RO Online หรือ Ragnarok Online เป็นเกมออนไลน์ MMORPG สัญชาติเกาหลีในตำนาน ที่ใครหลายๆ คนรู้จัก และเคยผ่านประสบการณ์การเล่นกันมาอย่างโชกโชน ซึ่งตัวเกมเองก็ยังมีการพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง 

ผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะมุ่งความสนใจไปที่การรวมกลุ่มกับเพื่อน การฟาร์มวัตถุดิบมาใช้ในการอัปเกรดตัวละคร การตีบอส หรือกิลวอร์ และไม่ได้ให้ความสนใจกับเนื้อเรื่องของเกมมากมายนัก ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วเนื้อเรื่องของ Ragnarok นั้นได้ถูกนำเสนอออกมาในหลายรูปแบบมาก ไม่ว่าจะเป็นมังฮวา อนิเมะหรือกระทั่งการ์ตูนรายสัปดาห์ใน Webtoon

ดังนั้นวันนี้เราจะขอเชิญทุกท่านมาร่วมย้อนวันวานไปด้วยกัน กับเรื่องราวของ Ragnarok ในแต่ละเวอร์ชันค่ะ

เนื้อเรื่องเวอร์ชันมังฮวา

แน่นอนว่าเวอร์ชันแรกที่เราจะแนะนำกันนั้น ก็จะเป็นการพาทุกท่านย้อนกลับไปยังต้นกำเนิดของ Ragnarok เสียก่อน ซึ่งก็คือ Ragnarok เวอร์ชันมังฮวา ที่ถูกวาดโดยอาจารย์ Lee Myung-jin นั่นเองค่ะ

เริ่มแรกสุด Ragnarok หรือในชื่อไทยว่า ภูตเทพวิบัติ เป็นมังฮวาแนวแฟนตาซีที่ได้รับแรงบันดาลใจหลายอย่างจากตำนานของชาวไวกิ้ง หรือตำนานนอร์สเป็นหลัก และมีการหยิบจับเอาวัฒนธรรมจากชาติอื่นๆ เข้ามาผสมรวมเข้าด้วยกัน ทำให้เราจะได้เห็นทั้งเทพสตรีนักรบ Valkyrie และดาบ Excalibur รวมอยู่ในเรื่องเดียวกัน

ในช่วงเวลาที่มังฮวาเรื่องนี้ตีพิมพ์ออกมาเป็นครั้งแรก ในช่วงประมาณปี 1995 และตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษในทวีปอเมริกาเหนือโดย Tokyopop ในช่วง 21 พฤษภาคม 2002 ถึงช่วง 6 เมษายน 2004 ความนิยมของมันก็พุ่งสูงมากและกระแสตอบรับก็ท่วมท้นเข้ามาอย่างไม่หวาดไม่ไหว จนทำให้บริษัท GRAVITY เล็งเห็นช่องทางทำเงินที่ดี และตัดสินใจที่จะหยิบเอาโลกของ Ragnarok มาสร้างเป็นจักรวาลเกม โดยเชิญอาจารย์ Lee Myung-jin มาเป็นนักวาดหลักของเกมด้วย

โดยเนื้อเรื่องของทางฝั่งมังฮวานั้น จะถูกนำเสนอผ่านการผจญภัยของ Chaos นักรบหนุ่มผมแดงความจำเสื่อมผู้หลงลืมอดีตในช่วงสองปีก่อนของตัวเองไปจนหมดสิ้น เขาอาศัยอยู่ใน Payon เมืองของเหล่าผู้สืบเชื้อสายแห่งนักรบ ร่วมกับ Iris Irine เพื่อนสนิทสาวว่าที่ผู้นำเมืองคนถัดไป

พวกเขาใช้ชีวิตอย่างปกติสุข จนกระทั่งวันที่สายลมแห่งโชคชะตา โบกพัดเหนือน่านฟ้าแห่ง Midgard เป็นสัญญาณตามคำทำนายโบราณ ถึงการเริ่มต้นการล่มสลายแห่งเหล่าทวยเทพ และการเริ่มต้นยุคสมัยของมวลมนุษยชาติ 

