เป็นข่าวใหญ่พอสมควรสำหรับเกมเมอร์ทั่วโลก เมื่อสื่อทั่วโลกรายงานถึงการตัดสินใจขององค์กรอนามัยโลก (WHO) ที่ประกาศจะเพิ่มอาการ ติดเกม เข้าไปในคู่มือการจัดจำแนกโรค (ICD-11) ฉบับใหม่ล่าสุด ให้เป็นบรรทัดฐานในการวินิจฉัยโรคและอาการป่วยต่างๆ โดยองค์กรแพทย์ทั่วโลก (อ่านรายละเอียด ที่นี่)
ล่าสุด ตัวแทนจากองค์กรเกี่ยวกับเกมทั่วโลกได้ออกมาแสดงความไม่พอใจกับการตัดสินใจขององค์กรอนามัยโลก นำโดยองค์กรนักพัฒนาเกมยุโรป (EGDF) และสนับสนุนโดยองค์กรจากหลายประเทศรวมถึงองค์กรนานาชาติอย่าง ESA หรือองค์กรซอฟต์แวร์เพื่อความบันเทิงอีกด้วย โดยในคำแถลงการระบุว่า
มีผู้เล่นกว่า 2 พันล้านคนทั่วโลกที่สามารถสนุกกับวีดีโอเกมหลากหลายแนว บนคอนโซลหลากหลายชนิด ได้อย่างปลอดภัยและมีสติ นอกจากนี้ เกมยังได้รับการพิสูจน์และรับรองจากงานวิจัยทั่วโลกมาแล้วว่ามีส่วนช่วยทั้งด้านการศึกษา การบำบัด และการสันทนาการอีกด้วย เราจึงรู้สึกเป็นกังวลกับคำประกาศขององค์กรอนามัยโลก ที่ยังคงยืนยันจะบรรจุ โรคติดเกม ลงไปในคู่มือ ICD-11 ฉบับล่าสุด ทั้งที่มีเสียงต้านจากผู้เชี่ยวชาญทั้งในวงการแพทย์และวิทยาศาสตร์ เพราะหลักฐานที่สนับสนุนการบรรจุโรคติดเกมนั้นยังคงคลุมเครือและเป็นที่ถกเถียงกันอย่างหนัก เราหวังว่าทางองค์กรอนามัยโลกจะพิจารณาหลักฐานและข้อพิสูจน์ต่างๆ อีกครั้งก่อนที่คู่มือ ICD-11 จะได้รับการอนุมัติในปีหน้า และทั้งองค์กรของเรารวมถึงผู้สนับสนุนจากทั่วโลกจะยังคงเดินหน้าต่อต้านการกระทำขององค์กรอนามัยโลก ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อวงการแพทย์ทั่วโลกโดยไร้สาเหตุ
องค์กรเกมต่างๆ ให้เหตุผลเพิ่มเติมถึงการออกมาต่อต้านคำประกาศของ WHO ว่าการบัญญัติให้อาการติดเกมกลายเป็นโรคทางการแพทย์อาจจะทำให้เกิดการสร้างความชอบธรรมแบบผิดๆ ให้กับผู้ที่ต่อต้านเกม เพราะอาการติดเกมยังคงมีหลักฐานสนับสนุนทางการแพทย์ไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับข้อมูลเชิงลึกที่อาการเสพติดชนิดอื่นๆ มีก่อนที่จะได้รับบัญญัติเป็นโรค
ในคู่มือ ICD-11 ฉบับปัจจุบันระบุอาการของผู้ติดเกมเอาไว้ว่าต้องเป็นผู้ที่ไม่สามารถควบคุมการเล่นเกมของตัวเองได้ รู้สึกมีความอยากเล่นเกมตลอดเวลาจนไม่เป็นอันคิดเรื่องอื่น ทำให้กระทบต่อความรับผิดชอบหรือความสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้างในทางลบอย่างต่อเนื่อง โดยในรายงานยังมีการแยกย่อยอาการออกมาเป็นผู้ที่ติดเกมออนไลน์ หรือออฟไลน์ เป็นต้น
ทั้งนี้ คงปฏิเสธลำบากว่าผู้ที่เล่นเกมจนเกิดผลเสียต่อชีวิตและความสัมพันธ์นั้นมีอยู่จริง แต่จะเรียกว่าเป็นอาการทางการแพทย์หรือไม่คงต้องรอดูกันอีกทีเรื่อย เพราะคู่มือ ICD-11 จะได้รับการรับรองในงานประชุมของ WHO ในเดือนพฤษภาคม 2019 และจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการในปี 2022 จึงยังมีความเป็นไปได้ว่า WHO จะยอมจำนนต่อเสียงคัดค้านจากเกมเมอร์ทั่วโลกและแก้คู่มืออีกครั้งก่อนจะนำเสนอต่อที่ประชุมในปีหน้า
