีกต่อไปแล้ว แม้จะได้ความนิยมของฉบับภาพยนตร์มาช่วยประคองไว้บ้างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ทั้งหมดนี้กำลังจะเปลี่ยนไปพร้อมกับการมาถึงของ Sonic Frontiers เกมแอคชัน 3D แนว "Open Zone" ใหม่ล่าสุด ที่กำลังจะวางจำหน่ายในเดือนพฤษจิกายนนี้
ทางทีมงาน GameFever เองได้มีโอกาสเข้าร่วมพูดคุยสัมภาษณ์กับสมาชิกทีมพัฒนาระดับสูงของเกม Sonic Frontiers สองท่านด้วยกัน คือคุณ Takashi Iizuka (หัวหน้าทีมพัฒนาเกม Sonic ทั้งหมด) และคุณ Morio Kishimoto (ผู้กำกับเกม Sonic Frontiers) ซึ่งพูดถึงแนวคิดในการออกแบบระบบใหม่ ๆ ของเกม และความคาดหวังอันสูงลิ่วของทีมพัฒนา ที่อยากให้ Sonic Frontiers เป็นเกมที่ผลักให้ Sonic สามารถทวงตำแหน่งยักษ์ใหญ่แห่งวงการเกมได้อีกครั้ง!
(อ่านความเห็นทีมงานหลังทดลองเล่นเดโมเกม)
(บทสัมภาษณ์ดังกล่าวได้รับการดัดแปลงเพื่อความกระชับ)
Sonic Frontiers ถือเป็นการนำเสนอเกมเพลย์แนวใหม่สำหรับซีรีส์ Sonic โดยรวมเลยทีเดียว ลองพูดให้ฟังได้ไหมว่าคุณมีแนวคิดอย่างไรในการออกแบบเกมเพลย์ในภาคล่าสุดนี้
“อย่างที่เรารู้กันว่า Sonic เป็นซีรีส์ที่มีประวัติมายาวนานกว่า 31 ปีแล้ว ซึ่งมีต้นกำเนิดในแนวเกม Side-scroller ก่อนที่เกมภาคหลัง ๆ อย่าง Sonic Adventure เป็นต้นมา จะเริ่มหันมาสู่เกมเพลย์แนวแอคชัน 3D มากขึ้น ซึ่งตลอดระยะเวลาอันยาวนานของซีรีส์ ทีมพัฒนาก็ได้พยายามจะต่อยอดเกมเพลย์แนวแอคชันนั้นมาเรื่อย ๆ จนถึงจุดหนึ่งที่เราเริ่มตั้งคำถามว่า “เราจะผลักดันซีรีส์ไปข้างหน้าได้อย่างไรบ้าง” เรารู้สึกว่าเกมภาคใหม่นี้ต้องมีองค์ประกอบที่เป็นการพัฒนาขึ้นจากเกมก่อน ๆ อย่างชัดเจน เพื่อให้ซีรีส์สามารถแข่งขันกับเกมอื่น ๆ ได้ในอนาคต ซึ่งเราคาดหวังว่าระบบ Open Zone ของเราจะช่วยให้ Sonic โดดเด่นขึ้นจากเกมแนวใกล้เคียงกัน
แน่นอนว่ามันคงมีความเป็นไปได้หลายทางในการผลักดันซีรีส์ไปข้างหน้า แต่เราก็เชื่อว่าหนทางที่เราเลือกนี้จะเป็นผลดีกับทั้งแบรนด์ Sonic โดยรวม และต่อทีมพัฒนาเกมในการทดลองอะไรใหม่ ๆ อีกด้วย ซึ่งทีมงานมีความทะเยอทะยานที่จะทำให้ Sonic ถูกยอมรับในฐานะซีรีส์เกมระดับโลกอีกครั้งให้ได้”
โซน Open Zone ที่ว่านี้มีความกว้างแค่ไหน และจะมีกี่โซนให้สำรวจ
