แนวเกมยิงเชิงกลยุทธ์ (tactical shooter) แบบดั้งเดิม แท้จริงแล้วมันไม่เคยหายไปไหน เกมแนวนี้ยังคงอยู่กับเราตลอดเวลา ทั้ง Insurgency, Zero Hour, GROUND BRANCH, Thunder Tier One และอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึง เพียงแค่ช่วงหลัง ค่ายพัฒนาเกมใหญ่ผละตัวจากการพัฒนาเกมแนวดังกล่าวและลดทอนปัจจัยเชิงกลยุทธ์ในเกมการเล่น
"ความ tactical หายไป เหลือเพียงแค่ shooter และชื่อชั้นของ IP เกมที่เคยยิ่งใหญ่ให้เรารำลึกมิจางหาย"
Ready or Not ก็เป็นหนึ่งในบรรดาเกมข้างต้น เป็นเกมยิงเชิงกลยุทธ์โดยผู้พัฒนา VOID Interactive ที่ไม่ว่าพิจารณาจากมุมใด เราตระหนักโดยทันทีว่าคือ ผู้สืบทอดทางจิตวิญญาณของ SWAT 4 เต็มตัว และขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงทุกประการ VOID Interactive นำทุกองค์ประกอบจาก SWAT 4 มาสานต่อให้กลายเป็นวิดีโอเกมยุคปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ยิ่งสัมผัส ยิ่งดำดิ่งไปกับมัน ด้วยระบบการเล่น บรรยากาศทั้งภาพและเสียง ไม่ต่างอันใดจากสารรักถึงต้นตำรับเกมยิงเชิงกลยุทธ์ที่ได้วางรากฐานให้เกมรุ่นหลัง
เกมให้เราสวมบทบาทเป็นหน่วยต่อต้านอาชญากรรม กระชากผู้เล่นเข้าสู่โลกแห่งอาชญากรรมในประเทศสหรัฐอเมริกา เผชิญหน้าอาชญากรรมทุกรูปแบบ ตั้งแต่การปล้นฆ่า ยาเสพติด การค้ามนุษย์ จนถึงองค์กรอาชญากรรม โลกของอาชญากรรมเต็มไปด้วยความรุนแรงบ้าคลั่งเกินขีดจำกัดเส้นวัดศีลธรรมอันยากจะหยั่งถึง เคล้าคลอบรรยากาศ neon noir อันงดงามแต่แฝงความอันตรายทุกกระเบียดนิ้ว
เตรียมพร้อมรับแรงปะทะ
ระบบการเล่นของเกมเน้นยุทธวิธีการต่อสู้ระยะประชิด (close-quarters combat) การเคลื่อนที่เป็นระบบ, การหาข้อมูลเพื่อเข้าทำ, การปะทะ (ไม่ว่าจับเป็นหรือวิสามัญ) และการเคลียร์ห้อง คือวัฏจักรของเกม ไม่ว่าจะเล่นคนเดียวกับ AI หรือเล่นร่วมกับผู้เล่นอื่นก็ตาม ผู้เล่นที่เคยชินกับยุทธวิธีดังกล่าวคงไม่ต้องปรับตัว แต่หากผู้เล่นที่ไม่เคยลิ้มลองรสชาติของเกมแนวนี้คงต้องปรับตัวในระดับหนึ่ง เพราะหัวใจสำคัญของเกมไม่ใช่แค่การเข่นฆ่าแล้วก็จบ แต่เป็นความรวดเร็วและเด็ดขาด ทุกย่างก้าวคือความเป็นความตาย กระสุนนัดเดียวปลิดชีพคุณได้ ความเลินเล่อ, ความผิดพลาด หรือความไม่พร้อม เพียงครั้งเดียว จุดจบคือหายนะทั้งสิ้น
