GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
รีวิวเกม
[Review] รีวิวเกม Teenage Mutant Ninja Turtles: Shredder's Revenge "สนุก เรียบง่าย แต่ถ้าได้ลองแล้วจะวางไม่ลง!"
ลงวันที่ 03/07/2022

นินจาเต่า หรือ เต่านินจา แล้วแต่คนจะเรียก เป็นอีกหนึ่งการ์ตูนแอนิเมชั่น และถูกนำไปผลิตเป็นสื่อบันเทิงหลากหลายรูปแบบ ทั้งภาพยนตร์ การ์ตูน หรือแม้กระทั่งวิดีโอเกม และเอาจริง ๆ แล้ว วิดีโอเกมกับนินจาเต่านั้น เป็นของที่อยู่คู่กันมานานมากแล้ว เพราะเกมนินจาเต่ามีทั้งแบบ Fighting / Arcade ตะลุยด่าน และแนวอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ Shredder's Revenge นั้น จะมาดึงความเป็นเกมคลาสสิคกลับมาให้ผู้เล่นสนุกกันแบบง่าย ๆ อีกครั้ง แต่มันจะสนุก สมกับการรอคอยมากน้อยแค่ไหน เชิญกับรีวิว Teenage Mutant Ninja Turtles: Shredder's Revenge

ความพยายามที่ไม่สิ้นสุดของ Shredder และ Foot Clan 


นินจาเต่า ยังคงเป็นเรื่องราวของสี่สหายนินจาเต่าที่ตั้งชื่อตามบุคคลดังของโลก ไม่ว่าจะเป็น Leonardo / Raphael / Michaelangelo / Donatello และสหายร่วมรบอีก 2 คนอย่าง April O'Neil นักข่าวสาว และนักกีฬาเอกซ์ตรีมอย่าง Casey Jones และอาจารย์ Splinter โดยในจำนวนนี้ มีเพียง Casey Jones เท่านั้น ที่จำเป็นต้องเล่นเพื่อปลดล็อคตัวละครก่อน นอกนั้นก็สามารถหยิบมาใช้ได้เลย 

เรื่องราวของตัวเกมในภาคนี้ยังคงหนีไม่พ้น ความพยายาในการจะยึดครองโลกของ Shredder และเหล่ากองทัพ Foot Clan ที่คราวนี้ ขนลูกน้องมาเป็นกระบุง ทำให้เราต้องเจอหน้าเหล่าบอสในแต่ละ Episode ที่มากหน้าหลายตามาก ซึ่งก็คงต้องบอกตรง ๆ ว่า ผู้เขียนไม่เชี่ยวชาญเรื่องตัวละครในโลกของนินจาเต่าเลยแม้แต่น้อย แต่มันน่าประทับใจตรงที่แม้จะมีจำนวนบอสที่เยอะมาก ๆ แต่รูปแบบการโจมตี ดีไซน์ แม้กระทั่งวิธีการเอาชนะ ทางผู้พัฒนาได้พยายามใส่ความหลากหลายลงไปให้มากที่สุด แต่ก็ยังคงเส้นเรื่องเอาไว้ไม่ให้มันหลุดโทนจนเกินไป


ที่ชอบอีกอย่างคือ การสรุปเนื้อเรื่องในช่วงเริ่มต้น และจบแต่ละ Episode นั้น จะใช้เวลาไม่นานมากนัก ไม่ให้คนรู้สึกเบื่อ และพยายามพาผู้เล่นเข้าสู่ช่วงเกมเพลย์ให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ใช่ว่าเนื้อเรื่องจะไม่สำคัญนะ แต่ถ้าคุณเบื่อกับเกมแนวผู้ร้ายยึดครองโลก และมีความพยายามครั้งแล้วครั้งเล่า จะข้าม ๆ มันไปก็ได้ ไม่ตกหล่นหรือเสียหายอะไร