เหล่าเทพโบราณที่ไม่จะไม่ยอมจำนนต่อคำทำนายเก่าแก่นั้น จึงทำการส่งเหล่า Valkyrie ออกเสาะหาดินแดน เพื่อหยุดยั้ง Ragnarok และดำรงยุคสมัยของทวยเทพต่อไป ในขณะที่ Fenris Fenrir หญิงสาวผู้รู้ดีว่าอย่างไรเสียสงครามนั้นก็จะต้องมาถึง ก็ออกตามหาเทพตกสวรรค์ Baldr โดยมีเป้าหมายเป็นการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้

ระหว่างการเดินทางได้เกิดเหตุการณ์ขึ้นมากมาย ทั้งการกลับมาแก้แค้นของลูกสาวคนโตของราชาแห่ง Payon, การกวาดล้างกิลของนักฆ่า หนึ่งในกลุ่มพันธมิตรอันทรงพลังของฝ่ายมนุษย์, การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรของ Loki ผู้เป็น Assassin ที่แข็งแกร่งที่สุดกับฝ่ายของ Chaos

ซึ่งในจังหวะที่ความขัดแย้งและการต่อสู้ระหว่างฝ่าย Chaos กับฝ่ายเทพเจ้า เกิดปะทุขึ้นเรื่อยๆ แต่ในขณะที่เรื่องราวกำลังดำเนินไปอย่างแข็งข้นนั้นเอง อาจารย์ก็ตัดสินใจที่จะตัดจบเรื่องราวในเวอร์ชันมังฮวาทิ้งเอาไว้แต่เพียงเท่านี้…

ด้วยเดิมทีที่อาจารย์ Lee Myung-jin วางแผนและตั้งใจจะวาดมังฮวาเรื่องนี้ออกมาที่ความยาว 40 เล่ม แต่เพราะตัวเกมนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเกินกว่าที่คาดเอาไว้ ทำให้อาจารย์ที่ถูกดึงไปเป็นนักวาดหลักตัดสินใจ ปล่อยให้การเดินทางของ Chaos และผองเพื่อนค้างคาอยู่ที่ 10 เล่มเพียงเท่านั้นนั่นเอง

แม้ว่าเรื่องราวของพระเอกผมแดงของเขาจะไม่ได้รับการสานต่อจนถึงฉากสุดท้าย โลกของ Ragnarok เองก็ยังไม่จบสิ้นลง และการผจญภัยครั้งใหม่ที่เราจะนำพาทุกคนมารู้จักก็คือ การผจญภัยในโลกของเกม Ragnarok Online นั่นเอง

เนื้อเรื่องเวอร์ชันเกม

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า Ragnarok เป็นเรื่องที่ถูกวาดขึ้นมา โดยมีภาพของตำนานนอร์สเป็นเหมือนแกนหลัก และแม้ว่าในมังฮวากับเกมจะมีการเล่าถึงเรื่องราวที่แตกต่างกัน แต่ภายใน Ragnarok Online นั้นก็ยังมีพื้นฐานที่เริ่มต้นขึ้นจากตำนานนอร์ส เป็นจุดร่วมที่เหมือนกันอยู่

โดยเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในโลกของ Ragnarok Online จะเป็นเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับสิ่งที่สามารถมอบพลังอันไม่สิ้นสุดให้กับผู้ที่ครอบครองมันได้ และสิ่งๆ นั้นก็คือ เศษหัวใจของ Ymir

หากอ้างอิงจากตำนานนอร์สขนานแท้ Ymir จะเรียกได้ว่า เป็นยักษ์นำ้แข็งตนแรกและเป็นต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิต สัตว์ประหลาด รวมถึงวงศาคณาเทพของตำนานนอร์ส โดยหากเทียบแล้วเขาก็เรียกได้ว่ามีศักดิ์เป็นลุงของ Odin เทพสูงสุดหรือ All Father ของเทพฝ่าย Aesir นั่นเอง

ตามตำนานเล่าถึงสงครามที่เกิดขึ้นระหว่างยักษากับเหล่าทวยเทพ เหตุเพราะความหวาดกลัวในพลังอันมากมายมหาศาล และร่างกายที่ราวกับจะเป็นอมตะของเทพเจ้า การต่อสู้กินเวลายาวนานและรั้งแต่จะสร้างความเสียหาย เพื่อยุติซึ่งศึกสงคราม Odin จึงตัดสินใจที่จะสังหาร Ymir ลงเสีย เพื่อไม่ให้ยักษ์ตนนี้สามารถให้กำเนิดสิ่งใดขึ้นมาได้อีก ก่อนจะใช้ร่างกายของเขาในการสร้างจักรวาลใหม่ขึ้นมา 

