GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
รีวิวเกม
[Review] รีวิวบริการ PlayStation Plus Deluxe "แพ๊คเหมาจ่ายสุดคุ้มสำหรับ...ใครกันแน่?"
ลงวันที่ 31/05/2022

ถือเป็นความเคลื่อนไหวใหญ่ของ Sony ในช่วงหลายเดือนมานี้ เมื่อล่าสุดค่ายได้ประกาศเปิดให้บริการแพ๊คเกจรายเดือน PlayStation Plus รูปแบบใหม่ ที่นอกจากจะเปิดให้เล่นเกมออนไลน์ได้เหมือนแต่ก่อน ผู้สมัครบริการยังสามารถเล่นเกมที่ร่วมรายการนับร้อยเกมได้แบบฟรี ๆ ในลักษณะเดียวกับบริการยอดฮิต Xbox/PC Game Pass ของฝั่ง Microsoft นั่นเอง!

ทั้งนี้ ยังมีผู้ใช้บริการ PlayStation Plus หลายคนที่ยังมีคำถามเกี่ยวกับบริการนี้ โดยในวันนี้ทางทีมงาน GameFever จึงขออาสามาวิเคราะห์สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในบริการ PS Plus ใหม่นี้ ว่าคุ้มค่าเหมาะสมกับราคา 2,300 บาทต่อปีที่จ่ายไปแค่ไหน?!

(สำหรับคนที่อาจไม่ได้ติดตามข่าวคราวเกม อาจจะยังไม่ทราบว่าบริการ PlayStation Plus ใหม่นี้มีอะไรมาให้เราบ้าง สามารถเข้าไปศึกษาได้ก่อนที่บทความ >>นี้<<)

(ขอขอบคุณทาง Sony Interactive Entertainment Singapore สำหรับแพ๊คเกจที่ใช้ในการรีวิว)



เกมฟรี…ที่เคยเล่นไปหมดแล้ว

ก่อนอื่น เรามาเริ่มพูดถึงจุดขายหลักของบริการนี้ นั่นก็คือรายชื่อเกม PS4/PS5 ฟรีนับร้อย ๆ เกมที่จะเปิดให้โหลดเล่นกันได้แบบบุฟเฟ่ต์ ซึ่งมีทั้งเกม PlayStation Exclusive ชื่อดัง ๆ อย่าง God of War, Uncharted, Ghost of Tsushima, หรือ The Last of Us (เปิดให้ทั้งผู้สมัครบริการ PS Plus Deluxe และ Extra) 


สิ่งแรกที่ผู้เล่นหลายคนอาจจะสังเกตคือรายชื่อเกมเหล่านี้ แทบทั้งหมดเป็นเกมระดับ AAA ยอดฮิตที่วางจำหน่ายมานานพอสมควร และหลายเกมยังเคยวางจำหน่ายในราคาถูกในฐานะเกม PlayStation 4 Essentials (ปัจจุบันแจกฟรีให้ผู้ใช้ PS Plus ทุกคนทุกระดับด้วยซ้ำ) ที่เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็น่าจะเคยเล่นกันไปบ้างแล้วไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะเหล่าแฟน ๆ ตัวยงของ PlayStation ที่น่าจะเก็บเกม Exclusive ไปหมดแล้ว ยังไม่นับรวมเทศกาลลดราคาที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอทั้งในและนอกร้านค้าของ PlayStation เอง ซึ่งก็ทำให้จุดขายหลักของบริการนี้น่าดึงดูดน้อยลงทันทีสำหรับคนที่เล่นเครื่อง PlayStation 4 มาซักระยะหนึ่งแล้ว


หากไม่นับเกม Exclusive แล้ว บริการ PlayStation Deluxe ก็ยังพอมีเกม 3rd Party ดัง ๆ ให้เลือกเล่นอยู่จำนวนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น Assassin’s Creed: Valhalla, Red Dead Redemption 2, หรือ Final Fantasy หลาย ๆ ภาค แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นเกมที่หาเล่นได้บนบริการของคู่แข่งอย่าง Xbox/PC Game Pass อยู่แล้วด้วยเช่นกัน