เกมเพลย์สุดคลาสสิค เล่นง่าย แต่ท้าทาย และสนุกแบบเรียบง่าย


ใครที่ชื่นชอบเกมเพลย์การเล่นที่ง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ก็ยังแฝงไว้ด้วยความท้าทาย TMNT: Shredder's Revenge นี้ ถือว่าครบเครืองเป็นยากมาก สำหรับเกมเพลย์ของเกมนี้จะเป็นแนว Beat em' up เดินจากซ้ายไปขวา ตะลุยด่านสุดมันตามสไตล์เกมยุคเก่า ข้อดีของมันคือ เล่นง่าย เข้าใจง่าย เป็นเส้นตรง หากคุณเป็นคนที่เบื่อกับการเถลไถล ออกสำรวจโน่นนี่ จนทำให้เบื่อก่อนที่จะเล่นเกมจบ เกมแนวนี้ถือว่าเป็นเกมที่ตอบโจทย์มาก ๆ 

ใน 1 ฉากการเล่น จะใช้เวลาไม่เกิน 5-10 นาทีก็จบแล้ว แต่นี่ก็ไม่ใช่เกมที่คุณจะเข้ามารัวปุ่ม สแปมปุ่มโจมตีแล้วก็จบเกมอย่างง่าย ๆ เพราะเกมนี้มี Moveset หรือท่าการโจมตีที่เยอะมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีปกติ การโจมตีหนัก การโจมตีด้วยไม้ตาย การหันมาโจมตีศัตรูด้านหลัง หรือกระโดดโจมตีกลางอากาศ แถมบางท่าทางการโจมตี เราก็ไม่สามารถปลดล็อคมาใช้ได้ตั้งแต่แรก แต่เราจำเป็นจะต้องหยิบเอาตัวละครนั้นไปเล่นบ่อย ๆ จนค่า Power Level สูงขึ้น จึงจะปลด Moveset ใหม่ ๆ มาให้ใช้งานกัน เกมนี้จึงมี Replayability หรือคุณค่าการเล่นซ้ำที่สูงไม่ใช่น้อย หากคุณไม่ใช่คนขี้เบื่อที่เคลียร์เกมทีเดียวจบโดยไม่สนอย่างอื่น


ตัวละครแต่ละตัวนั้น ก็จะมีสเตตัสที่แตกต่างกันออกไปด้วย โดยแบ่งเป็น ค่า Range หรือระยะการโจมตีของตัวละคร ค่า Power ความแรงในการโจมตี ค่า Speed หรือความว่องไวของตัวละคร ซึ่งก็แล้วแต่ว่าผู้เล่นอยากจะเล่นตัวไหน ที่มันต้องทำให้ต่าง เพราะเกมนี้รองรับการเล่น Co-op มากถึง 6 คน ดังนั้นการหยิบเอาตัวละครแต่ละตัวมา


และเมื่อตัวละครของเรามีท่าโจมตีที่หลากหลาย ศัตรูของเกมนี้ก็มีหลากหลายตามไปด้วย อย่างที่บอกไปว่า เราไม่สามารถสแปมปุ่มรัว ๆ เพื่อเอาชนะศัตรูได้ ในด่านแรก ๆ นั้น อาจจะยังพอทำได้ แต่เมื่อเริ่มเข้าช่วงกลางเกม ท้ายเกม เราจะเริ่มเจอกับศัตรูที่มีลูกไม้ในการโจมตีมากขึ้น ศัตรูในเกมนี้ส่วนมากจะเป็นพวกนินจา Foot Clan ที่ใช้วิธีการเปลี่ยนสีเอา แต่อย่างน้อย การเปลี่ยนสีนี้ก็ทำให้เราจำแนกประเภทศัตรูได้ง่าย คือเวลาที่เราเห็นศัตรู เราจะรู้เลยว่า เจ้าสีนี้ เราจะต้องรับมือยังไง นอกจากนั้นภายในฉาก ระหว่างการเล่น เกมจะมี Objective Bonus ให้เราทำเสมอ ส่วนมากจะเป็นภารกิจที่ทำได้ในฉากนั้น เช่นโจมตีศัตรูด้วยท่าไม้ตาย ใช้กับดักทำให้ศัตรูตาย หรือห้ามโดนโจมตีเกินกี่ครั้ง สำหรับภารกิจพวกนี้ นับว่าไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย เพราะต้องอาศัยความเป๊ะ ความแม่นยำ และความสามารถพอสมควร ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรมาก จะกลับมาไล่เก็บในรอบที่ 2 ก็ได้