โดยใช้เลือดต่างมหาสมุทร หว่านกระดูกให้กลายเป็นภูผา ปลูกเส้นผมเป็นต้นไม้ใบหญ้า ปล่อยสมองล่องลอยกลายเป็นปุยเมฆ และส่วนที่สำคัญที่สุด คือ เนื้อที่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นแผ่นดินใจกลางสมุทร พร้อมนามที่ถูกเรียกขานว่า Midgard แผ่นดินกึ่งกลางที่เหล่ามนุษย์อาศัยอยู่นั่นเอง

ในขณะที่เกม RO Online จะเล่าว่า ในกาลก่อนนั้นบนโลกมีเพียง Ymir และความว่างเปล่าเท่านั้นที่โอบกอดสรรพสิ่งเอาไว้ กระทั่ง Ymir ได้สร้างบุตรขึ้นมา ได้แก่ Odin, Vili และ Ve หากแต่เมื่อ 100 ปีก่อนนั้นเอง Odin ก็สังหาร Ymir และใช้หัวใจของยักษ์นำ้แข็งตนนี้ในการสร้าง Midgard ขึ้นมา โดยหัวใจเหล่านั้นได้แตกเป็นเศษชิ้นส่วนเล็กๆ และกระจัดกระจายไปทั่ว Midgard 

ตามตำนานกล่าวว่าผู้ใดที่ได้ครอบครองเศษหัวใจของ Ymir ก็จะได้รับพลังอันมหาศาลอย่างที่มนุษย์ไม่อาจจินตนาการถึงมาไว้กับตัว นอกจากนั้นว่ากันว่าในหนึ่งปีจะมีวันหนึ่งที่เศษหัวใจเหล่านั้นเปล่งแสง เรียกหาเศษหัวใจชิ้นอื่นๆ ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก 

ทำให้มนุษย์บางกลุ่มที่ถูกเติมเต็มด้วยความต้องการอันไม่สิ้นสุด ได้จัดตั้งองค์กร Heart Hunter ซึ่งเปรียบเสมือนตัวร้ายหลักของเกมขึ้นมา เพื่อออกตามหา และหมายหมาดที่จะครอบครองพลังเหล่านั้นเอาไว้กับตัว ซึ่งเป็นแนวคิดที่ขัดแย้งกับเหล่า Valkyrie ที่มองว่ามนุษย์ไม่สมควรมีพลังของเทพเอาไว้ในครอบครอง จึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อรวบรวมเศษหัวใจของ Ymir กลับคืนสู่เทพ โดยไม่สนใจว่าจะต้องใช้วิธีการใดก็ตาม นั่นจึงส่งผลให้เกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างมนุษย์กับเทพอยู่เรื่อยมา

ซึ่งหนึ่งในเหตุการสำคัญ ก็คือการล่มสลายของ Glast Heim 

อดีตเมืองหลวงในโลกของ RO Online โดยที่เรื่องราวทั้งหมดนั้นมันเกิดขึ้นมาจาก Valkyrie ตนหนึ่งนามว่า Himelmez ที่ต้องการเศษหัวใจของ Ymir ใน Glast Heim โดยที่เธอนั้นได้เปลี่ยนให้ทหารทั้งหมดของ Glast Heim ให้กลายเป็นปีศาจที่ต้องถูกกำจัด กระทั่งเธอได้เศษหัวใจของ Ymir มา และจากไปโดยปล่อยให้เมืองหลวงแห่งนี้ล่มสลายลง

ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ก็เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวในกาลก่อนของเกม Ragnarok โดยเนื้อเรื่องจริงๆ ของเกมจะกล่าวถึงการออกเดินทางของนักผจญภัยคนหนึ่ง หรือก็คือตัวของผู้เล่นเอง ที่จะออกเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ทำเควสและได้พบกับเหตุการณ์มากมาย ไปจนถึงโศกนาฏกรรมที่เติมเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ซึ่งเกี่ยวพันไปถึงเศษหัวใจของ Ymir รวมไปจนถึงการปะทะกับกลุ่ม Heart Hunter ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ

แต่แม้ว่าเรื่องราวที่เล่าผ่านเควสส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับเศษหัวใจของ Ymir ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งก็ตาม มันก็ยังมีเนื้อเรื่องส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่ง ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตามหาเศษหัวใจนี้เลย แต่มีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในยักษ์ซึ่งมีบทบาทสำคัญในตำนานนอร์สตนหนึ่ง คือ ยักษ์ Surt ผู้ถือกำเนิดขึ้นมาก่อนเหล่าทวยเทพทั้งมวลบนมัสเปลไฮม์ และตามตำนานนั้นได้กล่าวไว้ว่าในวันที่อนาคตกำหนดให้เป็นวันสิ้นโลกมาถึง และสงคราม Ragnarok ได้เริ่มต้นขึ้น Surt จะเดินออกจากมัสเปลไฮม์ พร้อมดาบแห่งไฟที่พร้อมจะกวัดแกว่งเพื่อเผาพลาญทุกสรรพสิ่งที่ขวางหน้า และในเวลานั้นเองเหล่าทวยเทพจะล้มลงสิ้นชีพแทบเท้าเขา ทีละองค์ๆ 

ซึ่งในโลกของ RO Online นั้น เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ Surt ก็คือ เหตุการณ์การล่มสลายของเมือง Morroc นั่นเอง

โดยเรื่องราวนั้นก็ได้เริ่มต้นขึ้นที่ Morroc มหานครกลางทะเลทรายที่มีปราสาทขนาดใหญ่อันสวยงาม ห้อมล้อมด้วยคูน้ำใสสะอาด ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง มันเคยเป็นเมืองที่สงบสุขและมีชาวเมืองอาศัยอยู่มากมาย ก่อนที่มันจะถูกแทนที่ด้วยหลุมขนาดใหญ่ และแปรเปลี่ยนไปเป็นมหานครที่ล่มสลาย 

ซึ่งสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมดนั้น ก็จะต้องเท้าความไปถึงเหตุการณ์เมื่อพันปีก่อน ที่อัศวิน Thanatos ได้ต่อสู้และทำการผนึกจอมปีศาจ Satan Morroc หรือ Surt เอาไว้

ด้วยการต่อสู้อันรุนแรงที่กินระยะเวลากว่า 10 วัน 10 คืน ของทั้งสองฝ่าย ทำให้ภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของอาณาจักร Rune-Midgard ถูกทำลายจนพังพินาศกลายเป็นทะเลทราย Sograt 

Thanatos ก็เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ ก่อนทำการผนึก Satan Morroc ลง และเพื่อปกป้องผนึกของจอมปีศาจไม่ให้ถูกทำลาย ชาว Rune-Midgard จึงสร้างปราสาททับมันเอาไว้ จากนั้นผู้คนก็เริ่มสร้างสิ่งปลูกสร้างขนาบรอบปราสาทขึ้นมามากมาย ทำให้สถานที่แห่งนี้ค่อยๆ กลายเป็นเมืองขึ้นมา และถูกขนานนามว่า Morroc ตามชื่อจอมปีศาจในที่สุด

กระทั่งระยะเวลาล่วงผ่านมาถึง 1,000 ปี ในศักราช A.W. ที่ 997 หลังจากการหลับใหลอยู่ภายใต้ผนึกที่จองจำมาอย่างยาวนาน ในที่สุดจอมปีศาจก็ได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยฝีมือขององค์กร Dandelion กับ Rayan Mooce ที่ได้ทำการจับเหล่าเด็กกำพร้าจำนวนมาก มาเป็นเครื่องเซ่นสังเวยในพิธีคลายผนึกทุกคืนจันทร์เต็มดวง ทำให้ Satan Morroc สามารถทำลายและฝ่ามิติกลับมายัง Midgard ได้อีกครั้ง และนั่นก็นำมาซึ่งการล่มสลายของมหานคร Morroc 

ผืนทะเลทรายโดยรอบของเมืองถูกเปลี่ยนให้กลายไปเป็นโลกในอีกมิติหนึ่ง และห้อมล้อมไปด้วยเหล่าปีศาจในนาม Incarnation of Morroc ที่หลุดออกจากผนึกมาพร้อมกับผู้เป็นนายของมัน ที่จะคอยกันไม่ให้มีมนุษย์หน้าไหน สามารถย่างกรายเข้ามาผนึกจอมปีศาจตนนี้ลงได้อีก

