อันนี้ ไม่ถูกเสมอไป เพราะถ้าการ์ดจอคุณแรงมากๆ แต่ CPU กากๆ จะทำเกิดอาการ คอขวด ครับ โดยอาการคอขวด จะเกิดจากการที่ CPU ไม่สามารถประมวลผลตามความเร็วของ GPU ได้ อาการที่มักจะตามมา ก็คือ กระตุกเป็นช่วงๆ ถ้าจะให้ถูกต้องแล้ว CPU กับ GPU ควรจะมีความแรงที่ไม่ต่างกันมากเกินไป หากจะยกตัวอย่างสูตรสําเร็จแล้ว คิดว่าราคาของการ์ดจอมันควรจะมีค่าเป็น 40-45% ของงบที่เรามีส่วน CPU ควรมีค่าเป็น 25-30% ของงบ เช่นถ้างบ 40,000 บาท การ์ดจอก็ควรจะราคา 16,000-18,000 และ CPU ควรจะ 9,000 - 12,000 บาทนั้นเอง แต่ถ้าในกรณีที่คุณมีงบ 80,000 - 90,000 CPU ตัวละ 13,000 - 15,000 มันก็คือแรงสุดๆ แล้ว ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องไปเพิ่มอะไรมากกว่านั้นเอาเงินไปลงการ์ดจอเต็มที่ได้เลย
แรมต้องเยอะเข้าไว้คอมจะได้เร็ว
ไม่เกี่ยวเลย คือแรมเนี่ยมันเป็นหน่วยความจำ สำรอง ถ้าเราเปิดเกมมันจะไปใช้หน่วยความจำของแรมแทนก็คือถ้าจะเปิดหลายๆ โปรแกรมพร้อมเปิดเกมไปด้วยอะใช้ต้องใช้แรมเยอะๆ แต่ถ้าต้องการเปิดเกมเร็วๆ อะมันเรื่องของ BUS แรมต้องเยอะต่างหาก BUS คืออะไร BUS คือความเร็วในการดึงข้อมูลจาก HDD ได้เร็วขนาดไหนนั้นเอง ยิ่ง BUS เยอะเท่าไหรคอมก็เร็วมากขึ้นเท่านั้นด้วย
อันนี้ ไม่ถูกเสมอไป เพราะถ้าการ์ดจอคุณแรงมากๆ แต่ CPU กากๆ จะทำเกิดอาการ คอขวด ครับ โดยอาการคอขวด จะเกิดจากการที่ CPU ไม่สามารถประมวลผลตามความเร็วของ GPU ได้ อาการที่มักจะตามมา ก็คือ กระตุกเป็นช่วงๆ ถ้าจะให้ถูกต้องแล้ว CPU กับ GPU ควรจะมีความแรงที่ไม่ต่างกันมากเกินไป หากจะยกตัวอย่างสูตรสําเร็จแล้ว คิดว่าราคาของการ์ดจอมันควรจะมีค่าเป็น 40-45% ของงบที่เรามีส่วน CPU ควรมีค่าเป็น 25-30% ของงบ เช่นถ้างบ 40,000 บาท การ์ดจอก็ควรจะราคา 16,000-18,000 และ CPU ควรจะ 9,000 - 12,000 บาทนั้นเอง แต่ถ้าในกรณีที่คุณมีงบ 80,000 - 90,000 CPU ตัวละ 13,000 - 15,000 มันก็คือแรงสุดๆ แล้ว ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องไปเพิ่มอะไรมากกว่านั้นเอาเงินไปลงการ์ดจอเต็มที่ได้เลย
แรมต้องเยอะเข้าไว้คอมจะได้เร็ว
ไม่เกี่ยวเลย คือแรมเนี่ยมันเป็นหน่วยความจำ สำรอง ถ้าเราเปิดเกมมันจะไปใช้หน่วยความจำของแรมแทนก็คือถ้าจะเปิดหลายๆ โปรแกรมพร้อมเปิดเกมไปด้วยอะใช้ต้องใช้แรมเยอะๆ แต่ถ้าต้องการเปิดเกมเร็วๆ อะมันเรื่องของ BUS แรมต้องเยอะต่างหาก BUS คืออะไร BUS คือความเร็วในการดึงข้อมูลจาก HDD ได้เร็วขนาดไหนนั้นเอง ยิ่ง BUS เยอะเท่าไหรคอมก็เร็วมากขึ้นเท่านั้นด้วย