ระหว่างฉากจะมีวัตถุที่ทำลายได้อยู่เสมอ วัตถุเหล่านี้เมื่อทำลายแล้วจะมีโอกาสเจอ 2 อย่างคือ Secret ของเกม ที่หาเจอได้ง่ายมาก แต่ละด่านก็จะมีอยู่ด่านละ 1 ชิ้น และอีกอย่างคือพิซซ่า ซึ่งจะแบ่งออกเป็นพิซซ่าฟื้นพลังชีวิต และพิซซ่าบ้าพลัง ที่เมื่อกินเข้าไปจะทำให้ตัวละครบ้าพลัง และใช้ท่าไม้ตายได้ทันที เป็นอีกหนึ่งความสนุกที่ดึงให้เราเล่นเกมนี้ต่อได้อย่างเรื่อย ๆ เพราะเกมไม่ซับซ้อน ไม่ยากไป ไม่ง่ายไปนั่นเอง 

ส่วนของศัตรูจะมีความหลากหลายที่ในตอนแรกเราอาจจะมองว่ามันเป็นแค่การย้อมสี แต่หากเล่นไปเรื่อย ๆ ผู้เล่นจะพบว่ามันไม่ใช่แค่การย้อมสีแบบทำง่าย ๆ แต่ศัตรูแต่ละสีที่ถูกย้อมมานั้น จะมีรูปแบบการโจมตีที่ไม่เหมือนกันเลย แถมยังใช้อาวุธต่างกัน และมี Moveset การโจมตีผู้เล่นที่ต่างกันอีกด้วย ใครที่คิดว่าเจอศัตรูย้อมสีแล้วมันจะเหมือนเดิม ก็เตรียมตัวเสีย Life Point เกิดใหม่อีกรอบกันได้ เป็นเกมที่ทำให้เราเซอร์ไพรส์ได้ แม้จะเล่นไปไกลแล้ว สิ่งที่ชื่นชอบอีกอย่าง คือการพยายามไม่ทำให้เกมเพลย์จำเจอยู่กับฉากแบบเดิม ๆ คือปกติแล้ว เกมการเล่นจะทำให้เราเดินจากซ้ายไปขวา ด้วยการเดินเท้า แต่ในบางฉากจะเป็นฉากพิเศษ ที่ทำให้ตัวละครของเราบังคับอุปกรณ์พิเศษ เช่นบอร์ดลอยฟ้า และเปลี่ยนสถานที่ต่อสู้กันเป็นการขับยาน หรือขับรถไล่กัน แม้ภาพรวมของเกมเพลย์จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เกมเพลย์สนุกขึ้น


ข้อเสียนิดหน่อยสำหรับเกมเพลย์คือเรื่องของ Boss Fight เพราะแม้ว่า Boss Fight ของเกมนี้ จะนำเสนอศัตรูที่มีความหลากหลายในด้านการดีไซน์ แต่ในด้านเกมเพลย์นั้น ถือว่าน่าตินิดหน่อย นั่นคือความยากง่ายในการต่อสู้ บางตัวก็ง่ายชนิดที่แค่สแปมปุ่มรัว ๆ ก็ผ่าน บางตัวก็ยากจนต้องจับจังหวะและเรียนรู้ให้ดี หรือบางตัว ไม่เก่งเลย แต่เน้นซัมมอนพวกออกมารุม และใช้การโจมตีกวาดฉาก ทำให้เราต้องหลบหลีก และมีจังหวะสวนกลับได้น้อย หากใครชื่นชอบความท้าทาย จะนับว่าเป็นข้อดีก็ได้ แต่สำหรับผู้เขียนแล้ว รู้สึกว่าความยากมันแก่วงไปพอสมควรเลยทีเดียว