ในการเล่นคนเดียว เกมมาพร้อมกับ AI ร่วมทีม ให้ผู้เล่นสั่งการ ซึ่ง AI แบ่งเป็นสองทีมคือ ทีมแดงและทีมฟ้า เราสามารถสั่งการแยกทีมได้ หรือสั่งทั้งสองทีมพร้อมได้ เราในฐานะกัปตัน ต้องตัดสินใจให้ถ้วนถี่ ตั้งแต่การเลือกอุปกรณ์ให้กับลูกทีม คุณต้องคิดล่วงหน้าว่าต้องการให้แนวทางการเข้าทำของทีมคุณเป็นแบบใด จนถึงช่วงปฏิบัติภารกิจในการออกคำสั่งของคุณ ทุกสิ่งที่กล่าวมาคือความอยู่รอดของลูกทีมและหนทางสู่ความสำเร็จของภารกิจ หรือถ้าหากเล่นร่วมกับผู้เล่นคนอื่น ขอให้ตกลงและวางแผนร่วมกันโดยละเอียดถึงแนวทางการเล่น เพราะการเล่นกับผู้อื่นจะไม่มี AI ร่วมทีม การสื่อสารจึงเป็นหัวใจสำคัญ ตั้งแต่ก่อนปฏิบัติภารกิจจนถึงช่วงปฏิบัติภารกิจ
โดยอุปกรณ์ที่เกมให้ผู้เล่นเลือกใช้ ล้วนเป็นอุปกรณ์ที่ส่งผลต่อแนวทางการปฏิบัติภารกิจอย่างยิ่งยวด ปืนส่องใต้ประตู, ลูกซองทำลายประตู, โล่กันกระสุน, ท่อนเหล็กทำลายประตู, ระเบิด C2 ทำลายประตู, เครื่องขวางประตู, เครื่องฉีดละอองพริกไทย, ระเบิดแสง, ระเบิดแก๊สน้ำตา และระเบิดลูกปรายยาง ไม่มีสิ่งใดไร้ประโยชน์ หากคุณเลือกใช้งานตรงตามสถานการณ์
ยกตัวอย่างเช่น คุณไม่เอากล้องส่องประตูมา ได้ แต่ต้องรับความเสี่ยงเพราะไม่มีข้อมูลของห้องถัดไป คุณจะเล่นแบบมุทะลุ ถีบประตูแล้วฝ่าเข้าห้อง ได้เหมือนกัน แต่ก็รับความเสี่ยงหากคุณไม่เด็ดขาดพอ แล้วโดนศัตรูเด็ดหัวลูกทีมคุณเสียฉิบ
ส่วนอาวุธและการแต่งกายมีผลต่อการเล่นเช่นกัน ปืนไรเฟิลจู่โจมมีความรุนแรงในการยิงสำหรับปะทะกับศัตรูติดเกราะหนักอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับปืนกลเบา แต่ขาดความคล่องตัวมือต้องปะทะในพื้นที่แคบหรือการโน้มตัวโฉบยิงข้างประตู เพราะความยาวของปืนส่งผลต่อการประทับปืนในระยะใกล้สิ่งกีดขวาง หรือชุดเกราะหนักสามารถกันกระสุนได้ดี แต่ขาดความคล่องตัวในการเคลื่อนที่
นำระเบียบคืนสู่ปวงชน
เมื่อเกมใช้รูปแบบดั้งเดิมของยิงเชิงกลยุทธ์ จึงหลีกเลี่ยงสามองค์ประกอบต่อไปนี้มิได้ คือ นาทีสังหารอันรวดเร็ว (time-to-kill), ความเปิดกว้างในการเข้าทำ และการเล่นเป็นทีม ทั้งสามองค์ประกอบบีบให้คุณต้องรวดเร็วและเด็ดขาดในทุกการกระทำของคุณ คุณจะได้พบจังหวะความเป็นความตายและพลาดพลั้งจนชินชา กลับกัน มันเป็นบทเรียนชั้นดี สอนสั่งให้คุณจงรวดเร็วและเด็ดขาดกว่าที่เคย
ประกอบกับเกมใช้ระบบสุ่ม (procedure generator) ในการสุ่มวางตำแหน่งศัตรู, กับดัก และวัตถุเป้าหมายในภารกิจ ฉะนั้น หากคุณเล่นด่านเดิมซ้ำๆ คุณอาจจำรายละเอียดของตึก, บ้าน, อาคารและลานนอกอาคารได้อย่างดี แต่ไม่ใช่ว่าทำให้คุณเล่นสะดวกกว่าเดิม เพราะไม่สามารถคาดเดาการสุ่มได้แม้แต่น้อย คุณอาจได้เห็นสิ่งที่ทำให้คุณเผลออุทานกับการสุ่มของเกม อย่างเช่น การสุ่มวางศัตรูในจุดเริ่มภารกิจและโดนยิงล้างบางเสียยกหน่วย เพียงไม่กี่วินาทีนับตั้งแต่ย่ำเท้าเข้าสู่พื้นที่ปฏิบัติการ เหตุไม่ทันตั้งตัวและคิดไปเองว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัย มันคือคำเตือนว่า ในเกมนี้
