หลาย ๆ คนมักจะกล่าวว่าอายุเป็นเพียงตัวเลขตัวเลขหนึ่งที่ค่อย ๆ หมุนไปตามกาลเวลา แต่ไม่อาจจะพรากสิ่งที่เรารักออกไปจากกันได้ ซึ่งเรื่องนี้ผู้เขียนเองก็ไม่เถียง แต่ในขณะเดียวกันเวลาก็นำพาเอาสิ่งต่าง ๆ เข้ามาในชีวิตเราจนกระทั่งบางครั้งเราอาจจะรักหรือไม่รักสิ่งเดิมอีกต่อไป
สิ่งที่ว่านั้นคือ "วิดีโอเกม" ที่ผู้เขียนผูกพันธ์กับสิ่งนี้มาตั้งแต่เลขหลักเดียว จนปัจจุบันก็ปาเข้าไป 20 กลาง ๆ แล้วยังคงผูกพันธ์อยู่กับสิ่งนี้เสมอ สิ่งที่ขัดความเราอยู่ตอนนี้มิใช่เรื่องของความรักที่มีต่อเกม แต่เป็นเรื่องของการงานที่อาจจะทำให้หลาย ๆ คนเลิกเล่นเกมไปเลย สำหรับน้อง ๆ ท่านไหนที่อยากรู้ว่าการเป็นเกมเมอร์ในวัยทำงานเป็นอย่างไร วันนี้พี่ ๆ จะมาเล่าให้ฟัง
ความรับผิดชอบคือสิ่งที่วัยทำงานต้องแบกไว้เสมอ
ในตอนเด็ก ๆ หรือวัยรุ่นเราสามารถที่จะเล่นเกมได้แบบไม่แคร์ฟ้าดิน จะเล่นตั้งแต่เย็นไปถึงเช้าหรือว่าจะเล่นติดกัน 8-9 ชั่วโมงไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน ไม่ยอมสนใจด้านอื่น ๆ ในชีวิต (อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง) โดยเสพติดแต่เพียงความก้าวหน้าที่มีแต่โลกในเกมและความสนุกเท่านั้น
แต่เมื่อเข้าสู่โลกของการทำงาน ไม่ว่าคุณจะเก่งมากจากไหน ความรับผิดชอบถือว่าเป็นปัจจัยพื้นฐานสำหรับวัยทำงานทุกคน เราไม่สามารถที่จะนั่งเล่นเกมแบบโต้รุ่งแล้วไปทำงานได้ เพราะนอกจากความหล้าของสมองและร่างกายที่ไม่ได้พักผ่อน อาจจะทำให้ความรับผิดชอบของคุณพังได้ ซึ่งครั้งเดียวก็ถือว่าหนักแล้ว อีกทั้งยังทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพอีกด้วย
นอกจากนี้เกมเมอร์วัยทำงานบางคนอาจจะต้องรับผิดชอบมากกว่าชีวิตของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นแฟน ครอบครัว หรือแม้แต่สมาชิกในทีมเอง ทำให้การเล่นเกมแต่ละครั้งจะอยู่ในพื้นฐานที่ว่า เล่นแต่พอดี เสมอครับผม
การเล่นเกมแต่ละครั้งอาจจะต้องคิดมากขึ้น
ตอนเป็นเด็กเรามักจะชอบเกม RPG หรือเกมแนวโลกเปิดอย่าง ซีรีส์ Assassins Creed , ซีรีส์ Grand thef Auto หรือเกมที่มีเนื้อเรื่องยาว ๆ อย่าง Final Fantasy ภาคต่าง ๆ แต่ปัจจุบันเมื่อเข้าสู่วัยทำงานแล้วเรามักจะทองหาเกมที่เล่นได้จบไว ๆ ใช้เวลาในการเล่นไม่เยอะอย่าง FIFA หรือ ROV ที่สามารถเล่นจบโดยใช้เวลาไม่นาน
เพราะว่าในวัยนี้เวลามากกว่าวันละ 8-10 ชั่วโมงไปกับการทำงานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณทำงานในระดับ C - Level ขึ้นไป วันทั้งวันของคุณอาจจะหมดไปกับการเพียงแค่ประชุมอย่างเดียว นี่ยังไม่นับกับงานอื่นที่อยู่นอกเหนือไปจากห้องประชุมอีกต่างหาก ทำให้การใช้เวลาแต่ละวันต้องวางแผนให้ดีกว่าเดิม การเล่นเกมที่ใช้เวลายาวนานอาจจะไม่ค่อยตอบโจทย์เท่าไหร่
ทำให้เราอาจจะต้องคิดในการเกล่นเกมแต่ครั้งว่าใช้เวลานานไหม ยากเกินไปรึเปล่าเป็นต้น
เก่าแต่เก๋า Vs คนหนุ่มพลังเยอะ