เกมเกมเก่าเพียงหยิบมือ

จุดขายที่สำคัญรองลงมาสำหรับบริการระดับ Deluxe โดยเฉพาะ คือรายชื่อ “เกมคลาสสิค” จากยุค PS1/PS2/PSP ที่เปิดให้เล่นกันฟรี ๆ อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเอาเข้าจริงน่าจะเป็นจุดขายที่ดึงดูดความสนใจของแฟนเกมรุ่นใหญ่ ๆ ได้ชงัดนัก

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตัวเลือกเกมคลาสสิคที่นำมาให้เล่นนั้นมีอยู่เพียงน้อยนิดเท่านั้น น้อยกว่าที่หลายคน (รวมถึงผู้เขียน) คาดเอาไว้มาก ๆ และแม้จะมีเกมดังในยุคนั้นอย่าง Syphon Filter หรือ Wild Arms อยู่ประปราย แต่โดยรวมแล้วก็เป็นส่วนน้อย และเชื่อว่าคนส่วนใหญ่น่าจะตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าของการจ่ายเงินเพิ่มสำหรับแพ๊คเกจ Deluxe เช่นเดียวกับผู้เขียนนั่นเอง


แน่นอนว่าบริการนี้ยังมีพื้นที่ให้เติบโตได้อีกมากในอนาคต และเราอาจได้เห็นการกลับมาของเกมยุคเก่าชื่อดังมากมายที่หลายคนโหยหาจนได้ แต่ในสภาพปัจจุบันก็อดรู้สึกไม่ได้ว่ารายชื่อเกมที่ร่วมรายการดูจะเป็นเกมที่ 'เพิ่มเข้าไปงั้น ๆ' มากกว่าเป็นรายชื่อเกมที่ได้รับการคัดเลือกมาแล้วเพื่อสร้างความสนใจในหมู่ผู้ใช้บริการ และทำให้ตั้งคำถามว่าบริการนี้ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วแค่ไหนก่อนที่จะเปิดตัวออกมา



ทดลองเกมฟรี

ในจุดนี้ยอมรับว่าตัวผู้เขียนไม่ได้ทดสอบระบบนี้ด้วยตัวเอง เนื่องจากเกมส่วนใหญ่ที่เปิดให้ทดลองเป็นเกมที่เคยซื้อมาไว้ในบัญชีแล้ว แต่ถ้าให้กล่าวแบบกลาง ๆ แน่นอนว่าการเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ทดลองเกมตัวเต็มก่อนตัดสินใจซื้อย่อมเป็นผลดีกับตัวผู้เล่นเอง เพราะจะได้รู้ว่าสนใจหรือสนุกกับเกมนั้น ๆ จริงหรือไม่ แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็คงต้องรอดูว่า Sony จะสามารถนำเกมใหม่ ๆ มาให้ลองเล่นกันได้บ่อยแค่ไหน เพราะบริการนี้จะไม่มีประโยชน์เลยถ้าผู้พัฒนาส่วนใหญ่ไม่ยอมให้นำเกมมาร่วมรายการ 


(รายชื่อเกมที่เปิดทดลองเล่นในขณะนี้ น่าลองไหมถามใจเธอดู)

สรุป: แล้วตกลงบริการนี้เหมาะกับใคร?

หากจะว่ากันแฟร์ ๆ แน่นอนว่าการมีบริการ PlayStation Plus Deluxe เช่นนี้ ย่อมเป็นการมอบทางเลือกใหม่ให้ผู้เล่น ซึ่งในระยะยาวย่อมส่งผลดีกับผู้เล่นมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย แถมราคาของบริการ 2,300 บาทต่อปี (ตกเดือนละไม่ถึง 200) แม้จะสูงกว่าของคู่แข่งพอสมควร แต่ตราบใดที่คุณโหลดเกม AAA มาเล่นอย่างน้อย 2 เกมต่อปีก็ถือว่าคุ้มแล้ว เมื่อเทียบกับราคาซื้อแผ่นมือ 1 สองแผ่น


สุดท้ายแล้วคนที่จะได้ประโยชน์จากบริการนี้มากที่สุดคงจะเป็นคนที่ไม่เคยเป็นเจ้าของคอนโซลมาก่อน หรือคนที่เพิ่งเข้าสู่วงการ AAA เพราะจะมีเกมให้เลือกเล่นมากมายทันทีโดยไม่ต้องซื้อแผ่นเกมด้วยซ้ำ แต่สำหรับคนที่เป็นสมาชิก PS Plus มาช้านาน เคยเล่นเกมเด่น ๆ ของ PlayStation ไปหมดแล้ว จะรอจนกว่า Sony จะเพิ่มเกมใหม่ (หรือเกมเก่าที่น่าสนใจ) เข้าไปก่อนค่อยสมัครก็ยังไม่สาย


แถม: แผนการท้าชนตลาดมือ 2 ของ Sony?