“ไม่มีที่ใดปลอดภัย”
โดยเกมมาพร้อมภารกิจให้เลือกเล่นจำนวน 8 ภารกิจ ประกอบด้วย 6 ภารกิจที่พัฒนาเสร็จสมบูรณ์ กับ 2 ภารกิจเป็นภารกิจทดสอบการออกแบบด่าน แต่ละภารกิจมีสถานการณ์ให้เล่นแตกต่างกันไป โดยมีอยู่ 5 สถานการณ์คือ
การกลับมาของยุคแห่ง tactical shooter
“การกลับมาของยุคแห่ง tactical shooter”
จึงหมายถึง การรื้อฟื้นทั้งกระแสและแนวทางดั้งเดิมของเกมแนวนี้ในอดีตกาล ตอกย้ำด้วยกระแสตอบรับอย่างท่วมท้นของเกม Ready or Not ถึงแม้ว่าเกมยังอยู่ในช่วงพัฒนาก็ตาม แต่ด้วยคุณภาพข้นคลักของเกม ทั้งด้านเกมการเล่น ประสิทธิภาพในการเล่น รวมไปถึงด้านงานสร้างทุกองคาพยพ Ready or Not จึงพร้อมเป็นหนึ่งในหัวเรือหลักของบรรดาเกมยิงเชิงกลยุทธ์แบบดั้งเดิมที่ยกขบวนกลับมาทวงคืนพื้นที่ของเกมแนวดังกล่าวได้อย่างเต็มตัว
ต่อจากนี้ ขึ้นอยู่กับผู้พัฒนา VOID Interactive ว่าการอัปเดตตัวเกมจักรักษาอัตลักษณ์, เอกลักษณ์ และคุณภาพของเกมได้จวบจนวันที่พัฒนาเสร็จสมบูรณ์หรือไม่ ทางผู้พัฒนาแถลงว่าจะมีการปรับปรุงตัวเกม ทั้งเรื่อง AI ลูกทีมและศัตรู เพิ่มพื้นที่ภารกิจใหม่ๆ พร้อมกับปรับปรุงพื้นที่ภารกิจปัจจุบัน ส่วนเรื่องโหมด PvP ยังคงไม่ถูกกล่าวถึง
VOID Interactive ต้องแบกรับความคาดหวังจากผู้เล่นอันมหาศาล และความหวั่นใจจากผู้เล่นต่อผู้พัฒนา เกี่ยวกับตัวเกมโหมด PvP ในอดีตที่หลุดจากความเป็นเกมยิงเชิงกลยุทธ์ไปมากโข รวมถึงขาดการสื่อสารกับสังคมผู้เล่นเกม และการแยกตัวจากผู้จัดจำหน่าย Team17 เป็นเรื่องที่มิอาจมองข้ามได้ เพราะการซื้อเกม early access ถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงพอตัว กลับกัน ทุนพัฒนาเกม Ready or Not มาจากการขายเกมตัว early access แค่ทางเดียว เพราะพวกเขากลายเป็นผู้จัดจำหน่ายเอง ไม่ได้รับทุนจาก Team17 อีกต่อไป เป็นสิ่งที่ผู้สนใจเกมนี้ต้องชั่งน้ำหนักเองว่าหากสนับสนุนผู้พัฒนา คงต้องรับความเสี่ยงเกี่ยวกับตัวเกมในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
Ready or Not จำหน่ายใน Steam ราคา 469 บาท สามารถอัปเกรดเป็น Supporter Edition ในราคา 938 บาท ระยะเวลา early access ประมาณ 12 เดือน และจะมีการเพิ่มราคาต้นหลังจากอัปเดทใหญ่ครั้งแรกที่จะมาภายหลังออกจากช่วง early access ตามที่แจ้งในรายละเอียดหน้าร้าน