สิ่งที่หลาย ๆ คนเมื่อมีอายุเยอะขึ้นการเล่นเกมที่ต้องใช้การตอบสนองไว ๆ หรือความคิดในการแก้ปัญหาที่รวดเร็ว อาจจะประสบปัญหาได้ เพราะว่าเราไม่ฟิตเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว เอาง่าย ๆ คือแก่ลงอะไร ๆ ก็ช้าตาม ยิ่งคุณเป็นมุษย์ที่ไม่ค่อยผิตร่างกายเป็นประจำยิ่งร้ายไปใหญ่ เพราะพลังงานของเราไม่เท่ากับตอนเมื่อยังเป็นหนุ่ม
แต่ในทางกลับกันการที่เราเล่นเกมมาอย่างยาวนาน ทำให้เราสามารถที่จะคาดเดารวมถึงคาดคะเนทิศทางและแนวโน้มของเกมได้ อีกทั้งเรายังสามารถที่จะประยุกต์ประสบการณ์ที่ได้มาจากเกมอื่น ๆ ได้ดีอีกด้วย ทำให้การเป็นเกมเมอร์วัยทำงานมาพร้อมกับความเก๋าที่เป็นเหมือนสกิลติดตัว
พลังของเงินมาพร้อมกับความสนุกรูปแบบใหม่ ๆ
ตอนเป็นเด็กเรามักจะบนเวลาที่เราไปเล่นเกม Multiplayer เรามักจะบ่นปนสาปแช่งถึงเหล่าบรรดาเทพทรู ผู้ใช้พลังเงินในการเอาชนะผู้อื่น แต่ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งคุณอาจจะกลายเป็นเหล่าเทพทรูประจำเกมแทน โดยการเติมเงินเข้าไปเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ลดระยะเวลาในการ Gliding รวมไปถึงสร้างข้อได้เปรียบที่ทำให้เราสามารถเอาชนะผู้อื่น ๆ ได้ง่ายกว่าเดิม เกิดเป็นความสนุกรูปแบบใหม่ ชนิดที่ว่าไม่มีอะไรมาจำกัดความเก่งของคุณนอกจากเวลาในการเล่นและคนที่เติมเงินมากกว่า หากคุณเจอเกมประเภทนี้บ่อย ๆ คุณอาจจะติดความเป็นเทพทรู ยิ่งหากคุณเป็นสาย Analytic การเติมเงินของคุณจะยิ่งคุ้มค่ามากกว่าเดิม
นอกจากนี้สำหรับบางคนอาจจะไม่ใช่เกมเมอร์สายเทพทรู แต่กลายเป็นเกมเมอร์สายสะสมแทน ไม่ว่าจะเป็นแผ่นเกม เครื่องเกมเก่า ๆ หรือการอัปเกรดคอมจนกลายแรงระดับเล่น 4K 60 FPS แม้ไม่มีเวลาเล่นแต่ก็มีความสุขที่ได้ยินเสียงพัดลม เป็นเหมือนกับการทวงคืนวัยเด็กที่เราไม่อาจจะย้อนกลับคืนมาได้ แต่เราสามารถซื้อบรรยากาศเก่า ๆ ได้
มิตรภาพคือสิ่งที่ยาวนานกว่าอายุของเกม
สิ่งที่นอกเหนือจากความสนุกในการเล่นเกมแล้ว คือมิตรสหายผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเรามา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่ น้อง จากที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกิล แคลนหรือปาร์ตี้ที่เล่นเกมด้วยกันบ่อย ๆ สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นความผูกพันธ์และทำให้เราสามารถอยู่กับเกมนั้นได้นานที่สุด ซึ่งหลาย ๆ คนในวัยทำงานอาจจะไม่อยากเล่นเกมแล้ว แต่ด้วยมิตรภาพที่มีอาจจะส่งผลให้บางคนกลับมาเล่นเกมอืกครั้ง
สรุป
การเป็นเกมเมอร์วัยทำงานอาจจะทำให้หลาย ๆ คนไม่สามารถเสพความสุขในการเล่นเกมได้เหมือนเก่า แต่ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้เราเปิดมุมมองใหม่ ๆ ในเรื่องของวิดีโอเกมให้กับเรา ทั้งในเรื่องของความสนุก ความคุ้มค่าและมิตรภาพ สุดท้ายแล้วเราอาจจะไม่ได้เล่นเกมทุกวัน แต่เรายังคงสนุกกับสิ่งที่เรียกว่า "วิดีโอเกม" เหมือนเดิม
Superbom001
นักเขียน
บ๋อม - Content Writer / Gamer/ Freelancer