“การจะอธิบายให้เห็นความกว้างของโซนให้เห็นภาพด้วยคำพูดคงยาก แต่เอาเป็นว่าต่อให้คุณวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดของ Sonic ซึ่งเร็วกว่ารถไฟชินคันเซ็นซะอีก คุณก็คงเหนื่อยก่อนจะสำรวจแผนที่ได้ทั่วถึงอยู่ดี ซึ่งเราเคยเปิดเผยไปแล้วว่าเกมจะมีโซนให้สำรวจทั้งหมด 5 โซนด้วยกัน”
ตั้งแต่ที่เกมเปิดตัวมา ได้มีเสียงวิจารณ์เชิงลบมากมายทั้งจากสื่อและผู้เล่นเกี่ยวกับเกมเพลย์และแผนที่ Open Zone ของเกม ทีมงานได้นำข้อกังวลเหล่านี้มาใช้ปรับปรุงเกมบ้างไหมตั้งแต่ที่เกมเปิดตัว
“การรับฟังความเห็นของผู้เล่น นับเป็นสิ่งที่พวกเราทีมพัฒนา Sonic ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยเรามีการจัดให้ผู้เล่นและสื่อมาร่วมทดสอบเกมกับเราเพื่อรับฟังความเห็นหลายครั้งมากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ในการพัฒนาเกม Sonic ภาคอื่น ๆ เราอาจจะจัดให้ทดลองเล่นระหว่าง 2-4 รอบ แต่สำหรับเกมนี้เราจัดทดสอบไปแล้ว 7 รอบ และเราได้นำความเห็นจากการทดลองเล่นแต่ละรอบมาพัฒนาเกมอยู่เสมอ ทั้งในด้านการต่อสู้ การแก้พัซเซิ่ล และการสำรวจ เอาจริง ๆ แล้วเราถือว่าการรับฟังผู้เล่นอย่างแข็งขันถือเป็นตัวตนหนึ่งของค่ายเราเลยทีเดียว”
เราได้เห็นทั้งศัตรูและสภาพแวดล้อมมากมายที่ผู้เล่นจะได้พบในเกม แต่ยังไม่เคยเห็น NPC หรือเมือง/หมู่บ้านที่สำรวจได้เลย ในเกมจริงจะมีสิ่งเหล่านี้บ้างไหม
“เราอยากทำความเข้าใจกับผู้เล่นให้ชัดเจนว่าเกม Sonic Frontiers จะเป็นเกม Open Zone ไม่ใช่ Open World หมายความว่าองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างที่เราคาดหวังจะได้เห็นในเกม Open World อย่างเมืองหรือ NPC ที่เราพูดคุยได้ อาจจะไม่ได้มีอยู่ในนเกมของเรา ที่สำคัญคือคำถามที่ว่า “ทุกคนหายไปไหนหมด” นั้น เป็นปริศนาหลักในเนื้อเรื่องของเกม Sonic Frontiers ด้วย ผู้เล่นจึงอาจต้องเล่นเกมไปก่อนจึงจะได้รับคำตอบว่าทำไมโลกของเกมถึงเวิ้งว้างเช่นนี้”
เกม Sonic หลายภาคที่ผ่านมาได้รับคำตำหนิเกี่ยวกับการนำตัวละครเก่า ๆ มาใช้ซ้ำไปมา โดยเฉพาะเหล่าตัวร้าย ทีมงานมีแผนจะรับมือกับข้อตำหนินี้อย่างไรในเกมภาคใหม่
“ในเกมภาคก่อนอย่าง Sonic Force เราตั้งใจจะนำตัวละครจากเกมภาคก่อน ๆ มารวมกันอยู่แล้ว จึงเป็นเหตุผลให้มีตัวละครหน้าเก่า ๆ โผล่มาเยอะ แต่ใน Sonic Frontiers เรากำลังพาผู้เล่นไปสู่ดินแดนใหม่ เพื่อเผชิญหน้ากับศัตรูใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน แถมศัตรูในเกมทุกตัวก็เป็นตัวละครใหม่ที่ผู้เล่นไม่เคยพบในเกมภาคอื่น ๆ มาก่อนแน่นอน