และหากเล่นจนจบแล้ว ยังรู้สึกว่าชีวิตต้องการความท้าทายอยู่ล่ะก็ Arcade Mode ขอต้อนรับ เพราะโหมดนี้จะมาพร้อมเกมการเล่นแบบคลาสสิคสมชื่อ ให้ประสบการณ์เหมือนเราเล่นเกม Arcade หยอดเหรียญสมัยก่อน โหมดนี้จะสามารถ Continued ได้แบบจำกัดจำนวนครั้ง รวมไปถึงไม่มีการเซฟ Progression ระหว่างเล่น เล่นแล้วต้องเอาให้จบ ตายมาก็เริ่มใหม่หมด ใครหวนคิดถึงบรรยากาศยุคเกมอาร์เคดละก็ โหมดนี้ถึงใจแน่นอน


สรุปแล้ว สำหรับคอนเทนต์ของ TMNT: Shredder's Revenge นั้น ถ้าจะเอาให้จบเนื้อเรื่องรอบเดียว ก็อาจจะใช้เวลาไม่นานนัก 2-3 ชั่วโมงก็เพียงพอ แต่ถ้าจะเก็บทุกอย่างให้ครบ รวมไปถึงเล่นซ้ำในโหมด Arcade หรือถ้าชวนเพื่อน ๆ มาสนุกไปด้วยกันแบบจัดเต็ม 6 คน นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งเกมที่ตอบโจทย์ด้านความคุ้มค่า คุ้มราคาอย่างมาก เพราะนี่ก็เป็นเกมอินดี้ที่ไม่ได้มีราคาแพงมากมายอะไรเลย แต่ความสนุกที่ได้นั้น ค่อนข้างคุ้ม หรือเกินราคาไปเลยด้วยซ้ำ

สเปคเบาสบาย เข้าถึงง่าย ไม่ต่างจากเกมเพลย์


นอกจากเกมเพลย์จะเข้าถึงง่ายมาก ๆ แล้ว สิ่งที่น่าชื่นชมพอ ๆ กันเลยคือการ Optimize และปรับแต่งตัวเกมมาให้เข้าถึงได้ง่ายพอ ๆ กัน เพราะเพียงคุณมีคอมพิวเตอร์สักเครื่องก็น่าจะเล่นได้แล้ว โดยตัวเกมต้องการการ์ดจอเพียงการ์ดจอ GTS 450 หรือ R7 250 เท่านั้น หรือจะเป็น Intel HD ออนบอร์ดเลยก็ยังเล่นไหว และใช้แรมเพียง 4GB สเปคแบบนี้ ยุคนี้คิดว่าน่าจะไหวกันหมดอยู่แล้ว

และแม้ว่าเกมจะนำเสนอภาพแบบการ์ตูนพิกเซล ทำให้การปรับ Option ในส่วนของภาพกราฟิกมีไม่ค่อยเยอะนัก แต่เกมก็ใส่ทางเลือกในการปรับการตั้งค่าในส่วนของปุ่มควบคุมมาอย่างละเอียด เพราะเกมนี้ใช้ปุ่มและการควบคุมที่ค่อนข้างเยอะ ผู้เล่นบางคนอาจจะถนัดที่ได้ตั้งค่าปุ่มด้วยตัวเองมากกว่า เกมนี้รองรับได้มากที่สุดเท่าที่จะรับได้แล้ว


เรียกได้ว่าเกมนี้สอบผ่านทั้งในแง่ของเกมเพลย์และประสิทํธิภาพของตัวเกม หากคุณกำลังมองหาเกม Beat em' up / ตะลุยด่านสนุก ๆ ที่เล่นพร้อมกันได้มากถึง 6 คน นาทีนี้ก็ไม่น่ามีเกมไหนตอบโจทย์ได้ดีไปกว่าเกมนี้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวเกมลงให้กับ Xbox / PC Game Pass ที่สามารถดาวน์โหลดมาเล่นกันได้ฟรี ๆ สำหรับคนที่เป็นสมาชิกด้วยแล้วถือว่าคุ้ม หรือจะเสียเงินซื้อมาเล่น ก็ยังคุ้มค่าอยู่ดี

