ถ้าพูดถึงเกมแนวลอบเร้น ที่หลายๆคนจดจำก็คงจะหนีไม่พ้นซีรี่ย์ Assansin’s Creed หรือ Splinter Cell แต่ในวันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำอีกหนึ่งเกมที่เป็นเกมแนวลอบเร้นที่แม้จะเก่าแต่ก็เป็นเกมที่ต้องใช้ความเก๋าอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยวันนี้ผู้เขียนก็จะมาเเนะนำให้รู้จักกับเกมอย่าง Dishonored เกมเเนวนักฆ่าที่มีเอกลักษณ์เเละความท้าทายไม่เหมือนใคร
เรื่องราวของ Dishonored
เรื่องราวของเกมนี้ก็จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมือง Dunwall ซึ่งทางทีมงานจำลองมาจากเมือง London ของอังกฤษในสมัยก่อน ในเกมนี้ เราจะได้รับบทเป็น Corvo Attano นักฆ่าที่มีพลังพิเศษและแรงผลักดันในการทำงานด้วยความแค้น ซึ่งก่อนที่เราจะมาเป็นนักฆ่า เราเคยเป็นองครักษ์ประจำตัวของจักรพรรดินี แต่ถูกใส่ร้ายว่าเป็นคนที่ฆ่าเธอและถูกจับขังคุก ซึ่งหลังจากเราโดนจับ เราก็ได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่ม Loyalists และได้รับพลังพิเศษมาและนำมาใช้เพื่อการแก้แค้นและล้างมลทินให้กับตัวเอง โดยที่ Concept ของเกมนี้ก็เข้าใจได้ง่ายๆคือ 'REVENGE SOLVES EVERYTHING' หรือ “การแก้แค้นจะแก้ไขทุกสิ่ง”
เกมเพลย์ที่ท้าทาย
โดยเกมนี้จะมีมุมมองแบบ FPS หรือ มุมมองบุคคลที่ 1 และในเกมนี้ก็ยังออกแบบมาให้เราสามารถทำภารกิจต่างๆได้หลายแนวทางไม่ว่าจะเป็นแบบลุยแหลกหรือลอบเร้น ซึ่งส่วนมากภารกิจจะเป็นการสังหารเป้าหมาย แต่ในบางครั้งเราก็สามารถเลือกได้ว่าจะฆ่าเป้าหมายหรือปล่อยไป ที่จะมีผลต่อเหตุการณ์ในภารกิจต่อๆไปได้ และบางครั้งก็ส่งผลต่อภารกิจสุดท้ายที่เป็นตอนจบด้วย
สร้างสรรค์การลอบสังหารในสไตล์คุณ
ในเกมนี้ก็จะเป็นเกมที่มีสกิลที่เป็นพลังพิเศษให้เลือกสรรมากมายให้ได้เลือกวิธีการที่คุณจะแก้แค้นได้ตามใจคุณ โดยจะเลือกอัพสกิลที่เอื้อต่อการลอบสังหาร เช่น สกิล"บลิ้งค์"ที่จะทำให้เราสามารถย้ายที่ไปมาได้ในระยะทางใกล้ๆหรือจะใช้ขึ้นไปข้างบนหัวศัตรูที่เป็นตำแหน่งนอกระยะสายตาแล้วรอเวลาที่เหมาะสมเพื่อสังหารศัตรูก็ได้ หรือจะใช้สกิล"ควบคุมกองทัพหนู"ให้ไปสังหารศัตรูตัวที่คุณต้องการก็ได้ หรือจะใช้สกิล"หยุดเวลา"แบบสั้นๆเพื่อสอดส่องตำแหน่งของศัตรูเวลาที่คุณจวนตัวแล้วค่อยวางแผนว่าคุณจะสังหารหรือหลบหนีออกจากพื้นที่นั้นก็ได้
ความอิสระคือสิ่งที่ทำให้เกมนี้แตกต่าง