อันนี้เป็นการวิเคราะห์ของตัวผู้เขียนเองในฐานะเกมเมอร์ชาวไทย แต่บริการ PlayStation Plus Deluxe อาจจะเป็นความพยายามของ Sony ที่จะต่อกรกับตลาดแผ่นเกมมือ 2 ที่แพร่หลายในประเทศแถบเอเซีย

ความเป็นจริงอย่างหนึ่งของวงการเกมคอนโซลแถบเอเซียคือการที่ผู้เล่นจำนวนมาก มักซื้อเกมจากตลาดมือ 2 เท่านั้น และมีสัดส่วนน้อยมาก ๆ ที่จะซื้อเกมแบบ Day-1 ราคาเต็มจากร้าน หมายความว่าแม้ประเทศไทยจะมียอดเจ้าของคอนโซลเยอะ (คุ้น ๆ ว่าเยอะที่สุดในแถบ SEA ด้วยซ้ำ) แต่ Sony กลับสามารถทำเงินจากการขายเกมในตลาดได้น้อยเมื่อเทียบกับจำนวนเจ้าของคอนโซล เพราะคนส่วนใหญ่รอซื้อมือ 2 หรือรอลดราคากันหมด บริการ PS Plus Deluxe จึงเป็นวิธีให้ผู้เล่นกำลังซื้อต่ำสามารถเข้าถึงเกมจำนวนมากได้ในราคาที่ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับการซื้อเกมแยกทีละเกม เพื่อให้เงินนั้นยังคงหมุนกลับมาหา Sony จนได้ แทนที่จะหายไปเปล่า ๆ ในตลาดมือ 2

พูดง่าย ๆ ว่าการใช้บริการ PlayStation Plus Deluxe จึงอาจเป็นวิธีการสนับสนุน Sony และ PlayStation ในแบบที่ win-win ทั้งฝ่ายผู้บริโภคและค่ายนั่นเอง

บทความที่คล้ายกัน

GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[Review] รีวิวบริการ PlayStation Plus Deluxe "แพ๊คเหมาจ่ายสุดคุ้มสำหรับ...ใครกันแน่?"
31/05/2022

ถือเป็นความเคลื่อนไหวใหญ่ของ Sony ในช่วงหลายเดือนมานี้ เมื่อล่าสุดค่ายได้ประกาศเปิดให้บริการแพ๊คเกจรายเดือน PlayStation Plus รูปแบบใหม่ ที่นอกจากจะเปิดให้เล่นเกมออนไลน์ได้เหมือนแต่ก่อน ผู้สมัครบริการยังสามารถเล่นเกมที่ร่วมรายการนับร้อยเกมได้แบบฟรี ๆ ในลักษณะเดียวกับบริการยอดฮิต Xbox/PC Game Pass ของฝั่ง Microsoft นั่นเอง!

ทั้งนี้ ยังมีผู้ใช้บริการ PlayStation Plus หลายคนที่ยังมีคำถามเกี่ยวกับบริการนี้ โดยในวันนี้ทางทีมงาน GameFever จึงขออาสามาวิเคราะห์สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในบริการ PS Plus ใหม่นี้ ว่าคุ้มค่าเหมาะสมกับราคา 2,300 บาทต่อปีที่จ่ายไปแค่ไหน?!

(สำหรับคนที่อาจไม่ได้ติดตามข่าวคราวเกม อาจจะยังไม่ทราบว่าบริการ PlayStation Plus ใหม่นี้มีอะไรมาให้เราบ้าง สามารถเข้าไปศึกษาได้ก่อนที่บทความ >>นี้<<)

(ขอขอบคุณทาง Sony Interactive Entertainment Singapore สำหรับแพ๊คเกจที่ใช้ในการรีวิว)



เกมฟรี…ที่เคยเล่นไปหมดแล้ว

ก่อนอื่น เรามาเริ่มพูดถึงจุดขายหลักของบริการนี้ นั่นก็คือรายชื่อเกม PS4/PS5 ฟรีนับร้อย ๆ เกมที่จะเปิดให้โหลดเล่นกันได้แบบบุฟเฟ่ต์ ซึ่งมีทั้งเกม PlayStation Exclusive ชื่อดัง ๆ อย่าง God of War, Uncharted, Ghost of Tsushima, หรือ The Last of Us (เปิดให้ทั้งผู้สมัครบริการ PS Plus Deluxe และ Extra) 