ภัยพิบัติครั้งนี้ทำให้เมืองหลวงหลักของทั้ง 3 ทวีป ได้แก่ Rune-Midgard , Schwarzwald และ Arunafeltz ได้จับมือกันเพื่อก่อตั้ง United Midgard Alliance หรืออีกนามหนึ่ง คือ กองกำลังพันธมิตรร่วมแห่ง Midgard ขึ้นมา โดยมีจุดประสงค์ร่วมกันในการปกป้องโลกใบนี้จาก Satan Morroc และกองกำลังปีศาจของมัน

การต่อสู้ระหว่างกองกำลัง Midgard กับฝ่ายปีศาจทำให้ Satan Morroc จำต้องหลบหนีไปในทะเลทราย แต่ในจังหวะที่ฝ่าย Midgard จะสามารถกำจัดจ้าวจอมปีศาจที่กำลังจะสิ้นใจนี้ลงได้นั้น Satan Morroc ก็ได้ใช้เรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายแหวกมิติให้เกิดช่องว่างระหว่างมิติ ซึ่งเชื่อมไปยังโยธันไฮม์ขึ้นมา และแบ่งแยกจิตวิญญาณหลักออกจากร่าง ก่อนจะหลบหนีไปในรอยแยกมิตินั้น

ในขณะที่ Satan Morroc พยายามหาทางฟื้นฟูสภาพของตนเองขึ้นมาใหม่ มันก็ได้ทำการเปลี่ยนส่วนของมิติที่หนีมาหลบซ่อนตัว ให้กลายเป็นมิติที่แปดเปื้อนด้วยพลังงานชั่วร้าย กระทั่งกลุ่มกองกำลังพันธมิตรร่วมแห่ง Midgard ได้ตามมากำจัดมันลงได้อีกครั้งหนึ่ง

ทว่าหลังการต่อสู้เรื่องราวที่ดูเหมือนจะจบลงแล้วกลับยังไม่จบลง เมื่อจิตวิญญาณของ Satan Morroc ยังคงดำรงอยู่ และได้แฝงลงไปในดวงวิญญาณของเหล่านักผจญภัย เพื่อคอยดูดกลืนพลังงานมายังวิญญาณของตนเอง ในขณะเดียวกันก็คอยสังการเหล่า Incarnation of Morroc ให้เตรียมพร้อมสำหรับการฟื้นคืนชีพอีกครั้งของตน

ไม่นานดวงวิญญาณของ Satan Morroc ก็ได้ถือกำเนิดใหม่อีกครั้งในร่างของมนุษย์ และกลายเป็นสิ่งมีชีวิตกึ่งเทพที่ทรงพลังมากยิ่งกว่าเดิม

ตัวตนกึ่งเทพของเขาได้สร้างโลกและมิติของตนขึ้นใหม่ พร้อมความตั้งใจที่จะทำลายจักรวาลเดิมทิ้งลงเสีย เพื่อแทนที่โลกในอุดมคติแห่งนี้ของเขาลงไปแทน ทำให้ทุกเผ่าพันธุ์ที่เหลือไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากต้องร่วมใจกันและปราบ Satan Morroc ลง หากแต่เมื่อร่างกึ่งเทพของ Satan Morroc ได้พ่ายแพ้ลงแล้ว เขากลับเปลี่ยนแปลงและเติบโตขึ้น กลายเป็นเทพปีศาจแห่งความสิ้นหวัง

การต่อสู้ครั้งสุดท้ายเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง โดยเป็นฝ่าย Midgard ที่ได้รับชัยชนะ พร้อมข้อเท็จจริงที่ถูกเปิดเผยว่า ณ มิติที่การต่อสู้เกิดขึ้นนี้ไม่ได้ดำรงอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง หากแต่เป็นเพียงมโนคติของ Satan Morroc เพียงเท่านั้น และไม่ว่าเขาจะถูกกำจัดลงอีกสักกี่ครั้ง ลูปของช่วงเวลานี้ก็จะวนเวียนต่อไปอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด โดยที่จ้าวจอมปีศาจเองก็ไม่รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อยว่าสุดท้ายแล้ว ก็เป็นตัวเขาเองที่ติดอยู่ในโลกที่เขาเป็นผู้สร้างขึ้นมานี้...ตลอดไป

