GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
บทความ
[บทความ] ส่องเนื้อเรื่องเบื้องหลัง Elden Ring "เมื่อทุกอย่างพังทลาย ผู้มัวหมองจึงได้กลับมาตุภูมิ"
ลงวันที่ 16/11/2021

Elden Ring โลกใบที่ 7 ของ Hidetaka Miyazaki ได้มีการเพิ่ม และปรับปรุงระบบเกมเพลย์ใหม่มากมาย และหลังจากที่ได้เข้าไปเล่นมาเป็นเวลาหลายชั่วโมงตัวผู้เขียนเรียกได้ว่าคาดหวังกับเกมใหม่ของ From Software นี้เป็นอย่างมาก แต่แม้จะมีหลายสิ่งหลายอย่างได้รับการพัฒนาให้ดีมากยิ่งขึ้น หรือมีระบบใหม่ๆ มากมายถูกใส่เข้ามาในเกม หนึ่งสิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปตามลายเซ็นฉบับของคุณ Miyazaki คือเรื่องราวของเกมที่มีปริศนาอยู่มากมาย และไม่เคยถูกเล่าออกมาให้เข้าใจง่ายเลยสักครั้ง

ผลงานใหม่ล่าสุดนี้ยังมีกลิ่นอายของความลึกลับเหล่านั้นอยู่เต็มเปี่ยม แต่ผลงานนี้พิเศษยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อ George R. R. Martin นักเขียนนวนิยาย Fantasy ชื่อดังได้มีส่วนร่วมกับคุณ Miyazaki ในการสรรค์สร้างผลงานชิ้นนี้ แม้ว่าจะยังอีกห่างไกลถึง 4 เดือน ก่อนเกมจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับผู้เล่นที่จะคาดเดาเนื้อเรื่องของ Elden Ring ก่อน และนี่คือจุดประสงค์ของบทความนี้ครับ


The Lands Between

เรื่องราวของ Elden Ring ไม่ใช่ภาคต่อ หรือเนื้อเรื่องแยกของเกมไหนที่เคยมีมา มันกล่าวถึงดินแดนที่ชื่อว่า The Lands Between ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกปกครองด้วยความร่มเย็นโดยราชินี Marika ผู้เป็นนิรันดร ผู้คนที่อาศัยอยู่ในดินแดนแห่งนี้ต่างได้รับพรจาก Erdtree ต้นไม้สีทองที่สูงตระหง่านอยู่ใจกลางของดินแดน และว่ากันว่าเป็นแหล่งกำเนิดพลังของ Elden Ring โดยผู้ที่ได้รับพรจาก Erdtree จะมี Aura สีทองที่ดวงตา อย่างไรไม่ใช่ทุกคนที่จะรักษา Aura สีทองดังกล่าวไว้ได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่ดวงตาสูญเสีย Aura สีทองอันเป็นสัญลักษณ์ของพรไป คนผู้นั้นจะถูกขับไล่ออกจากดินแดน The Lands Between และถูกตราหน้าว่า Tarnished ที่มีความหมายว่า "ผู้มัวหมอง"

ราชินี Marika ผู้เป็นนิรันดร แค่ชื่อของเธอก็บ่งบอกได้แล้วว่าถูกเทิดทูนว่ายิ่งใหญ่เพียงไหนในดินแดนแห่งนี้ ซึ่งเชื่อว่าพลังของเธอเองส่วนหนึ่งคงได้รับมาจาก Elden Ring โดยตรง ส่งผลให้ลูกๆ ของเธอทั้ง 6 คน ถูกเรียกว่า Demigod หรือครึ่งเทพเจ้า โดยทั้ง 6 ต่างปกครองดินแดนต่างๆ ในดินแดนแห่งนี้รอบๆ Erdtree


จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของเรื่องราวดินแดนอันสงบสุขนี้เริ่มต้นอยู่มาวันหนึ่งบางสิ่งบางอย่างได้ทำลาย Elden Ring ให้แตกเป็นผลึกชิ้นน้อยใหญ่ โดยต่อมาผลึกเหล่านี้ถูกเรียกว่า The Great Runes ซึ่งทำให้เหล่า Demigod ทั้ง 6 ที่กระหายพลัง และอำนาจต่างแย่งชิง The Great Runes กันเองจนเกิดเป็นสงครามภายใน จนดินแดนแห่งนี้ถึงจุดล่มสลาย (ป.ล แม้ดินแดนจะล่มสลายแต่ไม่ได้หมายความว่าผู้คนตายหมดนะ) ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวก่อนเกมเริ่ม


ใครคือผู้ทำลาย Elden Ring?