7
ข้อดี

เกมเพลย์เรียบง่าย แต่ไม่น่าเบื่อ

ตัวละครที่มีเอกลักษณ์ให้เลือกได้หลายตัว

เล่นกับเพื่อนได้พร้อมกันทีเดียวถึง 6 คน

กราฟิกแนวพิกเซลสีสันเพลินตา

ไม่กินสเปคคอม

ข้อเสีย

คนที่ชอบเล่นเนื้อเรื่องจบรอบเดียวอาจรู้สึกว่าเกมสั้น

9
บทความที่คล้ายกัน

GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[Review] รีวิวเกม Teenage Mutant Ninja Turtles: Shredder's Revenge "สนุก เรียบง่าย แต่ถ้าได้ลองแล้วจะวางไม่ลง!"
03/07/2022

นินจาเต่า หรือ เต่านินจา แล้วแต่คนจะเรียก เป็นอีกหนึ่งการ์ตูนแอนิเมชั่น และถูกนำไปผลิตเป็นสื่อบันเทิงหลากหลายรูปแบบ ทั้งภาพยนตร์ การ์ตูน หรือแม้กระทั่งวิดีโอเกม และเอาจริง ๆ แล้ว วิดีโอเกมกับนินจาเต่านั้น เป็นของที่อยู่คู่กันมานานมากแล้ว เพราะเกมนินจาเต่ามีทั้งแบบ Fighting / Arcade ตะลุยด่าน และแนวอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ Shredder's Revenge นั้น จะมาดึงความเป็นเกมคลาสสิคกลับมาให้ผู้เล่นสนุกกันแบบง่าย ๆ อีกครั้ง แต่มันจะสนุก สมกับการรอคอยมากน้อยแค่ไหน เชิญกับรีวิว Teenage Mutant Ninja Turtles: Shredder's Revenge

ความพยายามที่ไม่สิ้นสุดของ Shredder และ Foot Clan 


นินจาเต่า ยังคงเป็นเรื่องราวของสี่สหายนินจาเต่าที่ตั้งชื่อตามบุคคลดังของโลก ไม่ว่าจะเป็น Leonardo / Raphael / Michaelangelo / Donatello และสหายร่วมรบอีก 2 คนอย่าง April O'Neil นักข่าวสาว และนักกีฬาเอกซ์ตรีมอย่าง Casey Jones และอาจารย์ Splinter โดยในจำนวนนี้ มีเพียง Casey Jones เท่านั้น ที่จำเป็นต้องเล่นเพื่อปลดล็อคตัวละครก่อน นอกนั้นก็สามารถหยิบมาใช้ได้เลย 

เรื่องราวของตัวเกมในภาคนี้ยังคงหนีไม่พ้น ความพยายาในการจะยึดครองโลกของ Shredder และเหล่ากองทัพ Foot Clan ที่คราวนี้ ขนลูกน้องมาเป็นกระบุง ทำให้เราต้องเจอหน้าเหล่าบอสในแต่ละ Episode ที่มากหน้าหลายตามาก ซึ่งก็คงต้องบอกตรง ๆ ว่า ผู้เขียนไม่เชี่ยวชาญเรื่องตัวละครในโลกของนินจาเต่าเลยแม้แต่น้อย แต่มันน่าประทับใจตรงที่แม้จะมีจำนวนบอสที่เยอะมาก ๆ แต่รูปแบบการโจมตี ดีไซน์ แม้กระทั่งวิธีการเอาชนะ ทางผู้พัฒนาได้พยายามใส่ความหลากหลายลงไปให้มากที่สุด แต่ก็ยังคงเส้นเรื่องเอาไว้ไม่ให้มันหลุดโทนจนเกินไป


ที่ชอบอีกอย่างคือ การสรุปเนื้อเรื่องในช่วงเริ่มต้น และจบแต่ละ Episode นั้น จะใช้เวลาไม่นานมากนัก ไม่ให้คนรู้สึกเบื่อ และพยายามพาผู้เล่นเข้าสู่ช่วงเกมเพลย์ให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ใช่ว่าเนื้อเรื่องจะไม่สำคัญนะ แต่ถ้าคุณเบื่อกับเกมแนวผู้ร้ายยึดครองโลก และมีความพยายามครั้งแล้วครั้งเล่า จะข้าม ๆ มันไปก็ได้ ไม่ตกหล่นหรือเสียหายอะไร

