ในช่วงที่ผ่านมา Hideo Kojima ได้ออกมาเล่าเรื่องราวใน Twitter เกี่ยวกับอดีตที่ยากลำบากในช่วงการขายเกม Metal Gear ภาคแรกที่เขาจะต้องเป็นคนแจกใบปลิวเองหรือซื้อเกมของตัวเอง
ในตอนนั้นที่ญี่ปุ่นมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันเป็นประจำอย่าง MSX และ MSX2 ซึ่ง Metal Gear
ภาคแรกเองก็วางขายครั้งแรกให้เล่นบนเครื่อง MSX เช่นกันและได้รับความนิยมที่น้อยมากก่อนที่จะพอร์ตลงให้กับเครื่อง Famicom
“ในฤดูร้อนตอนผมอายุ 23 ปี เกมแรกที่ผมทำ [Metal Gear] ได้ออกวางจำหน่าย แต่เพราะมันไม่ใช่ของ NES ก็เลยทำให้ไม่มีโฆษณาบนทีวี แถมยังไม่มีขายในโซนของเล่นที่ตอนนั้นมีผู้คนพลุกพล่านอยู่มากด้วย แต่ได้ไปอยู่โซนเงียบๆ อย่างซอฟต์แวร์ PC แทน”
“ถึงอย่างนั้นผมก็ไปที่ร้านทุกวันและเอาไบปลิวไปแจกให้คนแถวนั้นเสมอ ผมถึงกับซื้อเกมของตัวเองถึงสามชุดเลยล่ะ”
ที่น่าแปลกใจก็คือการที่เรื่องราวต่อมาก็มีเนื้อหาคล้ายๆ กัน ถึงแม้จะผ่านไปเป็นปีแล้วก็ตาม
“ในฤดูหนาวตอนผมอายุ 25 ปี เกมที่ผมสร้างเกมที่สอง (ADV)
ได้มีการวางจำหน่าย แต่เพราะมันไม่ใช่ของ NES ก็เลยทำให้ไม่มีโฆษณาบนทีวี แถมยังไม่ได้ถูกนำไปวางขายบนร้านขายของเล่นชื่อดังและร้านค้าอื่นๆ อีกด้วย”
“มันถูกตั้งเอาไว้ในโซนซอฟต์แวร์ PC เพราะมันเป็นเกมของเครื่อง PC-88 และ MSX ถึงแบบนั้นผมก็แอบไปดูที่โซนนั้นทุกวันและแอบไปเพิ่มความดังเสียงให้กับตัว Demo ที่กำลังฉายบนหน้าจอ PC ด้วย”
ถ้าลองนึกภาพ Kojima ย่องเข้าไปปรับเสียงเกมให้ดังขึ้นเพื่อให้คนที่เดินผ่านหันมามองเกมของเขาดูสิ แทบจะจินตนาการไม่ออกเลยว่าคนระดับนั้นจะเคยทำอะไรแบบนี้ด้วย แต่นี่ก็อีกครั้งที่แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่ชายคนนี้ได้รับมาจากความพยายามจากช่วงเวลาที่ผ่านมา
Credit: Kotaku
ในช่วงที่ผ่านมา Hideo Kojima ได้ออกมาเล่าเรื่องราวใน Twitter เกี่ยวกับอดีตที่ยากลำบากในช่วงการขายเกม Metal Gear ภาคแรกที่เขาจะต้องเป็นคนแจกใบปลิวเองหรือซื้อเกมของตัวเอง
ในตอนนั้นที่ญี่ปุ่นมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันเป็นประจำอย่าง MSX และ MSX2 ซึ่ง Metal Gear
ภาคแรกเองก็วางขายครั้งแรกให้เล่นบนเครื่อง MSX เช่นกันและได้รับความนิยมที่น้อยมากก่อนที่จะพอร์ตลงให้กับเครื่อง Famicom
“ในฤดูร้อนตอนผมอายุ 23 ปี เกมแรกที่ผมทำ [Metal Gear] ได้ออกวางจำหน่าย แต่เพราะมันไม่ใช่ของ NES ก็เลยทำให้ไม่มีโฆษณาบนทีวี แถมยังไม่มีขายในโซนของเล่นที่ตอนนั้นมีผู้คนพลุกพล่านอยู่มากด้วย แต่ได้ไปอยู่โซนเงียบๆ อย่างซอฟต์แวร์ PC แทน”
“ถึงอย่างนั้นผมก็ไปที่ร้านทุกวันและเอาไบปลิวไปแจกให้คนแถวนั้นเสมอ ผมถึงกับซื้อเกมของตัวเองถึงสามชุดเลยล่ะ”
ที่น่าแปลกใจก็คือการที่เรื่องราวต่อมาก็มีเนื้อหาคล้ายๆ กัน ถึงแม้จะผ่านไปเป็นปีแล้วก็ตาม
“ในฤดูหนาวตอนผมอายุ 25 ปี เกมที่ผมสร้างเกมที่สอง (ADV)
ได้มีการวางจำหน่าย แต่เพราะมันไม่ใช่ของ NES ก็เลยทำให้ไม่มีโฆษณาบนทีวี แถมยังไม่ได้ถูกนำไปวางขายบนร้านขายของเล่นชื่อดังและร้านค้าอื่นๆ อีกด้วย”
“มันถูกตั้งเอาไว้ในโซนซอฟต์แวร์ PC เพราะมันเป็นเกมของเครื่อง PC-88 และ MSX ถึงแบบนั้นผมก็แอบไปดูที่โซนนั้นทุกวันและแอบไปเพิ่มความดังเสียงให้กับตัว Demo ที่กำลังฉายบนหน้าจอ PC ด้วย”
ถ้าลองนึกภาพ Kojima ย่องเข้าไปปรับเสียงเกมให้ดังขึ้นเพื่อให้คนที่เดินผ่านหันมามองเกมของเขาดูสิ แทบจะจินตนาการไม่ออกเลยว่าคนระดับนั้นจะเคยทำอะไรแบบนี้ด้วย แต่นี่ก็อีกครั้งที่แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่ชายคนนี้ได้รับมาจากความพยายามจากช่วงเวลาที่ผ่านมา
Credit: Kotaku