ทั้งนี้ เราก็ยังอยากจะเอาใจแฟน ๆ ของเกมภาคก่อน ๆ ด้วยการออกแบบด่าน cyberspace ในเกมโดยอ้างอิงจากด่านในเกมภาคก่อน ๆ เพื่อให้ผู้เล่นสามารถแข่งขันกันทำ Speedrun ได้ ซึ่งจุดนี้ถือเป็นส่วนที่เราสร้างขึ้นมาเพื่อเอาใจแฟน ๆ รุ่นเก๋าของซีรีส์ ให้พวกเราได้รู้สึกคิดถึงเกมเพลย์ในสไตล์ของ Sonic ดั้งเดิมได้ด้วย”
อยากฝากอะไรถึงแฟน ๆ ในประเทศไทยไหม
“เรารู้สึกยินดีมาก ๆ ที่ผู้เล่นในไทยและภูมิภาค SEA ต่างแสดงออกถึงความตื่นเต้นที่จะได้เล่นเกม Sonic Frontiers โดยทีมงานทุกคนหวังว่าเราจะสามารถตอบสนองความคาดหวังของทุกคนได้ และเผลอ ๆ อาจจะฉีกความคาดหวังนั้นในทางที่ดีเลยก็ได้ เราได้ทำการทดลองเล่นเกมนี้อย่างถี่ถ้วนเพื่อให้มั่นใจว่าเกมอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดก่อนวางจำหน่าย และหวังว่าทุกคนจะมีโอกาสได้เล่น Sonic Frontiers ด้วยมือของตนเองในเร็ว ๆ นี้ครับ
เมื่อตอนที่เรานำเดโมเกมไปให้ทดลองกันที่งาน Gamescom มีผู้คนมาเข้าแถวรอเล่นเกมมากจนปลายแถวต้องรอถึง 3 ชั่วโมงกว่าจะได้เล่น แม้ในงาน Tokyo Game Show ที่ผ่านมาก็ยังมีคนเยอะจนต้องรอไม่ต่ำกว่า 2 ชม. เช่นกัน แต่ก็ยังเห็นเกมเมอร์หลายคนที่โพสต์ผ่านโซเชี่ยลมิเดียว่าพอใจกับเดโมที่ได้ลองเล่น แค่นี้ก็เป็นกำลังใจให้เราได้มหาศาลแล้วครับ”
แม้ว่าจะมีประวัติศาสตร์ในวงการเกมมายาวนานไม่แพ้ตัวเอกหน้าไหน ๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเจ้าเม่นสายฟ้า Sonic นั้นไม่ได้เป็นที่นิยมในวงการเกมเท่ากับสมัยก่อนอีกต่อไปแล้ว แม้จะได้ความนิยมของฉบับภาพยนตร์มาช่วยประคองไว้บ้างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ทั้งหมดนี้กำลังจะเปลี่ยนไปพร้อมกับการมาถึงของ Sonic Frontiers เกมแอคชัน 3D แนว "Open Zone" ใหม่ล่าสุด ที่กำลังจะวางจำหน่ายในเดือนพฤษจิกายนนี้
ทางทีมงาน GameFever เองได้มีโอกาสเข้าร่วมพูดคุยสัมภาษณ์กับสมาชิกทีมพัฒนาระดับสูงของเกม Sonic Frontiers สองท่านด้วยกัน คือคุณ Takashi Iizuka (หัวหน้าทีมพัฒนาเกม Sonic ทั้งหมด) และคุณ Morio Kishimoto (ผู้กำกับเกม Sonic Frontiers) ซึ่งพูดถึงแนวคิดในการออกแบบระบบใหม่ ๆ ของเกม และความคาดหวังอันสูงลิ่วของทีมพัฒนา ที่อยากให้ Sonic Frontiers เป็นเกมที่ผลักให้ Sonic สามารถทวงตำแหน่งยักษ์ใหญ่แห่งวงการเกมได้อีกครั้ง!