เกมเพลย์สุดคลาสสิค เล่นง่าย แต่ท้าทาย และสนุกแบบเรียบง่าย


ใครที่ชื่นชอบเกมเพลย์การเล่นที่ง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ก็ยังแฝงไว้ด้วยความท้าทาย TMNT: Shredder's Revenge นี้ ถือว่าครบเครืองเป็นยากมาก สำหรับเกมเพลย์ของเกมนี้จะเป็นแนว Beat em' up เดินจากซ้ายไปขวา ตะลุยด่านสุดมันตามสไตล์เกมยุคเก่า ข้อดีของมันคือ เล่นง่าย เข้าใจง่าย เป็นเส้นตรง หากคุณเป็นคนที่เบื่อกับการเถลไถล ออกสำรวจโน่นนี่ จนทำให้เบื่อก่อนที่จะเล่นเกมจบ เกมแนวนี้ถือว่าเป็นเกมที่ตอบโจทย์มาก ๆ 

ใน 1 ฉากการเล่น จะใช้เวลาไม่เกิน 5-10 นาทีก็จบแล้ว แต่นี่ก็ไม่ใช่เกมที่คุณจะเข้ามารัวปุ่ม สแปมปุ่มโจมตีแล้วก็จบเกมอย่างง่าย ๆ เพราะเกมนี้มี Moveset หรือท่าการโจมตีที่เยอะมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีปกติ การโจมตีหนัก การโจมตีด้วยไม้ตาย การหันมาโจมตีศัตรูด้านหลัง หรือกระโดดโจมตีกลางอากาศ แถมบางท่าทางการโจมตี เราก็ไม่สามารถปลดล็อคมาใช้ได้ตั้งแต่แรก แต่เราจำเป็นจะต้องหยิบเอาตัวละครนั้นไปเล่นบ่อย ๆ จนค่า Power Level สูงขึ้น จึงจะปลด Moveset ใหม่ ๆ มาให้ใช้งานกัน เกมนี้จึงมี Replayability หรือคุณค่าการเล่นซ้ำที่สูงไม่ใช่น้อย หากคุณไม่ใช่คนขี้เบื่อที่เคลียร์เกมทีเดียวจบโดยไม่สนอย่างอื่น


ตัวละครแต่ละตัวนั้น ก็จะมีสเตตัสที่แตกต่างกันออกไปด้วย โดยแบ่งเป็น ค่า Range หรือระยะการโจมตีของตัวละคร ค่า Power ความแรงในการโจมตี ค่า Speed หรือความว่องไวของตัวละคร ซึ่งก็แล้วแต่ว่าผู้เล่นอยากจะเล่นตัวไหน ที่มันต้องทำให้ต่าง เพราะเกมนี้รองรับการเล่น Co-op มากถึง 6 คน ดังนั้นการหยิบเอาตัวละครแต่ละตัวมา


และเมื่อตัวละครของเรามีท่าโจมตีที่หลากหลาย ศัตรูของเกมนี้ก็มีหลากหลายตามไปด้วย อย่างที่บอกไปว่า เราไม่สามารถสแปมปุ่มรัว ๆ เพื่อเอาชนะศัตรูได้ ในด่านแรก ๆ นั้น อาจจะยังพอทำได้ แต่เมื่อเริ่มเข้าช่วงกลางเกม ท้ายเกม เราจะเริ่มเจอกับศัตรูที่มีลูกไม้ในการโจมตีมากขึ้น ศัตรูในเกมนี้ส่วนมากจะเป็นพวกนินจา Foot Clan ที่ใช้วิธีการเปลี่ยนสีเอา แต่อย่างน้อย การเปลี่ยนสีนี้ก็ทำให้เราจำแนกประเภทศัตรูได้ง่าย คือเวลาที่เราเห็นศัตรู เราจะรู้เลยว่า เจ้าสีนี้ เราจะต้องรับมือยังไง นอกจากนั้นภายในฉาก ระหว่างการเล่น เกมจะมี Objective Bonus ให้เราทำเสมอ ส่วนมากจะเป็นภารกิจที่ทำได้ในฉากนั้น เช่นโจมตีศัตรูด้วยท่าไม้ตาย ใช้กับดักทำให้ศัตรูตาย หรือห้ามโดนโจมตีเกินกี่ครั้ง สำหรับภารกิจพวกนี้ นับว่าไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย เพราะต้องอาศัยความเป๊ะ ความแม่นยำ และความสามารถพอสมควร ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรมาก จะกลับมาไล่เก็บในรอบที่ 2 ก็ได้