ในตัวอย่างแรกสุดของเกม ที่แสดงให้เห็นถึงชายแก่คนหนึ่ง พยายามทุบทำลายบางสิ่งบางอย่าง ก่อนที่จะตัดภาพมาเป็นภาพของวงแหวนทองคำที่แตกลง เหมือนพยายามบอกเล่าให้เราเข้าใจว่า "ชายแก่คนดังกล่าวนั่นแหละคือผู้ที่ทำลาย Elden Ring ให้แตกเป็นเสี่ยง" ซึ่งเขาเป็นใคร ทำไมถึงต้องทำลาย Elden Ring ด้วย เรื่องนี้ผู้เขียนไม่มีคำตอบให้ แต่ก่อนจะไปต่อกัน ผู้เขียนอยากให้เพื่อนๆ ดูวิดีโอตัวอย่างแรกกันอีกสักครั้งก่อน


ในวิดีโอข้างบนนี้ หลายคนอาจไม่ได้สังเกตว่าทุกครั้งที่ชายแก่ ทุบบางสิ่งบางอย่างที่อยู่บนแท่นตรงหน้าของเขา แผ่นหลังของชายแก่ ก็มีรอยร้าวเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน และพร้อมกันในหญิงสาวอีกคนที่เหมือนกำลังสวดภาวนาอยู่ก็มีรอยร้าวแตกขึ้นมาบนแผ่นหลังเช่นเดียวกัน และเมื่อภาพตัดมาเป็นวงแหวนทองคำที่แตกละเอียด ทั้งสองก็ทรุดคุกเข่าลงเหมือนทนความเจ็บปวดไม่ไหว มีหลายคนตั้งทฤษฎีว่าทั้งสองคนนั่นแหละคือ Elden Ring แต่ผู้เขียนคิดต่างออกไป และหลังจากนี้จะเป็น ทฤษฎีของตัวผู้เขียนเอง ไม่รับประกันว่าจะถูกต้องครับ

คุณ Miyazaki ได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า "Demigod ทั้ง 6 ต่างมีบุคลิก และพลังที่แตกต่างกัน พวกเขาหมกมุ่นในเรื่องที่แตกต่างกัน และเสียสติในรูปแบบที่แตกต่างกัน" จากคำบอกเล่านี้ทำให้ ผู้เขียนคิดทฤษฎีได้หนึ่งอย่างคือ ชายแก่คนดังกล่าวที่ทำลาย Elden Ring รวมถึงหญิงสาวอีกคนในตัวอย่าง คือผู้ที่ทำหน้าที่ปกป้อง Elden Ring และถูกสร้างขึ้นมา หรือเชื่อมต่อกับพลังของ Elden Ring โดยตรง จึงเป็นเหตุผลให้แผ่นหลังของพวกเขามีรอยร้าวแตกเกิดขึ้นเมื่อทุบทำลายต้นกำเนิดของตัวเอง ส่วนเหตุผลที่ทำให้พวกเขาเลือกที่จะทำลาย Elden Ring เสียเอง อาจมาจากความไม่สมบูรณ์ของมนุษย์ รวมถึง Demigod หรืออาจรวมถึงราชินี Marika เองด้วย (จะด้วยความโลภในอำนาจ หรืออะไรก็แล้วแต่) ทั้งสองตัดสินว่าผู้คนใน The Lands Between ไม่ควรค่าแก่การได้รับพรอีกต่อไป