สิ่งแรกที่ผู้เล่นหลายคนอาจจะสังเกตคือรายชื่อเกมเหล่านี้ แทบทั้งหมดเป็นเกมระดับ AAA ยอดฮิตที่วางจำหน่ายมานานพอสมควร และหลายเกมยังเคยวางจำหน่ายในราคาถูกในฐานะเกม PlayStation 4 Essentials (ปัจจุบันแจกฟรีให้ผู้ใช้ PS Plus ทุกคนทุกระดับด้วยซ้ำ) ที่เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็น่าจะเคยเล่นกันไปบ้างแล้วไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะเหล่าแฟน ๆ ตัวยงของ PlayStation ที่น่าจะเก็บเกม Exclusive ไปหมดแล้ว ยังไม่นับรวมเทศกาลลดราคาที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอทั้งในและนอกร้านค้าของ PlayStation เอง ซึ่งก็ทำให้จุดขายหลักของบริการนี้น่าดึงดูดน้อยลงทันทีสำหรับคนที่เล่นเครื่อง PlayStation 4 มาซักระยะหนึ่งแล้ว


หากไม่นับเกม Exclusive แล้ว บริการ PlayStation Deluxe ก็ยังพอมีเกม 3rd Party ดัง ๆ ให้เลือกเล่นอยู่จำนวนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น Assassin’s Creed: Valhalla, Red Dead Redemption 2, หรือ Final Fantasy หลาย ๆ ภาค แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นเกมที่หาเล่นได้บนบริการของคู่แข่งอย่าง Xbox/PC Game Pass อยู่แล้วด้วยเช่นกัน


เกมเกมเก่าเพียงหยิบมือ

จุดขายที่สำคัญรองลงมาสำหรับบริการระดับ Deluxe โดยเฉพาะ คือรายชื่อ “เกมคลาสสิค” จากยุค PS1/PS2/PSP ที่เปิดให้เล่นกันฟรี ๆ อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเอาเข้าจริงน่าจะเป็นจุดขายที่ดึงดูดความสนใจของแฟนเกมรุ่นใหญ่ ๆ ได้ชงัดนัก

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตัวเลือกเกมคลาสสิคที่นำมาให้เล่นนั้นมีอยู่เพียงน้อยนิดเท่านั้น น้อยกว่าที่หลายคน (รวมถึงผู้เขียน) คาดเอาไว้มาก ๆ และแม้จะมีเกมดังในยุคนั้นอย่าง Syphon Filter หรือ Wild Arms อยู่ประปราย แต่โดยรวมแล้วก็เป็นส่วนน้อย และเชื่อว่าคนส่วนใหญ่น่าจะตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าของการจ่ายเงินเพิ่มสำหรับแพ๊คเกจ Deluxe เช่นเดียวกับผู้เขียนนั่นเอง


แน่นอนว่าบริการนี้ยังมีพื้นที่ให้เติบโตได้อีกมากในอนาคต และเราอาจได้เห็นการกลับมาของเกมยุคเก่าชื่อดังมากมายที่หลายคนโหยหาจนได้ แต่ในสภาพปัจจุบันก็อดรู้สึกไม่ได้ว่ารายชื่อเกมที่ร่วมรายการดูจะเป็นเกมที่ 'เพิ่มเข้าไปงั้น ๆ' มากกว่าเป็นรายชื่อเกมที่ได้รับการคัดเลือกมาแล้วเพื่อสร้างความสนใจในหมู่ผู้ใช้บริการ และทำให้ตั้งคำถามว่าบริการนี้ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วแค่ไหนก่อนที่จะเปิดตัวออกมา