ระหว่างฉากจะมีวัตถุที่ทำลายได้อยู่เสมอ วัตถุเหล่านี้เมื่อทำลายแล้วจะมีโอกาสเจอ 2 อย่างคือ Secret ของเกม ที่หาเจอได้ง่ายมาก แต่ละด่านก็จะมีอยู่ด่านละ 1 ชิ้น และอีกอย่างคือพิซซ่า ซึ่งจะแบ่งออกเป็นพิซซ่าฟื้นพลังชีวิต และพิซซ่าบ้าพลัง ที่เมื่อกินเข้าไปจะทำให้ตัวละครบ้าพลัง และใช้ท่าไม้ตายได้ทันที เป็นอีกหนึ่งความสนุกที่ดึงให้เราเล่นเกมนี้ต่อได้อย่างเรื่อย ๆ เพราะเกมไม่ซับซ้อน ไม่ยากไป ไม่ง่ายไปนั่นเอง 

ส่วนของศัตรูจะมีความหลากหลายที่ในตอนแรกเราอาจจะมองว่ามันเป็นแค่การย้อมสี แต่หากเล่นไปเรื่อย ๆ ผู้เล่นจะพบว่ามันไม่ใช่แค่การย้อมสีแบบทำง่าย ๆ แต่ศัตรูแต่ละสีที่ถูกย้อมมานั้น จะมีรูปแบบการโจมตีที่ไม่เหมือนกันเลย แถมยังใช้อาวุธต่างกัน และมี Moveset การโจมตีผู้เล่นที่ต่างกันอีกด้วย ใครที่คิดว่าเจอศัตรูย้อมสีแล้วมันจะเหมือนเดิม ก็เตรียมตัวเสีย Life Point เกิดใหม่อีกรอบกันได้ เป็นเกมที่ทำให้เราเซอร์ไพรส์ได้ แม้จะเล่นไปไกลแล้ว สิ่งที่ชื่นชอบอีกอย่าง คือการพยายามไม่ทำให้เกมเพลย์จำเจอยู่กับฉากแบบเดิม ๆ คือปกติแล้ว เกมการเล่นจะทำให้เราเดินจากซ้ายไปขวา ด้วยการเดินเท้า แต่ในบางฉากจะเป็นฉากพิเศษ ที่ทำให้ตัวละครของเราบังคับอุปกรณ์พิเศษ เช่นบอร์ดลอยฟ้า และเปลี่ยนสถานที่ต่อสู้กันเป็นการขับยาน หรือขับรถไล่กัน แม้ภาพรวมของเกมเพลย์จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เกมเพลย์สนุกขึ้น


ข้อเสียนิดหน่อยสำหรับเกมเพลย์คือเรื่องของ Boss Fight เพราะแม้ว่า Boss Fight ของเกมนี้ จะนำเสนอศัตรูที่มีความหลากหลายในด้านการดีไซน์ แต่ในด้านเกมเพลย์นั้น ถือว่าน่าตินิดหน่อย นั่นคือความยากง่ายในการต่อสู้ บางตัวก็ง่ายชนิดที่แค่สแปมปุ่มรัว ๆ ก็ผ่าน บางตัวก็ยากจนต้องจับจังหวะและเรียนรู้ให้ดี หรือบางตัว ไม่เก่งเลย แต่เน้นซัมมอนพวกออกมารุม และใช้การโจมตีกวาดฉาก ทำให้เราต้องหลบหลีก และมีจังหวะสวนกลับได้น้อย หากใครชื่นชอบความท้าทาย จะนับว่าเป็นข้อดีก็ได้ แต่สำหรับผู้เขียนแล้ว รู้สึกว่าความยากมันแก่วงไปพอสมควรเลยทีเดียว