แนวเกมยิงเชิงกลยุทธ์ (tactical shooter) แบบดั้งเดิม แท้จริงแล้วมันไม่เคยหายไปไหน เกมแนวนี้ยังคงอยู่กับเราตลอดเวลา ทั้ง Insurgency, Zero Hour, GROUND BRANCH, Thunder Tier One และอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึง เพียงแค่ช่วงหลัง ค่ายพัฒนาเกมใหญ่ผละตัวจากการพัฒนาเกมแนวดังกล่าวและลดทอนปัจจัยเชิงกลยุทธ์ในเกมการเล่น
"ความ tactical หายไป เหลือเพียงแค่ shooter และชื่อชั้นของ IP เกมที่เคยยิ่งใหญ่ให้เรารำลึกมิจางหาย"
Ready or Not ก็เป็นหนึ่งในบรรดาเกมข้างต้น เป็นเกมยิงเชิงกลยุทธ์โดยผู้พัฒนา VOID Interactive ที่ไม่ว่าพิจารณาจากมุมใด เราตระหนักโดยทันทีว่าคือ ผู้สืบทอดทางจิตวิญญาณของ SWAT 4 เต็มตัว และขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงทุกประการ VOID Interactive นำทุกองค์ประกอบจาก SWAT 4 มาสานต่อให้กลายเป็นวิดีโอเกมยุคปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ยิ่งสัมผัส ยิ่งดำดิ่งไปกับมัน ด้วยระบบการเล่น บรรยากาศทั้งภาพและเสียง ไม่ต่างอันใดจากสารรักถึงต้นตำรับเกมยิงเชิงกลยุทธ์ที่ได้วางรากฐานให้เกมรุ่นหลัง
เกมให้เราสวมบทบาทเป็นหน่วยต่อต้านอาชญากรรม กระชากผู้เล่นเข้าสู่โลกแห่งอาชญากรรมในประเทศสหรัฐอเมริกา เผชิญหน้าอาชญากรรมทุกรูปแบบ ตั้งแต่การปล้นฆ่า ยาเสพติด การค้ามนุษย์ จนถึงองค์กรอาชญากรรม โลกของอาชญากรรมเต็มไปด้วยความรุนแรงบ้าคลั่งเกินขีดจำกัดเส้นวัดศีลธรรมอันยากจะหยั่งถึง เคล้าคลอบรรยากาศ neon noir อันงดงามแต่แฝงความอันตรายทุกกระเบียดนิ้ว
เตรียมพร้อมรับแรงปะทะ
ระบบการเล่นของเกมเน้นยุทธวิธีการต่อสู้ระยะประชิด (close-quarters combat) การเคลื่อนที่เป็นระบบ, การหาข้อมูลเพื่อเข้าทำ, การปะทะ (ไม่ว่าจับเป็นหรือวิสามัญ) และการเคลียร์ห้อง คือวัฏจักรของเกม ไม่ว่าจะเล่นคนเดียวกับ AI หรือเล่นร่วมกับผู้เล่นอื่นก็ตาม ผู้เล่นที่เคยชินกับยุทธวิธีดังกล่าวคงไม่ต้องปรับตัว แต่หากผู้เล่นที่ไม่เคยลิ้มลองรสชาติของเกมแนวนี้คงต้องปรับตัวในระดับหนึ่ง เพราะหัวใจสำคัญของเกมไม่ใช่แค่การเข่นฆ่าแล้วก็จบ แต่เป็นความรวดเร็วและเด็ดขาด ทุกย่างก้าวคือความเป็นความตาย กระสุนนัดเดียวปลิดชีพคุณได้ ความเลินเล่อ, ความผิดพลาด หรือความไม่พร้อม เพียงครั้งเดียว จุดจบคือหายนะทั้งสิ้น