ทดลองเกมฟรี

ในจุดนี้ยอมรับว่าตัวผู้เขียนไม่ได้ทดสอบระบบนี้ด้วยตัวเอง เนื่องจากเกมส่วนใหญ่ที่เปิดให้ทดลองเป็นเกมที่เคยซื้อมาไว้ในบัญชีแล้ว แต่ถ้าให้กล่าวแบบกลาง ๆ แน่นอนว่าการเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ทดลองเกมตัวเต็มก่อนตัดสินใจซื้อย่อมเป็นผลดีกับตัวผู้เล่นเอง เพราะจะได้รู้ว่าสนใจหรือสนุกกับเกมนั้น ๆ จริงหรือไม่ แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็คงต้องรอดูว่า Sony จะสามารถนำเกมใหม่ ๆ มาให้ลองเล่นกันได้บ่อยแค่ไหน เพราะบริการนี้จะไม่มีประโยชน์เลยถ้าผู้พัฒนาส่วนใหญ่ไม่ยอมให้นำเกมมาร่วมรายการ 


(รายชื่อเกมที่เปิดทดลองเล่นในขณะนี้ น่าลองไหมถามใจเธอดู)

สรุป: แล้วตกลงบริการนี้เหมาะกับใคร?

หากจะว่ากันแฟร์ ๆ แน่นอนว่าการมีบริการ PlayStation Plus Deluxe เช่นนี้ ย่อมเป็นการมอบทางเลือกใหม่ให้ผู้เล่น ซึ่งในระยะยาวย่อมส่งผลดีกับผู้เล่นมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย แถมราคาของบริการ 2,300 บาทต่อปี (ตกเดือนละไม่ถึง 200) แม้จะสูงกว่าของคู่แข่งพอสมควร แต่ตราบใดที่คุณโหลดเกม AAA มาเล่นอย่างน้อย 2 เกมต่อปีก็ถือว่าคุ้มแล้ว เมื่อเทียบกับราคาซื้อแผ่นมือ 1 สองแผ่น


สุดท้ายแล้วคนที่จะได้ประโยชน์จากบริการนี้มากที่สุดคงจะเป็นคนที่ไม่เคยเป็นเจ้าของคอนโซลมาก่อน หรือคนที่เพิ่งเข้าสู่วงการ AAA เพราะจะมีเกมให้เลือกเล่นมากมายทันทีโดยไม่ต้องซื้อแผ่นเกมด้วยซ้ำ แต่สำหรับคนที่เป็นสมาชิก PS Plus มาช้านาน เคยเล่นเกมเด่น ๆ ของ PlayStation ไปหมดแล้ว จะรอจนกว่า Sony จะเพิ่มเกมใหม่ (หรือเกมเก่าที่น่าสนใจ) เข้าไปก่อนค่อยสมัครก็ยังไม่สาย


แถม: แผนการท้าชนตลาดมือ 2 ของ Sony?

อันนี้เป็นการวิเคราะห์ของตัวผู้เขียนเองในฐานะเกมเมอร์ชาวไทย แต่บริการ PlayStation Plus Deluxe อาจจะเป็นความพยายามของ Sony ที่จะต่อกรกับตลาดแผ่นเกมมือ 2 ที่แพร่หลายในประเทศแถบเอเซีย

ความเป็นจริงอย่างหนึ่งของวงการเกมคอนโซลแถบเอเซียคือการที่ผู้เล่นจำนวนมาก มักซื้อเกมจากตลาดมือ 2 เท่านั้น และมีสัดส่วนน้อยมาก ๆ ที่จะซื้อเกมแบบ Day-1 ราคาเต็มจากร้าน หมายความว่าแม้ประเทศไทยจะมียอดเจ้าของคอนโซลเยอะ (คุ้น ๆ ว่าเยอะที่สุดในแถบ SEA ด้วยซ้ำ) แต่ Sony กลับสามารถทำเงินจากการขายเกมในตลาดได้น้อยเมื่อเทียบกับจำนวนเจ้าของคอนโซล เพราะคนส่วนใหญ่รอซื้อมือ 2 หรือรอลดราคากันหมด บริการ PS Plus Deluxe จึงเป็นวิธีให้ผู้เล่นกำลังซื้อต่ำสามารถเข้าถึงเกมจำนวนมากได้ในราคาที่ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับการซื้อเกมแยกทีละเกม เพื่อให้เงินนั้นยังคงหมุนกลับมาหา Sony จนได้ แทนที่จะหายไปเปล่า ๆ ในตลาดมือ 2

พูดง่าย ๆ ว่าการใช้บริการ PlayStation Plus Deluxe จึงอาจเป็นวิธีการสนับสนุน Sony และ PlayStation ในแบบที่ win-win ทั้งฝ่ายผู้บริโภคและค่ายนั่นเอง


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header