หนึ่งในเหตุผลสนับสนุนทฤษฎีดีนี้มาจากการแย่งชิงเศษชิ้นส่วนของ Elden Ring กันเองจนเกิดเป็นสงครามภายในของเหล่า Demigod ซึ่งแทนที่จะช่วยกันพา The Lands Between ให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตเช่นนี้ไปได้ พวกเขากลับเลือกที่จะฆ่าฟันกันเองเพื่อแย่งชิงพลังอำนาจ และหากคิดตามทฤษฎีนี้ จะเชื่อมโยงกับตำนานบทหนึ่งที่ถูกเล่าขานในเกมได้พอดี ตำนานดังกล่าวได้เล่าถึงการแตกสลายของ Elden Ring ในอดีตที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว โดยการแตกสลายดังกล่าวแน่นอนว่าสร้างความโกลาหลให้กับโลก แต่มันก็เป็นการเชื้อเชิญเหล่า Tarnished ที่ถูกเนรเทศออกไปจากดินแดน ให้สามารถกลับมายัง The Lands Between ได้อีกครั้ง เพื่อต่อสู้แย่งชิงขึ้นเป็น Elden Lord คนใหม่


ถ้าหากมองย้อนกลับไปในอดีตพล็อตเรื่องแนวนี้ ถูกใช้มาแล้วในเกมของคุณ Miyazaki นั้นก็คือ Bell of Awakening ใน Dark Souls ที่ระฆังจะถูกตี เมื่อยุคแห่งไฟกำลังจะมอดดับลง แล้วความมืดกำลังจะกลืนกินดินแดนของมนุษย์ จึงต้องมีการปลุก Undead ทั้งหมดขึ้นมา เพื่อออกเดินทางทำหน้าที่รวบรวมวิญญาณของ Lord Souls และนำไปมอบให้กับเปลวเพลิงเพื่อทำให้มันกลับมาโชติช่วงอีกครั้ง ซึ่งการทำแบบนี้มีความเสี่ยงเพราะ Undead ที่ทำหน้าที่ดังกล่าวได้สำเร็จอาจไม่ใช่คนดีที่คิดจะต่ออายุให้กับกองเพลิง แต่อาจเป็น Undead ที่ลุ่มหลงในพลังจนไม่ยอมทำหน้าที่ของตัวเองไอ้เสร็จหลังจากได้พลังของ Lord Souls ทั้งหมดมาแล้ว ดังนั้นตาม Lore ของ Dark Souls ระฆัง  Bell of Awakening จึงจะถูกตีก็ต่อเมื่อโลกมาถึงจุดที่เลวร้ายไปมากกว่านี้ไม่ได้จริงๆ เท่านั้น

(จากตัวอย่างเปิดเกมของ Dark Souls 3 จะเห็นได้ว่าเหล่า Undead เริ่มลุกขึ้นมาจากหลุมหลังได้ยินเสียงระฆัง ซึ่งถึงถูกตีเมื่อยุคแห่งไฟกำลังจะจบลง)

จะสังเกตได้ว่าเนื้อเรื่องในส่วนนี้ของ Dark Souls มีความใกล้เคียงกับตำนานภายในเกมของ Elden Ring ที่เมื่อวงแหวน Elden Ring ถูกทำลาย เหล่า Tarnished ที่ถูกเนรเทศออกไป จะสามารถกลับมายัง The Lands Between เพื่อต่อสู้รวบรวมพลัง และขึ้นเป็น Elden Lord ดังนั้นอาจกล่าได้ว่าการทำลาย Elden Ring ทิ้งเพื่อนำทางเหล่า Tarnished กลับมา เป็นเหมือนตัวเลือกสุดท้ายจริงๆ เมื่อดินแดน The Lands Between ไม่มีใครคู่ควรมากพอจะนั่งบัลลังก์ผู้นำได้ เช่นเดียวกับไม่มีใครต่ออายุของไฟใน Dark Souls จนต้องทำให้เกิดการตีระฆัง Bell of Awakening ในขณะเดียวกันก็เป็นความเสี่ยงด้วย เพราะถ้าหาก Tarnished ที่ได้พลังอำนาจทุกอย่างไปเป็นเพียงแค่คนเขลา The Lands Between ก็คงจะมาถึงจุดสิ้นสุด ผู้เขียนจึงคิดทฤษฎีดีนี้ดูมีความเป็นไปได้มากที่สุดนั่นเอง