แน่นอนว่าเรื่องราวของ RO Online เอง ก็จะยังดำเนินอยู่ต่อไป ตามแต่ความต้องการที่จะผจญภัยไปในเมืองต่างๆ ของผู้เล่นแต่ละคนเอง และนอกจากมังฮวากับเกมแล้ว Ragnarok เองก็ยังเคยถูกทำเป็นอนิเมชัน ภายใต้ชื่อ Ragnarok The Animation อีกด้วยค่ะ

เวอ์รชันอนิเมชัน

อนิเมชันเรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นมาทั้งหมด 26 ตอน โดยทีมสร้างจากทางฝั่งญี่ปุ่น ซึ่งเนื้อเรื่องจะดำเนินผ่านมุมมองของพระเอกนักดาบผจญภัยฝึกหัดอย่าง Roan และเพื่อนสาวสมัยเด็กของเขา Yufa ที่ออกเดินทางผจญภัยไปยังเมืองต่างๆ ด้วยกัน 

ระหว่างการออกเดินทางพวกเขาได้พบกับ Takius , Maya , Iruga และ Judia ก่อนจะตัดสินใจรวมกลุ่มกันออกผจญภัยไปยังดันเจี้ยนต่างๆ พวกเขาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันและคอยสนับสนุนในการต่อสู้กันอยู่เสมอ จนกระทั่งพี่ชายที่คิดว่าน่าจะตายไปแล้วของ Yufa ได้ปรากฎตัวขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับหัวใจที่ถูกครอบงำด้วยความเกลียดชัง

Yufa ตัดสินใจที่จะออกเดินทางตามหาพี่ชายของตนเอง แต่ Roan ไม่เห็นด้วย เพราะเขานั้นรู้ดีว่าด้วยกำลังของตนเองในตอนนี้นั้น ไม่สามารถที่จะต่อสู้เพื่อปกป้อง Yufa ที่เขารักได้เลย ทำให้พวกเขาตัดสินใจเดินทางแยกกัน โดย Roan ได้ไปฝึกฝนให้ตนแข็งแกร่งมากพอที่จะปกป้องสิ่งสำคัญของตนเองเอาไว้ให้ได้ ก่อนจะกลับมารวมกลุ่มกันอีกครั้ง เพื่อออกเดินทางต่อไป 

ด้วยความคิดด้านลบและความลังเลในจิตใจ จากหลายเหตุการณ์ที่เผชิญผ่านมา ทำให้ Yufa ตัดสินใจบอกลาเพื่อนหนุ่มสมัยเด็กที่เธอมีใจให้ และติดตามพี่ชายที่เข้าร่วมกับ Dark Lord จอมมารที่กำลังจะฟื้นคืนชีพไป 

ทำให้ Roan กับทุกคนจึงออกเดินทางเพื่อไปช่วยเธอ และเพื่อปราบจอมมาร Dark Lord ที่ตั้งใจจะสร้างความโกลาหลให้กับโลกใบนี้

การต่อสู้เกิดขึ้นอย่างดุเดือดระหว่างจอมมารและกลุ่มผู้กล้า จนกระทั่งในท้ายที่สุด ก็เป็นฝ่ายอธรรมที่ต้องศิโรราบให้กับฝ่ายธรรมะ ชัยชนะและความสงบสุขของโลกกลับคืนมาอีกครั้ง พร้อมแสงอาทิตย์ของเช้าวันใหม่ที่มองความอบอุ่นมายังทุกชีวิตบนโลก แม้จะต้องแลกมาด้วยการเสียสละของ Iruga ก็ตาม แต่โลกก็ได้รับการช่วยเหลือเอาไว้แล้วเช่นกัน

Roan และ Yufa ได้สารภาพความรู้สึกในใจก่อนจะแต่งงานกัน และแม้ว่าเรื่องราวครั้งนี้จะจบลงแล้ว การผจญภัยของพวกเขาก็จะไม่มีวันสิ้นสุดลง และนี่ก็คือบทสรุปของ Ragnarok The Animation นั่นเอง

และนี่คือ ตัวอย่างของ Ragnarok The Animation ค่ะ

เวอ์รชัน Webtoon

นอกเหนือไปจากนี้แล้ว Ragnarok เองก็ยังมีการวาดขึ้นมาเป็นการ์ตูนรายสัปดาห์ใน Webtoon ภาษาอังกฤษ ภายใต้ชื่อ Ragnarok : A Requiem for the Forgotten อีกด้วย