เป็นข่าวใหญ่พอสมควรสำหรับเกมเมอร์ทั่วโลก เมื่อสื่อทั่วโลกรายงานถึงการตัดสินใจขององค์กรอนามัยโลก (WHO) ที่ประกาศจะเพิ่มอาการ ติดเกม เข้าไปในคู่มือการจัดจำแนกโรค (ICD-11) ฉบับใหม่ล่าสุด ให้เป็นบรรทัดฐานในการวินิจฉัยโรคและอาการป่วยต่างๆ โดยองค์กรแพทย์ทั่วโลก (อ่านรายละเอียด ที่นี่)
ล่าสุด ตัวแทนจากองค์กรเกี่ยวกับเกมทั่วโลกได้ออกมาแสดงความไม่พอใจกับการตัดสินใจขององค์กรอนามัยโลก นำโดยองค์กรนักพัฒนาเกมยุโรป (EGDF) และสนับสนุนโดยองค์กรจากหลายประเทศรวมถึงองค์กรนานาชาติอย่าง ESA หรือองค์กรซอฟต์แวร์เพื่อความบันเทิงอีกด้วย โดยในคำแถลงการระบุว่า
มีผู้เล่นกว่า 2 พันล้านคนทั่วโลกที่สามารถสนุกกับวีดีโอเกมหลากหลายแนว บนคอนโซลหลากหลายชนิด ได้อย่างปลอดภัยและมีสติ นอกจากนี้ เกมยังได้รับการพิสูจน์และรับรองจากงานวิจัยทั่วโลกมาแล้วว่ามีส่วนช่วยทั้งด้านการศึกษา การบำบัด และการสันทนาการอีกด้วย เราจึงรู้สึกเป็นกังวลกับคำประกาศขององค์กรอนามัยโลก ที่ยังคงยืนยันจะบรรจุ โรคติดเกม ลงไปในคู่มือ ICD-11 ฉบับล่าสุด ทั้งที่มีเสียงต้านจากผู้เชี่ยวชาญทั้งในวงการแพทย์และวิทยาศาสตร์ เพราะหลักฐานที่สนับสนุนการบรรจุโรคติดเกมนั้นยังคงคลุมเครือและเป็นที่ถกเถียงกันอย่างหนัก เราหวังว่าทางองค์กรอนามัยโลกจะพิจารณาหลักฐานและข้อพิสูจน์ต่างๆ อีกครั้งก่อนที่คู่มือ ICD-11 จะได้รับการอนุมัติในปีหน้า และทั้งองค์กรของเรารวมถึงผู้สนับสนุนจากทั่วโลกจะยังคงเดินหน้าต่อต้านการกระทำขององค์กรอนามัยโลก ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อวงการแพทย์ทั่วโลกโดยไร้สาเหตุ
องค์กรเกมต่างๆ ให้เหตุผลเพิ่มเติมถึงการออกมาต่อต้านคำประกาศของ WHO ว่าการบัญญัติให้อาการติดเกมกลายเป็นโรคทางการแพทย์อาจจะทำให้เกิดการสร้างความชอบธรรมแบบผิดๆ ให้กับผู้ที่ต่อต้านเกม เพราะอาการติดเกมยังคงมีหลักฐานสนับสนุนทางการแพทย์ไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับข้อมูลเชิงลึกที่อาการเสพติดชนิดอื่นๆ มีก่อนที่จะได้รับบัญญัติเป็นโรค
ในคู่มือ ICD-11 ฉบับปัจจุบันระบุอาการของผู้ติดเกมเอาไว้ว่าต้องเป็นผู้ที่ไม่สามารถควบคุมการเล่นเกมของตัวเองได้ รู้สึกมีความอยากเล่นเกมตลอดเวลาจนไม่เป็นอันคิดเรื่องอื่น ทำให้กระทบต่อความรับผิดชอบหรือความสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้างในทางลบอย่างต่อเนื่อง โดยในรายงานยังมีการแยกย่อยอาการออกมาเป็นผู้ที่ติดเกมออนไลน์ หรือออฟไลน์ เป็นต้น
ทั้งนี้ คงปฏิเสธลำบากว่าผู้ที่เล่นเกมจนเกิดผลเสียต่อชีวิตและความสัมพันธ์นั้นมีอยู่จริง แต่จะเรียกว่าเป็นอาการทางการแพทย์หรือไม่คงต้องรอดูกันอีกทีเรื่อย เพราะคู่มือ ICD-11 จะได้รับการรับรองในงานประชุมของ WHO ในเดือนพฤษภาคม 2019 และจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการในปี 2022 จึงยังมีความเป็นไปได้ว่า WHO จะยอมจำนนต่อเสียงคัดค้านจากเกมเมอร์ทั่วโลกและแก้คู่มืออีกครั้งก่อนจะนำเสนอต่อที่ประชุมในปีหน้า