ที่นี่คำถามต่อมาคือ "แล้วราชินี Marika ล่ะ?" เพราะถ้าหากสิ่งที่ไม่คู่ควรคือเหล่า Demigod แล้ว การที่เธอยังเป็นผู้นำสูงสุด ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรจนทำให้ต้องเกิดการทำลาย Elden Ring ขึ้นเสียหน่อย" ใช่ครับถูกต้อง ดังนั้นข้อสันนิษฐานที่พอจะคิดได้คือมี 3 อย่าง 

  1. อายุขัยของเธอกำลังจะหมดลง และจำเป็นต้องส่งมอบตำแหน่งผู้นำให้กับคนอื่น
  2. เธอถูกฆ่าตายโดยเหล่าลูกๆ Demigod ของเธอเอง
  3. ตัวเธอเองได้ลุ่มหลงในพลังอำนาจ จนต้องการนำพลังของ Elden Ring ทั้งหมดมาไว้ที่ตัวเอง

ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าข้อ 3 มีความเป็นไปได้มากที่สุด เนื่องจากจนถึงตอนนี้เรายังไม่ทราบว่าใครกันแน่ที่เป็นบอสตัวสุดท้ายของเกม Elden Ring เนื่องจากคุณ Miyazaki ได้กล่าวว่า "Demigod ทั้ง 6 จะอาศัยอยู่ตามสถานที่ของตัวเองรอบๆ The Lands Between ซึ่ง ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะไปยังดินแดนของใครก่อน มันไม่ตายตัว และไม่จำเป็นต้องเรียงตามลำดับ" ดังนั้นผู้เขียนจึงไม่คิดว่า Demigod คือบอสตัวสุดท้ายที่เราจะได้สู้ในเกมนี้ ไม่แน่ว่าอาจเป็นราชินี Marika เองที่เป็นบอสตัวสุดท้าย หรือไม่ก็อาจเป็นชายแก่ผู้ทำลาย Elden Ring เพื่อทดสอบว่าเราคู่ควรกับตำแหน่ง Elden Lord หรือไม่


ฉากจบที่น่าจะมีหลายแบบเหมือนเกมรุ่นพี่

หากอ้างอิงจากทฤษฎีที่กล่าวมา คำถามสุดท้ายสำหรับผู้เขียนที่มีต่อวงแหวน Elden Ring อันเป็นพลังพรที่มอบให้กับผู้คนใน The Lands Between คือ "มันเป็นสิ่งจำเป็นจริงๆ หรือ?" เหมือนกับเปลวเพลิงใน Dark Souls ที่ทำให้เกิดการต่อสู้ระหว่างแสงสว่าง และความมืด การมีอยู่ของ Elden Ring ก็อาจนำพาให้เกิดยุคสมัยที่ล่มสลายอีกครั้ง วงแหวนต้องถูกทำลาย เหล่า Tarnished จะถูกเรียกกลับมา แล้วสงครามครั้งใหม่ก็จะเกิดขึ้นอีก การเลือกเส้นทางที่ไม่ต้องมี Elden Ring อีก (ทำลายทิ้งไปจริงๆ เลย) แล้วหาวิธีใช้ชีวิตอยู่ให้ได้โดยไม่มีมัน อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่ารึเปล่า? เหมือนกับฉากจบหลายแบบของ Dark Souls ที่มักให้เลือกว่าจะต่ออายุของกองไฟ หรือสิ้นสุดอายุของยุคเปลวไฟ ในเกมนี้เองก็น่าจะมีให้เลือกระหว่างสร้าง Elden Ring ขึ้นมาใหม่จากชิ้นส่วน The Great Runes ที่เรารวบรวมมา หรือทำลายมันทิ้งไปเลยเช่นเดียวกัน

 สุดท้ายนี้ ขอย้ำอีกครั้งว่าทั้งหมดที่เพื่อนๆ ได้อ่านมา เป็นเพียง ทฤษฎี ซึ่งผู้เขียนคิดขึ้นมาเองสนุกๆ หลังจากได้อ่านคำโปรยบนหน้าเว็บไซต์ของ Bandai Namco และบทสัมภาษณ์กับคุณ Miyazaki เนื้อเรื่อง และฉากจบจริงๆ ของเกมอาจไม่เป็นเช่นนี้เลย และคงมีแต่ต้องรอเล่นเกมเต็มในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2022 เพื่อเรียนรู้ความจริงเกี่ยวกับเนื้อเรื่องของเกมเท่านั้น



GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[บทความ] ส่องเนื้อเรื่องเบื้องหลัง Elden Ring "เมื่อทุกอย่างพังทลาย ผู้มัวหมองจึงได้กลับมาตุภูมิ"
16/11/2021

Elden Ring โลกใบที่ 7 ของ Hidetaka Miyazaki ได้มีการเพิ่ม และปรับปรุงระบบเกมเพลย์ใหม่มากมาย และหลังจากที่ได้เข้าไปเล่นมาเป็นเวลาหลายชั่วโมงตัวผู้เขียนเรียกได้ว่าคาดหวังกับเกมใหม่ของ From Software นี้เป็นอย่างมาก แต่แม้จะมีหลายสิ่งหลายอย่างได้รับการพัฒนาให้ดีมากยิ่งขึ้น หรือมีระบบใหม่ๆ มากมายถูกใส่เข้ามาในเกม หนึ่งสิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปตามลายเซ็นฉบับของคุณ Miyazaki คือเรื่องราวของเกมที่มีปริศนาอยู่มากมาย และไม่เคยถูกเล่าออกมาให้เข้าใจง่ายเลยสักครั้ง

ผลงานใหม่ล่าสุดนี้ยังมีกลิ่นอายของความลึกลับเหล่านั้นอยู่เต็มเปี่ยม แต่ผลงานนี้พิเศษยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อ George R. R. Martin นักเขียนนวนิยาย Fantasy ชื่อดังได้มีส่วนร่วมกับคุณ Miyazaki ในการสรรค์สร้างผลงานชิ้นนี้ แม้ว่าจะยังอีกห่างไกลถึง 4 เดือน ก่อนเกมจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับผู้เล่นที่จะคาดเดาเนื้อเรื่องของ Elden Ring ก่อน และนี่คือจุดประสงค์ของบทความนี้ครับ


The Lands Between

เรื่องราวของ Elden Ring ไม่ใช่ภาคต่อ หรือเนื้อเรื่องแยกของเกมไหนที่เคยมีมา มันกล่าวถึงดินแดนที่ชื่อว่า The Lands Between ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกปกครองด้วยความร่มเย็นโดยราชินี Marika ผู้เป็นนิรันดร ผู้คนที่อาศัยอยู่ในดินแดนแห่งนี้ต่างได้รับพรจาก Erdtree ต้นไม้สีทองที่สูงตระหง่านอยู่ใจกลางของดินแดน และว่ากันว่าเป็นแหล่งกำเนิดพลังของ Elden Ring โดยผู้ที่ได้รับพรจาก Erdtree จะมี Aura สีทองที่ดวงตา อย่างไรไม่ใช่ทุกคนที่จะรักษา Aura สีทองดังกล่าวไว้ได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่ดวงตาสูญเสีย Aura สีทองอันเป็นสัญลักษณ์ของพรไป คนผู้นั้นจะถูกขับไล่ออกจากดินแดน The Lands Between และถูกตราหน้าว่า Tarnished ที่มีความหมายว่า "ผู้มัวหมอง"

ราชินี Marika ผู้เป็นนิรันดร แค่ชื่อของเธอก็บ่งบอกได้แล้วว่าถูกเทิดทูนว่ายิ่งใหญ่เพียงไหนในดินแดนแห่งนี้ ซึ่งเชื่อว่าพลังของเธอเองส่วนหนึ่งคงได้รับมาจาก Elden Ring โดยตรง ส่งผลให้ลูกๆ ของเธอทั้ง 6 คน ถูกเรียกว่า Demigod หรือครึ่งเทพเจ้า โดยทั้ง 6 ต่างปกครองดินแดนต่างๆ ในดินแดนแห่งนี้รอบๆ Erdtree


จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของเรื่องราวดินแดนอันสงบสุขนี้เริ่มต้นอยู่มาวันหนึ่งบางสิ่งบางอย่างได้ทำลาย Elden Ring ให้แตกเป็นผลึกชิ้นน้อยใหญ่ โดยต่อมาผลึกเหล่านี้ถูกเรียกว่า The Great Runes ซึ่งทำให้เหล่า Demigod ทั้ง 6 ที่กระหายพลัง และอำนาจต่างแย่งชิง The Great Runes กันเองจนเกิดเป็นสงครามภายใน จนดินแดนแห่งนี้ถึงจุดล่มสลาย (ป.ล แม้ดินแดนจะล่มสลายแต่ไม่ได้หมายความว่าผู้คนตายหมดนะ) ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวก่อนเกมเริ่ม


ใครคือผู้ทำลาย Elden Ring?