และหากเล่นจนจบแล้ว ยังรู้สึกว่าชีวิตต้องการความท้าทายอยู่ล่ะก็ Arcade Mode ขอต้อนรับ เพราะโหมดนี้จะมาพร้อมเกมการเล่นแบบคลาสสิคสมชื่อ ให้ประสบการณ์เหมือนเราเล่นเกม Arcade หยอดเหรียญสมัยก่อน โหมดนี้จะสามารถ Continued ได้แบบจำกัดจำนวนครั้ง รวมไปถึงไม่มีการเซฟ Progression ระหว่างเล่น เล่นแล้วต้องเอาให้จบ ตายมาก็เริ่มใหม่หมด ใครหวนคิดถึงบรรยากาศยุคเกมอาร์เคดละก็ โหมดนี้ถึงใจแน่นอน


สรุปแล้ว สำหรับคอนเทนต์ของ TMNT: Shredder's Revenge นั้น ถ้าจะเอาให้จบเนื้อเรื่องรอบเดียว ก็อาจจะใช้เวลาไม่นานนัก 2-3 ชั่วโมงก็เพียงพอ แต่ถ้าจะเก็บทุกอย่างให้ครบ รวมไปถึงเล่นซ้ำในโหมด Arcade หรือถ้าชวนเพื่อน ๆ มาสนุกไปด้วยกันแบบจัดเต็ม 6 คน นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งเกมที่ตอบโจทย์ด้านความคุ้มค่า คุ้มราคาอย่างมาก เพราะนี่ก็เป็นเกมอินดี้ที่ไม่ได้มีราคาแพงมากมายอะไรเลย แต่ความสนุกที่ได้นั้น ค่อนข้างคุ้ม หรือเกินราคาไปเลยด้วยซ้ำ

สเปคเบาสบาย เข้าถึงง่าย ไม่ต่างจากเกมเพลย์


นอกจากเกมเพลย์จะเข้าถึงง่ายมาก ๆ แล้ว สิ่งที่น่าชื่นชมพอ ๆ กันเลยคือการ Optimize และปรับแต่งตัวเกมมาให้เข้าถึงได้ง่ายพอ ๆ กัน เพราะเพียงคุณมีคอมพิวเตอร์สักเครื่องก็น่าจะเล่นได้แล้ว โดยตัวเกมต้องการการ์ดจอเพียงการ์ดจอ GTS 450 หรือ R7 250 เท่านั้น หรือจะเป็น Intel HD ออนบอร์ดเลยก็ยังเล่นไหว และใช้แรมเพียง 4GB สเปคแบบนี้ ยุคนี้คิดว่าน่าจะไหวกันหมดอยู่แล้ว

และแม้ว่าเกมจะนำเสนอภาพแบบการ์ตูนพิกเซล ทำให้การปรับ Option ในส่วนของภาพกราฟิกมีไม่ค่อยเยอะนัก แต่เกมก็ใส่ทางเลือกในการปรับการตั้งค่าในส่วนของปุ่มควบคุมมาอย่างละเอียด เพราะเกมนี้ใช้ปุ่มและการควบคุมที่ค่อนข้างเยอะ ผู้เล่นบางคนอาจจะถนัดที่ได้ตั้งค่าปุ่มด้วยตัวเองมากกว่า เกมนี้รองรับได้มากที่สุดเท่าที่จะรับได้แล้ว


เรียกได้ว่าเกมนี้สอบผ่านทั้งในแง่ของเกมเพลย์และประสิทํธิภาพของตัวเกม หากคุณกำลังมองหาเกม Beat em' up / ตะลุยด่านสนุก ๆ ที่เล่นพร้อมกันได้มากถึง 6 คน นาทีนี้ก็ไม่น่ามีเกมไหนตอบโจทย์ได้ดีไปกว่าเกมนี้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวเกมลงให้กับ Xbox / PC Game Pass ที่สามารถดาวน์โหลดมาเล่นกันได้ฟรี ๆ สำหรับคนที่เป็นสมาชิกด้วยแล้วถือว่าคุ้ม หรือจะเสียเงินซื้อมาเล่น ก็ยังคุ้มค่าอยู่ดี


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header