"ภาพลักษณ์น่าตื่นตาแต่มีอะไรให้ทำน้อยเกินไป" นั่นคือสิ่งที่ผมรู้สึกเมื่อได้ลองเล่นเกมครั้งแรกในงาน TGS 2018 ในฐานะแฟนอนิเมะ ผมทึ่งกับคุณภาพการดัดแปลงในครั้งนี้มาก ตัวละครและ Ragalias ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างแม่นยำและดูเจ๋งเหมือนตอนได้ดูอนิเมะครั้งแรก ภาพเวลาโจมตีและใช้สกิลทำได้เหมือนในอนิเมะ ตัวอักษรคันจิและสีสันบาดตาที่เป็นเอกลักษณ์ของอนิเมะทำออกมาได้อย่างไร้ที่ติ ต้องยกความดีให้สตูดิโอ Arc และ Trigger ที่จัดการงานศิลป์ออกมาได้ดีมาก
แต่ความดีความชอบด้านงานศิลป์ก็ไม่สามารถชดเชยให้กับเกมเพลย์ที่ยังด้อยอยู่ได้ ในฐานะเกมต่อสู้จากอนิเมะแล้วนี่เป็นเกมที่เรียบง่ายมาก มีปุ่มโจมตีเพียงสองปุ่มเท่านั้น (โจมตีระยะไกล กับโจมตีระยะใกล้) กับอีกหนึ่งปุ่มโจมตีทำลายเกราะ (หรือจะเรียก Parry ก็ได้) เวลาส่วนใหญ่ของผมหมดไปกับการกดปุ่มโจมตีศัตรูเพียงหนึ่งหรือสองปุ่มเท่านั้น คอมโบจะอยู่กับการโจมตีระยะใกล้ แต่สามารถแทรกการโจมตีระยะไกลเข้าไปได้ ก็หวังว่าตัวละครที่มีให้เล่นมากขึ้นตอนเกมออกจะมีการโจมตีหรือท่าต่างๆ ที่หลากหลายกว่านี้
การต่อสู้ในสังเวียนของเกมนี้คล้ายเกมต่อสู้เกมอื่นๆ นั่นคือคุณตายเมื่อพลังชีวิตหมด เกมมีระบบแถบ Power Up ที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อต่อคอมโบได้ แต่สิ่งที่ต่างกันคือแต่ละตัวมีการเพิ่ม Power Up ที่ต่างกัน อย่างเช่น Gamagori จะมีแถบเพิ่มขึ้นมาอีกแถบหนึ่งที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อเรา "ทำร้ายตัวเอง" เนื่องจากตัวละครตัวนี้เป็นพวกมาโซคิสม์ชอบความเจ็บปวด จึงได้รับ Power Up เพิ่มขึ้นเมื่อทำร้ายตัวเองจนเจ็บปวดเพียงพอ สิ่งนี้ทำออกมาในเกมได้ดีมาก ตัวละครนี้จะทำร้ายตัวเองในขณะที่สู้กับคุณอยู่เพื่อเพิ่มแถบ Power Up นั้น และใช้ประโยชน์จาก Power Up ที่ได้รับ ความแตกต่างกันระหว่างตัวละครแบบนี้น่าจะสร้างความหลากหลายได้ดีทีเดียว
ระบบ Power Up ของเกมนี้สัมพันธ์กับระบบ "ท่าไม้ตาย" ตัวละครที่มีแถบ Power Up มากกว่า 50% จะสามารถใช้ท่าไม้ตายได้ ซึ่งเมื่อกดใช้แล้วผู้เล่นแต่ละคนจะต้องมาเล่นเกม "เป่า ยิ้ง ฉุบ" กัน ถ้าชนะ 3 ครั้ง ผู้เล่นคนนั้นจะใช้ท่าไม้ตายได้ ซึ่งท่าไม้ตายทำภาพออกมาได้สุดยอดมาก แต่ระบบ "เป่า ยิ้ง ฉุบ" นี้ก็เข้ามารบกวนการต่อสู้ที่เรียบง่ายและรวดเร็ว สุดท้ายแล้วระบบนี้เข้ามาทำให้สิ่งที่สุดยอดมากอย่างท่าไม้ตายออกมาง่ายเกินไป
โดยรวมแล้ว เราประทับใจกับงานศิลป์ของเกมนี้มาก แต่รู้สึกว่าระบบของเกมเป็นอะไรที่ตื้นเขินแต่สวยงามซึ่งเข้ามารบกวนเกมเพลย์มากเกินไป ก็หวังว่าตัวละครที่หลากหลายจะทำให้เกมมีความสมดุลมากขึ้น