ในตัวอย่างแรกสุดของเกม ที่แสดงให้เห็นถึงชายแก่คนหนึ่ง พยายามทุบทำลายบางสิ่งบางอย่าง ก่อนที่จะตัดภาพมาเป็นภาพของวงแหวนทองคำที่แตกลง เหมือนพยายามบอกเล่าให้เราเข้าใจว่า "ชายแก่คนดังกล่าวนั่นแหละคือผู้ที่ทำลาย Elden Ring ให้แตกเป็นเสี่ยง" ซึ่งเขาเป็นใคร ทำไมถึงต้องทำลาย Elden Ring ด้วย เรื่องนี้ผู้เขียนไม่มีคำตอบให้ แต่ก่อนจะไปต่อกัน ผู้เขียนอยากให้เพื่อนๆ ดูวิดีโอตัวอย่างแรกกันอีกสักครั้งก่อน


ในวิดีโอข้างบนนี้ หลายคนอาจไม่ได้สังเกตว่าทุกครั้งที่ชายแก่ ทุบบางสิ่งบางอย่างที่อยู่บนแท่นตรงหน้าของเขา แผ่นหลังของชายแก่ ก็มีรอยร้าวเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน และพร้อมกันในหญิงสาวอีกคนที่เหมือนกำลังสวดภาวนาอยู่ก็มีรอยร้าวแตกขึ้นมาบนแผ่นหลังเช่นเดียวกัน และเมื่อภาพตัดมาเป็นวงแหวนทองคำที่แตกละเอียด ทั้งสองก็ทรุดคุกเข่าลงเหมือนทนความเจ็บปวดไม่ไหว มีหลายคนตั้งทฤษฎีว่าทั้งสองคนนั่นแหละคือ Elden Ring แต่ผู้เขียนคิดต่างออกไป และหลังจากนี้จะเป็น ทฤษฎีของตัวผู้เขียนเอง ไม่รับประกันว่าจะถูกต้องครับ

คุณ Miyazaki ได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า "Demigod ทั้ง 6 ต่างมีบุคลิก และพลังที่แตกต่างกัน พวกเขาหมกมุ่นในเรื่องที่แตกต่างกัน และเสียสติในรูปแบบที่แตกต่างกัน" จากคำบอกเล่านี้ทำให้ ผู้เขียนคิดทฤษฎีได้หนึ่งอย่างคือ ชายแก่คนดังกล่าวที่ทำลาย Elden Ring รวมถึงหญิงสาวอีกคนในตัวอย่าง คือผู้ที่ทำหน้าที่ปกป้อง Elden Ring และถูกสร้างขึ้นมา หรือเชื่อมต่อกับพลังของ Elden Ring โดยตรง จึงเป็นเหตุผลให้แผ่นหลังของพวกเขามีรอยร้าวแตกเกิดขึ้นเมื่อทุบทำลายต้นกำเนิดของตัวเอง ส่วนเหตุผลที่ทำให้พวกเขาเลือกที่จะทำลาย Elden Ring เสียเอง อาจมาจากความไม่สมบูรณ์ของมนุษย์ รวมถึง Demigod หรืออาจรวมถึงราชินี Marika เองด้วย (จะด้วยความโลภในอำนาจ หรืออะไรก็แล้วแต่) ทั้งสองตัดสินว่าผู้คนใน The Lands Between ไม่ควรค่าแก่การได้รับพรอีกต่อไป