ในการเล่นคนเดียว เกมมาพร้อมกับ AI ร่วมทีม ให้ผู้เล่นสั่งการ ซึ่ง AI แบ่งเป็นสองทีมคือ ทีมแดงและทีมฟ้า เราสามารถสั่งการแยกทีมได้ หรือสั่งทั้งสองทีมพร้อมได้ เราในฐานะกัปตัน ต้องตัดสินใจให้ถ้วนถี่ ตั้งแต่การเลือกอุปกรณ์ให้กับลูกทีม คุณต้องคิดล่วงหน้าว่าต้องการให้แนวทางการเข้าทำของทีมคุณเป็นแบบใด จนถึงช่วงปฏิบัติภารกิจในการออกคำสั่งของคุณ ทุกสิ่งที่กล่าวมาคือความอยู่รอดของลูกทีมและหนทางสู่ความสำเร็จของภารกิจ หรือถ้าหากเล่นร่วมกับผู้เล่นคนอื่น ขอให้ตกลงและวางแผนร่วมกันโดยละเอียดถึงแนวทางการเล่น เพราะการเล่นกับผู้อื่นจะไม่มี AI ร่วมทีม การสื่อสารจึงเป็นหัวใจสำคัญ ตั้งแต่ก่อนปฏิบัติภารกิจจนถึงช่วงปฏิบัติภารกิจ
โดยอุปกรณ์ที่เกมให้ผู้เล่นเลือกใช้ ล้วนเป็นอุปกรณ์ที่ส่งผลต่อแนวทางการปฏิบัติภารกิจอย่างยิ่งยวด ปืนส่องใต้ประตู, ลูกซองทำลายประตู, โล่กันกระสุน, ท่อนเหล็กทำลายประตู, ระเบิด C2 ทำลายประตู, เครื่องขวางประตู, เครื่องฉีดละอองพริกไทย, ระเบิดแสง, ระเบิดแก๊สน้ำตา และระเบิดลูกปรายยาง ไม่มีสิ่งใดไร้ประโยชน์ หากคุณเลือกใช้งานตรงตามสถานการณ์
ยกตัวอย่างเช่น คุณไม่เอากล้องส่องประตูมา ได้ แต่ต้องรับความเสี่ยงเพราะไม่มีข้อมูลของห้องถัดไป คุณจะเล่นแบบมุทะลุ ถีบประตูแล้วฝ่าเข้าห้อง ได้เหมือนกัน แต่ก็รับความเสี่ยงหากคุณไม่เด็ดขาดพอ แล้วโดนศัตรูเด็ดหัวลูกทีมคุณเสียฉิบ
ส่วนอาวุธและการแต่งกายมีผลต่อการเล่นเช่นกัน ปืนไรเฟิลจู่โจมมีความรุนแรงในการยิงสำหรับปะทะกับศัตรูติดเกราะหนักอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับปืนกลเบา แต่ขาดความคล่องตัวมือต้องปะทะในพื้นที่แคบหรือการโน้มตัวโฉบยิงข้างประตู เพราะความยาวของปืนส่งผลต่อการประทับปืนในระยะใกล้สิ่งกีดขวาง หรือชุดเกราะหนักสามารถกันกระสุนได้ดี แต่ขาดความคล่องตัวในการเคลื่อนที่
นำระเบียบคืนสู่ปวงชน
เมื่อเกมใช้รูปแบบดั้งเดิมของยิงเชิงกลยุทธ์ จึงหลีกเลี่ยงสามองค์ประกอบต่อไปนี้มิได้ คือ นาทีสังหารอันรวดเร็ว (time-to-kill), ความเปิดกว้างในการเข้าทำ และการเล่นเป็นทีม ทั้งสามองค์ประกอบบีบให้คุณต้องรวดเร็วและเด็ดขาดในทุกการกระทำของคุณ คุณจะได้พบจังหวะความเป็นความตายและพลาดพลั้งจนชินชา กลับกัน มันเป็นบทเรียนชั้นดี สอนสั่งให้คุณจงรวดเร็วและเด็ดขาดกว่าที่เคย
ประกอบกับเกมใช้ระบบสุ่ม (procedure generator) ในการสุ่มวางตำแหน่งศัตรู, กับดัก และวัตถุเป้าหมายในภารกิจ ฉะนั้น หากคุณเล่นด่านเดิมซ้ำๆ คุณอาจจำรายละเอียดของตึก, บ้าน, อาคารและลานนอกอาคารได้อย่างดี แต่ไม่ใช่ว่าทำให้คุณเล่นสะดวกกว่าเดิม เพราะไม่สามารถคาดเดาการสุ่มได้แม้แต่น้อย คุณอาจได้เห็นสิ่งที่ทำให้คุณเผลออุทานกับการสุ่มของเกม อย่างเช่น การสุ่มวางศัตรูในจุดเริ่มภารกิจและโดนยิงล้างบางเสียยกหน่วย เพียงไม่กี่วินาทีนับตั้งแต่ย่ำเท้าเข้าสู่พื้นที่ปฏิบัติการ เหตุไม่ทันตั้งตัวและคิดไปเองว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัย มันคือคำเตือนว่า ในเกมนี้