ซึ่งเรื่องราวใน comic นั้นจะมีจำนวนทั้งหมด 16 ตอน และจะเป็นการเล่าถึงเนื้อเรื่องเสริมของ Seyren Windsor กับสหายทั้งห้าของเขา   

โดยเรื่องนั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Seyren Windsor ลืมตาตื่นขึ้นมาในสถานที่คล้ายกับห้องเก็บศพ โดยปราศจากความทรงจำก่อนหน้า ว่าอะไรนำพาให้เขานอนสลบอยู่ที่นี่ได้ และท่ามกลางความสับสนนั้นเองชายแปลกหน้าสองคนก็เปิดประตูห้องเข้ามา และชักดาบออกมาจู่โจมเขา

เมื่อชายหนุ่มเอาชนะทั้งสองมาได้ความทรงจำบางส่วนก็ย้อนกลับมา ว่าตัวเขานั้นได้รับมอบหมายจากกัปตัน Herman von Efesiers ให้ออกตามหาราชา Tristan Gaebolg ที่สาม ผู้หายตัวไปอย่างเป็นปริศนา และระหว่างการตามหาเบาะแสนั่นเอง เขาและพรรคพวกคนอื่นๆ ก็พลาดท่า จนถูกนักวิทยาศาสตร์ชั่วร้ายผู้มีอุดมการณ์ทะเยอทะยานอันบ้าคลั่ง Borsev  จับตัวมาทดลองในแล็บใต้ดิน Regenschirm แห่งนี้

Borsev ผ่าตัดฝังสิ่งที่เรียกว่า Core ลงในหัวใจของพวกเขา ด้วยตั้งใจจะสร้างพลังอันไร้ขีดจำกัดขึ้นมา และตั้งตนเป็นดั่งพระเจ้าผู้ที่จะสามารถควบคุมพลังเหล่านั้นได้

Borsev ได้ทำการทดลองมามากมายหลายต่อหลายครั้ง แต่ผู้คนส่วนใหญ่ที่ถูกจับมาทดลองล้วนแล้วแต่ถูกพลังของ Core ควบคุมและกลายเป็น Vicious mind ที่อาละวาดเข่นฆ่ากระทั่งสิ้นลมหายใจไปในที่สุด และพวก Seyren เป็นหนูทดลองกลุ่มแรกที่สามารถควบคุม Core กลับไปได้

การต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งระหว่าง Vicious mind สุดแข็งแกร่งตนหนึ่งของ Borsev กับ พวก Seyren และในท้ายที่สุดพระเอกก็ได้รับชัยชนะ

Borsev ได้หนีไปในขณะที่พวกพ้องทุกคนของ Seyren ใช้พลังกันมาถึงขีดจำกัดแล้ว พวกเขาฝากฝังความหวังทั้งหมดเอาไว้กับ Seyren เพื่อให้เขาออกไปจากแล็บแห่งนี้ และเปิดเผยการทดลองชั่วร้ายนี้ให้โลกได้รู้

Seyren ฝ่ากองกำลังของ Borsev หนีออกมา โดยมีเป้าหมายที่จะกลับไปยัง Prontera แต่การต่อสู้ก่อนหน้านั้นทำให้เขาเองก็มาถึงขีดจำกัดแล้วเช่นกัน ในท้ายที่สุดตัวเขาก็สลายหายไป ในขณะที่ Borsev เองก็ยังไม่ยอมแพ้และตั้งใจที่จะทำการทดลองของตนต่อไป

และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมดของ Ragnarok จากเวอร์ชั่นต่างๆ ที่เรารวบรวมมานำเสนอค่ะ ถึงแม้ว่าบทความจะต้องจบลงตรงนี้ แต่เรื่องราวการผจญภัยภายในโลกที่ถูกเรียกว่า Ragnarok นั้นก็ยังไม่จบลง และในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ บรรยากาศสุดคลาสสิกก็จะกลับมาให้คุณได้สัมผัสอีกครั้งใน Ragnarok X : Next Generation ค่ะ

มาตามหาเรื่องราวครั้งใหม่ และเริ่มต้นการผจญภัยอันไม่มีที่สิ้นสุดนี้ไปด้วยกันอีกครั้งนะคะ

Credit : https://ragnarok-archive.fandom.com/wiki/Ragnarok#Story