"ภาพลักษณ์น่าตื่นตาแต่มีอะไรให้ทำน้อยเกินไป" นั่นคือสิ่งที่ผมรู้สึกเมื่อได้ลองเล่นเกมครั้งแรกในงาน TGS 2018 ในฐานะแฟนอนิเมะ ผมทึ่งกับคุณภาพการดัดแปลงในครั้งนี้มาก ตัวละครและ Ragalias ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างแม่นยำและดูเจ๋งเหมือนตอนได้ดูอนิเมะครั้งแรก ภาพเวลาโจมตีและใช้สกิลทำได้เหมือนในอนิเมะ ตัวอักษรคันจิและสีสันบาดตาที่เป็นเอกลักษณ์ของอนิเมะทำออกมาได้อย่างไร้ที่ติ ต้องยกความดีให้สตูดิโอ Arc และ Trigger ที่จัดการงานศิลป์ออกมาได้ดีมาก
แต่ความดีความชอบด้านงานศิลป์ก็ไม่สามารถชดเชยให้กับเกมเพลย์ที่ยังด้อยอยู่ได้ ในฐานะเกมต่อสู้จากอนิเมะแล้วนี่เป็นเกมที่เรียบง่ายมาก มีปุ่มโจมตีเพียงสองปุ่มเท่านั้น (โจมตีระยะไกล กับโจมตีระยะใกล้) กับอีกหนึ่งปุ่มโจมตีทำลายเกราะ (หรือจะเรียก Parry ก็ได้) เวลาส่วนใหญ่ของผมหมดไปกับการกดปุ่มโจมตีศัตรูเพียงหนึ่งหรือสองปุ่มเท่านั้น คอมโบจะอยู่กับการโจมตีระยะใกล้ แต่สามารถแทรกการโจมตีระยะไกลเข้าไปได้ ก็หวังว่าตัวละครที่มีให้เล่นมากขึ้นตอนเกมออกจะมีการโจมตีหรือท่าต่างๆ ที่หลากหลายกว่านี้
การต่อสู้ในสังเวียนของเกมนี้คล้ายเกมต่อสู้เกมอื่นๆ นั่นคือคุณตายเมื่อพลังชีวิตหมด เกมมีระบบแถบ Power Up ที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อต่อคอมโบได้ แต่สิ่งที่ต่างกันคือแต่ละตัวมีการเพิ่ม Power Up ที่ต่างกัน อย่างเช่น Gamagori จะมีแถบเพิ่มขึ้นมาอีกแถบหนึ่งที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อเรา "ทำร้ายตัวเอง" เนื่องจากตัวละครตัวนี้เป็นพวกมาโซคิสม์ชอบความเจ็บปวด จึงได้รับ Power Up เพิ่มขึ้นเมื่อทำร้ายตัวเองจนเจ็บปวดเพียงพอ สิ่งนี้ทำออกมาในเกมได้ดีมาก ตัวละครนี้จะทำร้ายตัวเองในขณะที่สู้กับคุณอยู่เพื่อเพิ่มแถบ Power Up นั้น และใช้ประโยชน์จาก Power Up ที่ได้รับ ความแตกต่างกันระหว่างตัวละครแบบนี้น่าจะสร้างความหลากหลายได้ดีทีเดียว
ระบบ Power Up ของเกมนี้สัมพันธ์กับระบบ "ท่าไม้ตาย" ตัวละครที่มีแถบ Power Up มากกว่า 50% จะสามารถใช้ท่าไม้ตายได้ ซึ่งเมื่อกดใช้แล้วผู้เล่นแต่ละคนจะต้องมาเล่นเกม "เป่า ยิ้ง ฉุบ" กัน ถ้าชนะ 3 ครั้ง ผู้เล่นคนนั้นจะใช้ท่าไม้ตายได้ ซึ่งท่าไม้ตายทำภาพออกมาได้สุดยอดมาก แต่ระบบ "เป่า ยิ้ง ฉุบ" นี้ก็เข้ามารบกวนการต่อสู้ที่เรียบง่ายและรวดเร็ว สุดท้ายแล้วระบบนี้เข้ามาทำให้สิ่งที่สุดยอดมากอย่างท่าไม้ตายออกมาง่ายเกินไป
โดยรวมแล้ว เราประทับใจกับงานศิลป์ของเกมนี้มาก แต่รู้สึกว่าระบบของเกมเป็นอะไรที่ตื้นเขินแต่สวยงามซึ่งเข้ามารบกวนเกมเพลย์มากเกินไป ก็หวังว่าตัวละครที่หลากหลายจะทำให้เกมมีความสมดุลมากขึ้น