(อ่านความเห็นทีมงานหลังทดลองเล่นเดโมเกม)
(บทสัมภาษณ์ดังกล่าวได้รับการดัดแปลงเพื่อความกระชับ)
Sonic Frontiers ถือเป็นการนำเสนอเกมเพลย์แนวใหม่สำหรับซีรีส์ Sonic โดยรวมเลยทีเดียว ลองพูดให้ฟังได้ไหมว่าคุณมีแนวคิดอย่างไรในการออกแบบเกมเพลย์ในภาคล่าสุดนี้
“อย่างที่เรารู้กันว่า Sonic เป็นซีรีส์ที่มีประวัติมายาวนานกว่า 31 ปีแล้ว ซึ่งมีต้นกำเนิดในแนวเกม Side-scroller ก่อนที่เกมภาคหลัง ๆ อย่าง Sonic Adventure เป็นต้นมา จะเริ่มหันมาสู่เกมเพลย์แนวแอคชัน 3D มากขึ้น ซึ่งตลอดระยะเวลาอันยาวนานของซีรีส์ ทีมพัฒนาก็ได้พยายามจะต่อยอดเกมเพลย์แนวแอคชันนั้นมาเรื่อย ๆ จนถึงจุดหนึ่งที่เราเริ่มตั้งคำถามว่า “เราจะผลักดันซีรีส์ไปข้างหน้าได้อย่างไรบ้าง” เรารู้สึกว่าเกมภาคใหม่นี้ต้องมีองค์ประกอบที่เป็นการพัฒนาขึ้นจากเกมก่อน ๆ อย่างชัดเจน เพื่อให้ซีรีส์สามารถแข่งขันกับเกมอื่น ๆ ได้ในอนาคต ซึ่งเราคาดหวังว่าระบบ Open Zone ของเราจะช่วยให้ Sonic โดดเด่นขึ้นจากเกมแนวใกล้เคียงกัน
แน่นอนว่ามันคงมีความเป็นไปได้หลายทางในการผลักดันซีรีส์ไปข้างหน้า แต่เราก็เชื่อว่าหนทางที่เราเลือกนี้จะเป็นผลดีกับทั้งแบรนด์ Sonic โดยรวม และต่อทีมพัฒนาเกมในการทดลองอะไรใหม่ ๆ อีกด้วย ซึ่งทีมงานมีความทะเยอทะยานที่จะทำให้ Sonic ถูกยอมรับในฐานะซีรีส์เกมระดับโลกอีกครั้งให้ได้”
โซน Open Zone ที่ว่านี้มีความกว้างแค่ไหน และจะมีกี่โซนให้สำรวจ
“การจะอธิบายให้เห็นความกว้างของโซนให้เห็นภาพด้วยคำพูดคงยาก แต่เอาเป็นว่าต่อให้คุณวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดของ Sonic ซึ่งเร็วกว่ารถไฟชินคันเซ็นซะอีก คุณก็คงเหนื่อยก่อนจะสำรวจแผนที่ได้ทั่วถึงอยู่ดี ซึ่งเราเคยเปิดเผยไปแล้วว่าเกมจะมีโซนให้สำรวจทั้งหมด 5 โซนด้วยกัน”
ตั้งแต่ที่เกมเปิดตัวมา ได้มีเสียงวิจารณ์เชิงลบมากมายทั้งจากสื่อและผู้เล่นเกี่ยวกับเกมเพลย์และแผนที่ Open Zone ของเกม ทีมงานได้นำข้อกังวลเหล่านี้มาใช้ปรับปรุงเกมบ้างไหมตั้งแต่ที่เกมเปิดตัว
“การรับฟังความเห็นของผู้เล่น นับเป็นสิ่งที่พวกเราทีมพัฒนา Sonic ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยเรามีการจัดให้ผู้เล่นและสื่อมาร่วมทดสอบเกมกับเราเพื่อรับฟังความเห็นหลายครั้งมากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ในการพัฒนาเกม Sonic ภาคอื่น ๆ เราอาจจะจัดให้ทดลองเล่นระหว่าง 2-4 รอบ แต่สำหรับเกมนี้เราจัดทดสอบไปแล้ว 7 รอบ และเราได้นำความเห็นจากการทดลองเล่นแต่ละรอบมาพัฒนาเกมอยู่เสมอ ทั้งในด้านการต่อสู้ การแก้พัซเซิ่ล และการสำรวจ เอาจริง ๆ แล้วเราถือว่าการรับฟังผู้เล่นอย่างแข็งขันถือเป็นตัวตนหนึ่งของค่ายเราเลยทีเดียว”