หนึ่งในเหตุผลสนับสนุนทฤษฎีดีนี้มาจากการแย่งชิงเศษชิ้นส่วนของ Elden Ring กันเองจนเกิดเป็นสงครามภายในของเหล่า Demigod ซึ่งแทนที่จะช่วยกันพา The Lands Between ให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตเช่นนี้ไปได้ พวกเขากลับเลือกที่จะฆ่าฟันกันเองเพื่อแย่งชิงพลังอำนาจ และหากคิดตามทฤษฎีนี้ จะเชื่อมโยงกับตำนานบทหนึ่งที่ถูกเล่าขานในเกมได้พอดี ตำนานดังกล่าวได้เล่าถึงการแตกสลายของ Elden Ring ในอดีตที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว โดยการแตกสลายดังกล่าวแน่นอนว่าสร้างความโกลาหลให้กับโลก แต่มันก็เป็นการเชื้อเชิญเหล่า Tarnished ที่ถูกเนรเทศออกไปจากดินแดน ให้สามารถกลับมายัง The Lands Between ได้อีกครั้ง เพื่อต่อสู้แย่งชิงขึ้นเป็น Elden Lord คนใหม่


ถ้าหากมองย้อนกลับไปในอดีตพล็อตเรื่องแนวนี้ ถูกใช้มาแล้วในเกมของคุณ Miyazaki นั้นก็คือ Bell of Awakening ใน Dark Souls ที่ระฆังจะถูกตี เมื่อยุคแห่งไฟกำลังจะมอดดับลง แล้วความมืดกำลังจะกลืนกินดินแดนของมนุษย์ จึงต้องมีการปลุก Undead ทั้งหมดขึ้นมา เพื่อออกเดินทางทำหน้าที่รวบรวมวิญญาณของ Lord Souls และนำไปมอบให้กับเปลวเพลิงเพื่อทำให้มันกลับมาโชติช่วงอีกครั้ง ซึ่งการทำแบบนี้มีความเสี่ยงเพราะ Undead ที่ทำหน้าที่ดังกล่าวได้สำเร็จอาจไม่ใช่คนดีที่คิดจะต่ออายุให้กับกองเพลิง แต่อาจเป็น Undead ที่ลุ่มหลงในพลังจนไม่ยอมทำหน้าที่ของตัวเองไอ้เสร็จหลังจากได้พลังของ Lord Souls ทั้งหมดมาแล้ว ดังนั้นตาม Lore ของ Dark Souls ระฆัง  Bell of Awakening จึงจะถูกตีก็ต่อเมื่อโลกมาถึงจุดที่เลวร้ายไปมากกว่านี้ไม่ได้จริงๆ เท่านั้น

(จากตัวอย่างเปิดเกมของ Dark Souls 3 จะเห็นได้ว่าเหล่า Undead เริ่มลุกขึ้นมาจากหลุมหลังได้ยินเสียงระฆัง ซึ่งถึงถูกตีเมื่อยุคแห่งไฟกำลังจะจบลง)

จะสังเกตได้ว่าเนื้อเรื่องในส่วนนี้ของ Dark Souls มีความใกล้เคียงกับตำนานภายในเกมของ Elden Ring ที่เมื่อวงแหวน Elden Ring ถูกทำลาย เหล่า Tarnished ที่ถูกเนรเทศออกไป จะสามารถกลับมายัง The Lands Between เพื่อต่อสู้รวบรวมพลัง และขึ้นเป็น Elden Lord ดังนั้นอาจกล่าได้ว่าการทำลาย Elden Ring ทิ้งเพื่อนำทางเหล่า Tarnished กลับมา เป็นเหมือนตัวเลือกสุดท้ายจริงๆ เมื่อดินแดน The Lands Between ไม่มีใครคู่ควรมากพอจะนั่งบัลลังก์ผู้นำได้ เช่นเดียวกับไม่มีใครต่ออายุของไฟใน Dark Souls จนต้องทำให้เกิดการตีระฆัง Bell of Awakening ในขณะเดียวกันก็เป็นความเสี่ยงด้วย เพราะถ้าหาก Tarnished ที่ได้พลังอำนาจทุกอย่างไปเป็นเพียงแค่คนเขลา The Lands Between ก็คงจะมาถึงจุดสิ้นสุด ผู้เขียนจึงคิดทฤษฎีดีนี้ดูมีความเป็นไปได้มากที่สุดนั่นเอง


ที่นี่คำถามต่อมาคือ "แล้วราชินี Marika ล่ะ?" เพราะถ้าหากสิ่งที่ไม่คู่ควรคือเหล่า Demigod แล้ว การที่เธอยังเป็นผู้นำสูงสุด ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรจนทำให้ต้องเกิดการทำลาย Elden Ring ขึ้นเสียหน่อย" ใช่ครับถูกต้อง ดังนั้นข้อสันนิษฐานที่พอจะคิดได้คือมี 3 อย่าง 