“ไม่มีที่ใดปลอดภัย”
โดยเกมมาพร้อมภารกิจให้เลือกเล่นจำนวน 8 ภารกิจ ประกอบด้วย 6 ภารกิจที่พัฒนาเสร็จสมบูรณ์ กับ 2 ภารกิจเป็นภารกิจทดสอบการออกแบบด่าน แต่ละภารกิจมีสถานการณ์ให้เล่นแตกต่างกันไป โดยมีอยู่ 5 สถานการณ์คือ
การกลับมาของยุคแห่ง tactical shooter
“การกลับมาของยุคแห่ง tactical shooter”
จึงหมายถึง การรื้อฟื้นทั้งกระแสและแนวทางดั้งเดิมของเกมแนวนี้ในอดีตกาล ตอกย้ำด้วยกระแสตอบรับอย่างท่วมท้นของเกม Ready or Not ถึงแม้ว่าเกมยังอยู่ในช่วงพัฒนาก็ตาม แต่ด้วยคุณภาพข้นคลักของเกม ทั้งด้านเกมการเล่น ประสิทธิภาพในการเล่น รวมไปถึงด้านงานสร้างทุกองคาพยพ Ready or Not จึงพร้อมเป็นหนึ่งในหัวเรือหลักของบรรดาเกมยิงเชิงกลยุทธ์แบบดั้งเดิมที่ยกขบวนกลับมาทวงคืนพื้นที่ของเกมแนวดังกล่าวได้อย่างเต็มตัว
ต่อจากนี้ ขึ้นอยู่กับผู้พัฒนา VOID Interactive ว่าการอัปเดตตัวเกมจักรักษาอัตลักษณ์, เอกลักษณ์ และคุณภาพของเกมได้จวบจนวันที่พัฒนาเสร็จสมบูรณ์หรือไม่ ทางผู้พัฒนาแถลงว่าจะมีการปรับปรุงตัวเกม ทั้งเรื่อง AI ลูกทีมและศัตรู เพิ่มพื้นที่ภารกิจใหม่ๆ พร้อมกับปรับปรุงพื้นที่ภารกิจปัจจุบัน ส่วนเรื่องโหมด PvP ยังคงไม่ถูกกล่าวถึง
VOID Interactive ต้องแบกรับความคาดหวังจากผู้เล่นอันมหาศาล และความหวั่นใจจากผู้เล่นต่อผู้พัฒนา เกี่ยวกับตัวเกมโหมด PvP ในอดีตที่หลุดจากความเป็นเกมยิงเชิงกลยุทธ์ไปมากโข รวมถึงขาดการสื่อสารกับสังคมผู้เล่นเกม และการแยกตัวจากผู้จัดจำหน่าย Team17 เป็นเรื่องที่มิอาจมองข้ามได้ เพราะการซื้อเกม early access ถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงพอตัว กลับกัน ทุนพัฒนาเกม Ready or Not มาจากการขายเกมตัว early access แค่ทางเดียว เพราะพวกเขากลายเป็นผู้จัดจำหน่ายเอง ไม่ได้รับทุนจาก Team17 อีกต่อไป เป็นสิ่งที่ผู้สนใจเกมนี้ต้องชั่งน้ำหนักเองว่าหากสนับสนุนผู้พัฒนา คงต้องรับความเสี่ยงเกี่ยวกับตัวเกมในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
Ready or Not จำหน่ายใน Steam ราคา 469 บาท สามารถอัปเกรดเป็น Supporter Edition ในราคา 938 บาท ระยะเวลา early access ประมาณ 12 เดือน และจะมีการเพิ่มราคาต้นหลังจากอัปเดทใหญ่ครั้งแรกที่จะมาภายหลังออกจากช่วง early access ตามที่แจ้งในรายละเอียดหน้าร้าน