เราได้เห็นทั้งศัตรูและสภาพแวดล้อมมากมายที่ผู้เล่นจะได้พบในเกม แต่ยังไม่เคยเห็น NPC หรือเมือง/หมู่บ้านที่สำรวจได้เลย ในเกมจริงจะมีสิ่งเหล่านี้บ้างไหม
“เราอยากทำความเข้าใจกับผู้เล่นให้ชัดเจนว่าเกม Sonic Frontiers จะเป็นเกม Open Zone ไม่ใช่ Open World หมายความว่าองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างที่เราคาดหวังจะได้เห็นในเกม Open World อย่างเมืองหรือ NPC ที่เราพูดคุยได้ อาจจะไม่ได้มีอยู่ในนเกมของเรา ที่สำคัญคือคำถามที่ว่า “ทุกคนหายไปไหนหมด” นั้น เป็นปริศนาหลักในเนื้อเรื่องของเกม Sonic Frontiers ด้วย ผู้เล่นจึงอาจต้องเล่นเกมไปก่อนจึงจะได้รับคำตอบว่าทำไมโลกของเกมถึงเวิ้งว้างเช่นนี้”
เกม Sonic หลายภาคที่ผ่านมาได้รับคำตำหนิเกี่ยวกับการนำตัวละครเก่า ๆ มาใช้ซ้ำไปมา โดยเฉพาะเหล่าตัวร้าย ทีมงานมีแผนจะรับมือกับข้อตำหนินี้อย่างไรในเกมภาคใหม่
“ในเกมภาคก่อนอย่าง Sonic Force เราตั้งใจจะนำตัวละครจากเกมภาคก่อน ๆ มารวมกันอยู่แล้ว จึงเป็นเหตุผลให้มีตัวละครหน้าเก่า ๆ โผล่มาเยอะ แต่ใน Sonic Frontiers เรากำลังพาผู้เล่นไปสู่ดินแดนใหม่ เพื่อเผชิญหน้ากับศัตรูใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน แถมศัตรูในเกมทุกตัวก็เป็นตัวละครใหม่ที่ผู้เล่นไม่เคยพบในเกมภาคอื่น ๆ มาก่อนแน่นอน
ทั้งนี้ เราก็ยังอยากจะเอาใจแฟน ๆ ของเกมภาคก่อน ๆ ด้วยการออกแบบด่าน cyberspace ในเกมโดยอ้างอิงจากด่านในเกมภาคก่อน ๆ เพื่อให้ผู้เล่นสามารถแข่งขันกันทำ Speedrun ได้ ซึ่งจุดนี้ถือเป็นส่วนที่เราสร้างขึ้นมาเพื่อเอาใจแฟน ๆ รุ่นเก๋าของซีรีส์ ให้พวกเราได้รู้สึกคิดถึงเกมเพลย์ในสไตล์ของ Sonic ดั้งเดิมได้ด้วย”
อยากฝากอะไรถึงแฟน ๆ ในประเทศไทยไหม
“เรารู้สึกยินดีมาก ๆ ที่ผู้เล่นในไทยและภูมิภาค SEA ต่างแสดงออกถึงความตื่นเต้นที่จะได้เล่นเกม Sonic Frontiers โดยทีมงานทุกคนหวังว่าเราจะสามารถตอบสนองความคาดหวังของทุกคนได้ และเผลอ ๆ อาจจะฉีกความคาดหวังนั้นในทางที่ดีเลยก็ได้ เราได้ทำการทดลองเล่นเกมนี้อย่างถี่ถ้วนเพื่อให้มั่นใจว่าเกมอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดก่อนวางจำหน่าย และหวังว่าทุกคนจะมีโอกาสได้เล่น Sonic Frontiers ด้วยมือของตนเองในเร็ว ๆ นี้ครับ
เมื่อตอนที่เรานำเดโมเกมไปให้ทดลองกันที่งาน Gamescom มีผู้คนมาเข้าแถวรอเล่นเกมมากจนปลายแถวต้องรอถึง 3 ชั่วโมงกว่าจะได้เล่น แม้ในงาน Tokyo Game Show ที่ผ่านมาก็ยังมีคนเยอะจนต้องรอไม่ต่ำกว่า 2 ชม. เช่นกัน แต่ก็ยังเห็นเกมเมอร์หลายคนที่โพสต์ผ่านโซเชี่ยลมิเดียว่าพอใจกับเดโมที่ได้ลองเล่น แค่นี้ก็เป็นกำลังใจให้เราได้มหาศาลแล้วครับ”