  1. อายุขัยของเธอกำลังจะหมดลง และจำเป็นต้องส่งมอบตำแหน่งผู้นำให้กับคนอื่น
  2. เธอถูกฆ่าตายโดยเหล่าลูกๆ Demigod ของเธอเอง
  3. ตัวเธอเองได้ลุ่มหลงในพลังอำนาจ จนต้องการนำพลังของ Elden Ring ทั้งหมดมาไว้ที่ตัวเอง

ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าข้อ 3 มีความเป็นไปได้มากที่สุด เนื่องจากจนถึงตอนนี้เรายังไม่ทราบว่าใครกันแน่ที่เป็นบอสตัวสุดท้ายของเกม Elden Ring เนื่องจากคุณ Miyazaki ได้กล่าวว่า "Demigod ทั้ง 6 จะอาศัยอยู่ตามสถานที่ของตัวเองรอบๆ The Lands Between ซึ่ง ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะไปยังดินแดนของใครก่อน มันไม่ตายตัว และไม่จำเป็นต้องเรียงตามลำดับ" ดังนั้นผู้เขียนจึงไม่คิดว่า Demigod คือบอสตัวสุดท้ายที่เราจะได้สู้ในเกมนี้ ไม่แน่ว่าอาจเป็นราชินี Marika เองที่เป็นบอสตัวสุดท้าย หรือไม่ก็อาจเป็นชายแก่ผู้ทำลาย Elden Ring เพื่อทดสอบว่าเราคู่ควรกับตำแหน่ง Elden Lord หรือไม่


ฉากจบที่น่าจะมีหลายแบบเหมือนเกมรุ่นพี่

หากอ้างอิงจากทฤษฎีที่กล่าวมา คำถามสุดท้ายสำหรับผู้เขียนที่มีต่อวงแหวน Elden Ring อันเป็นพลังพรที่มอบให้กับผู้คนใน The Lands Between คือ "มันเป็นสิ่งจำเป็นจริงๆ หรือ?" เหมือนกับเปลวเพลิงใน Dark Souls ที่ทำให้เกิดการต่อสู้ระหว่างแสงสว่าง และความมืด การมีอยู่ของ Elden Ring ก็อาจนำพาให้เกิดยุคสมัยที่ล่มสลายอีกครั้ง วงแหวนต้องถูกทำลาย เหล่า Tarnished จะถูกเรียกกลับมา แล้วสงครามครั้งใหม่ก็จะเกิดขึ้นอีก การเลือกเส้นทางที่ไม่ต้องมี Elden Ring อีก (ทำลายทิ้งไปจริงๆ เลย) แล้วหาวิธีใช้ชีวิตอยู่ให้ได้โดยไม่มีมัน อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่ารึเปล่า? เหมือนกับฉากจบหลายแบบของ Dark Souls ที่มักให้เลือกว่าจะต่ออายุของกองไฟ หรือสิ้นสุดอายุของยุคเปลวไฟ ในเกมนี้เองก็น่าจะมีให้เลือกระหว่างสร้าง Elden Ring ขึ้นมาใหม่จากชิ้นส่วน The Great Runes ที่เรารวบรวมมา หรือทำลายมันทิ้งไปเลยเช่นเดียวกัน

 สุดท้ายนี้ ขอย้ำอีกครั้งว่าทั้งหมดที่เพื่อนๆ ได้อ่านมา เป็นเพียง ทฤษฎี ซึ่งผู้เขียนคิดขึ้นมาเองสนุกๆ หลังจากได้อ่านคำโปรยบนหน้าเว็บไซต์ของ Bandai Namco และบทสัมภาษณ์กับคุณ Miyazaki เนื้อเรื่อง และฉากจบจริงๆ ของเกมอาจไม่เป็นเช่นนี้เลย และคงมีแต่ต้องรอเล่นเกมเต็มในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2022 เพื่อเรียนรู้ความจริงเกี่ยวกับเนื้อเรื่องของเกมเท่านั้น



บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header