ถึงแม้ว่าเกมนี้จะไม่ใช่เกมที่เป็นแนว Open World ในแบบที่เราสามารถไปไหนมาไหนหรือเลือกทำภารกิจได้ตามใจชอบแบบ Assassin's Creed แต่เกมนี้ก็ยังมีจุดเด่นคือความอิสระตั้งแต่การเลือกใช้อุปกรณ์ในการสังหารที่มีอยู่มากมายให้ได้เลือกสรร เช่น หน้าไม้ที่เราสามารถเลือกปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบเป็นลูกธนูหัวระเบิด ยาสลบ หรือแบบธรรมดาก็ได้ และยังมีปืนพกคู่ใจ ระเบิด และกับดักรูปแบบต่างๆให้ได้เลือกวิธีการใช้ได้อย่างอิสระ และที่สำคัญก็คือเราสามารถเลือกอัพเกรดอุปกรณ์ของเราได้ตามใจชอบอีกด้วย และสิ่งที่อิสระอีกอย่างของเกมนี้ก็คือแทบจะทุกตรอกซอกซอยของด่านไม่ว่าจะเป็นท่อแอร์หรือระเบียง คุณก็สามารถที่จะปืนป่ายเพื่อสังเกตการณ์ศัตรูหรือใช้เพื่อไปให้ใกล้ตัวเป้าหมายโดยที่ไม่โดนสังเกตเห็น และเนื่องจากเกมนี้เป็นเกมแบบที่เป็นลักษณะที่ต้องผ่านด่าน ซึ่งแต่ละด่านของเกมนี้ก็จะเป็นด่านใหญ่ๆและมีภารกิจคือต้องสังหารเป้าหมาย โดยที่เราจะต้องผ่านตั้งแต่ประตูหน้าไปเรื่อยๆจนถึงตัวเป้าหมายที่จะต้องสังหาร การที่เราสามารถสร้างสรรค์ช่องทางต่างๆได้อย่างอิสระ ที่ไม่ใช่เพียงแค่บู๊ล้างผลาญแล้วเดินเข้าผ่านทางประตูหน้า ก็เป็นอีกเสน่ห์ที่ทำให้เกม Dishorned นั้นแตกต่างจากเกมอื่นๆ
เป็นอีกหนึ่งเกมแนวลอบเร้นที่เราสามารถออกแบบการเล่นได้ในสไตล์ของตัวเราเอง รวมถึงเลือกบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดผ่านการเล่นองเราเองได้อีก เป็นอีกหนึ่งเกมที่ผู้เขียนแนะนำให้ลองเล่น รับรองว่าประสบการณ์จะแตกต่างจากเกมลอบเร้นที่เคยสัมผัสมาแน่นอน โดย Dishonored สามารถเล่นได้ทั้งทาง PC, Playstation และ XBOX 360
ถ้าพูดถึงเกมแนวลอบเร้น ที่หลายๆคนจดจำก็คงจะหนีไม่พ้นซีรี่ย์ Assansin’s Creed หรือ Splinter Cell แต่ในวันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำอีกหนึ่งเกมที่เป็นเกมแนวลอบเร้นที่แม้จะเก่าแต่ก็เป็นเกมที่ต้องใช้ความเก๋าอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยวันนี้ผู้เขียนก็จะมาเเนะนำให้รู้จักกับเกมอย่าง Dishonored เกมเเนวนักฆ่าที่มีเอกลักษณ์เเละความท้าทายไม่เหมือนใคร
เรื่องราวของ Dishonored
เรื่องราวของเกมนี้ก็จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมือง Dunwall ซึ่งทางทีมงานจำลองมาจากเมือง London ของอังกฤษในสมัยก่อน ในเกมนี้ เราจะได้รับบทเป็น Corvo Attano นักฆ่าที่มีพลังพิเศษและแรงผลักดันในการทำงานด้วยความแค้น ซึ่งก่อนที่เราจะมาเป็นนักฆ่า เราเคยเป็นองครักษ์ประจำตัวของจักรพรรดินี แต่ถูกใส่ร้ายว่าเป็นคนที่ฆ่าเธอและถูกจับขังคุก ซึ่งหลังจากเราโดนจับ เราก็ได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่ม Loyalists และได้รับพลังพิเศษมาและนำมาใช้เพื่อการแก้แค้นและล้างมลทินให้กับตัวเอง โดยที่ Concept ของเกมนี้ก็เข้าใจได้ง่ายๆคือ 'REVENGE SOLVES EVERYTHING' หรือ “การแก้แค้นจะแก้ไขทุกสิ่ง”
เกมเพลย์ที่ท้าทาย
โดยเกมนี้จะมีมุมมองแบบ FPS หรือ มุมมองบุคคลที่ 1 และในเกมนี้ก็ยังออกแบบมาให้เราสามารถทำภารกิจต่างๆได้หลายแนวทางไม่ว่าจะเป็นแบบลุยแหลกหรือลอบเร้น ซึ่งส่วนมากภารกิจจะเป็นการสังหารเป้าหมาย แต่ในบางครั้งเราก็สามารถเลือกได้ว่าจะฆ่าเป้าหมายหรือปล่อยไป ที่จะมีผลต่อเหตุการณ์ในภารกิจต่อๆไปได้ และบางครั้งก็ส่งผลต่อภารกิจสุดท้ายที่เป็นตอนจบด้วย
สร้างสรรค์การลอบสังหารในสไตล์คุณ
ในเกมนี้ก็จะเป็นเกมที่มีสกิลที่เป็นพลังพิเศษให้เลือกสรรมากมายให้ได้เลือกวิธีการที่คุณจะแก้แค้นได้ตามใจคุณ โดยจะเลือกอัพสกิลที่เอื้อต่อการลอบสังหาร เช่น สกิล"บลิ้งค์"ที่จะทำให้เราสามารถย้ายที่ไปมาได้ในระยะทางใกล้ๆหรือจะใช้ขึ้นไปข้างบนหัวศัตรูที่เป็นตำแหน่งนอกระยะสายตาแล้วรอเวลาที่เหมาะสมเพื่อสังหารศัตรูก็ได้ หรือจะใช้สกิล"ควบคุมกองทัพหนู"ให้ไปสังหารศัตรูตัวที่คุณต้องการก็ได้ หรือจะใช้สกิล"หยุดเวลา"แบบสั้นๆเพื่อสอดส่องตำแหน่งของศัตรูเวลาที่คุณจวนตัวแล้วค่อยวางแผนว่าคุณจะสังหารหรือหลบหนีออกจากพื้นที่นั้นก็ได้
ความอิสระคือสิ่งที่ทำให้เกมนี้แตกต่าง
ถึงแม้ว่าเกมนี้จะไม่ใช่เกมที่เป็นแนว Open World ในแบบที่เราสามารถไปไหนมาไหนหรือเลือกทำภารกิจได้ตามใจชอบแบบ Assassin's Creed แต่เกมนี้ก็ยังมีจุดเด่นคือความอิสระตั้งแต่การเลือกใช้อุปกรณ์ในการสังหารที่มีอยู่มากมายให้ได้เลือกสรร เช่น หน้าไม้ที่เราสามารถเลือกปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบเป็นลูกธนูหัวระเบิด ยาสลบ หรือแบบธรรมดาก็ได้ และยังมีปืนพกคู่ใจ ระเบิด และกับดักรูปแบบต่างๆให้ได้เลือกวิธีการใช้ได้อย่างอิสระ และที่สำคัญก็คือเราสามารถเลือกอัพเกรดอุปกรณ์ของเราได้ตามใจชอบอีกด้วย และสิ่งที่อิสระอีกอย่างของเกมนี้ก็คือแทบจะทุกตรอกซอกซอยของด่านไม่ว่าจะเป็นท่อแอร์หรือระเบียง คุณก็สามารถที่จะปืนป่ายเพื่อสังเกตการณ์ศัตรูหรือใช้เพื่อไปให้ใกล้ตัวเป้าหมายโดยที่ไม่โดนสังเกตเห็น และเนื่องจากเกมนี้เป็นเกมแบบที่เป็นลักษณะที่ต้องผ่านด่าน ซึ่งแต่ละด่านของเกมนี้ก็จะเป็นด่านใหญ่ๆและมีภารกิจคือต้องสังหารเป้าหมาย โดยที่เราจะต้องผ่านตั้งแต่ประตูหน้าไปเรื่อยๆจนถึงตัวเป้าหมายที่จะต้องสังหาร การที่เราสามารถสร้างสรรค์ช่องทางต่างๆได้อย่างอิสระ ที่ไม่ใช่เพียงแค่บู๊ล้างผลาญแล้วเดินเข้าผ่านทางประตูหน้า ก็เป็นอีกเสน่ห์ที่ทำให้เกม Dishorned นั้นแตกต่างจากเกมอื่นๆ
เป็นอีกหนึ่งเกมแนวลอบเร้นที่เราสามารถออกแบบการเล่นได้ในสไตล์ของตัวเราเอง รวมถึงเลือกบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดผ่านการเล่นองเราเองได้อีก เป็นอีกหนึ่งเกมที่ผู้เขียนแนะนำให้ลองเล่น รับรองว่าประสบการณ์จะแตกต่างจากเกมลอบเร้นที่เคยสัมผัสมาแน่นอน โดย Dishonored สามารถเล่นได้ทั้งทาง PC, Playstation และ XBOX 360