GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
บทความ
บทสัมภาษณ์ผู้พัฒนา Dead Space Remake ถึงวิธีการใช้เทคโนโลยี Next-Gen ในการชุบชีวิตเกมสยองขวัญในตำนานกลับมาอีกครั้ง
ลงวันที่ 23/07/2021

Dead Space เป็นแฟรนไชส์สยองขวัญ หนึ่งในตำนานมีชีวิตที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2008 จากฝีมือทีมสร้างอย่าง Visceral Games (ที่ปิดตัวลงไปแล้วในปัจจุบัน) 

และครองใจแฟนๆ มาได้อย่างยาวนานจวบจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งหลังจากที่เงียบหายไปหลายปี โดยไม่มีวี่แววว่าจะมีการประกาศสร้างภาคใหม่ ในที่สุดวันนี้ที่รอคอยก็มาถึง เมื่อ EA ได้ตัดสินใจประกาศคืนชีพเกมนี้กลับมาอีกครั้ง ในฐานะ Dead Space Remake โดยทีมสร้างใหม่อย่าง EA Motive (สตูดิโอที่พัฒนาเกม Star Wars Squadrons) และจะลงให้สำหรับเครื่อง PS5, Xbox Series X / S และ PC


ซึ่งในงาน EA Play Live ที่ผ่านมาทาง EA ก็ได้ปล่อยวิดีโอตัวอย่างสั้นๆ ที่เผยให้เราผู้เล่นได้เห็นบรรยากาศที่ตัวเกมจะนำเสนอ รวมถึงพลังของ engine ที่ใช้พัฒนาในภาค Remake นี้ 


ซึ่งเราก็ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับโปรดิวเซอร์อาวุโสอย่าง Philippe Ducharme และผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์อย่าง Roman Campos-Oriola เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของทีม แนวทางในการพัฒนาที่จะคงเอกลักษณ์ของต้นฉบับเอาไว้ พร้อมๆ กับปรับปรุงระบบอะไรหลายๆ อย่างให้มีความทันสมัยมากขึ้น การเจาะลึกแนวทางในการใช้เทคโนโลยี Next-gen ในการทำให้ USG Ishimura มีชีวิตขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไปจนถึงการที่ตอบรับกระแสของแฟนๆ ในกระบวนการพัฒนา และอื่นๆ อีกมากมาย

การใช้เทคโนโลยี Next-Gen เพื่อนำ Dead Space กลับมามีชีวิตอีกครั้งบนเครื่อง PS5 และ Xbox Series


จากการพูดคุยกับหัวหน้าทีมของ EA Motive ทั้งคู่ก็ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่า มันจะไม่ใช่แค่การปรับปรุงคุณภาพของเกมในเวอร์ชันต้นฉบับเท่านั้น เพราะแม้จะมีการอ้างอิงเอกลักษณ์ดั้งเดิมมา และทำงานโดยใช้ข้อมูลในการพัฒนาจำนวนมาก พวกเขาก็จะสร้างเกมใหม่ทั้งหมดผ่านพลังเทคโนโลยีของ EA อย่าง Frostbite engine



ซึ่งทาง Campos-Oriola ก็ได้อธิบายถึงวิธี ในการอ้างอิงเนื้อหาดั้งเดิมของเกมว่า “เราเริ่มต้นออกแบบโดยการอิงจากภาคดั้งเดิมของ Dead Space ซึ่งจุดที่น่าตลกมากเลยก็คือ เราได้เห็นจุดที่ทำงานซำ้ซ้อนกันอย่างชัดเจน และในช่วงบทแรกคุณก็จะได้เห็นทางเดินที่เขาทำเอาไว้ แล้วก็มาตัดสินใจแก้ไขออกไปด้วยเหตุขัดข้องทางเทคนิคบางอย่างทีหลัง”


“พวกเราไม่ได้จะแก้ไขของเดิมที่มีอยู่แล้ว แต่พวกเราตั้งใจว่าจะสร้างทั้งงานกราฟิก ดนตรีประกอบ ระบบเกมเพลย์ และทุกๆ อย่างใหม่ทั้งหมด รวมถึงการสร้างองค์ประกอบ และถ่ายแอนิเมชันการเคลื่อนไหวใหม่ทั้งหมดอีกด้วย”


แน่นอนว่าในขณะที่ทีมทุ่มเทให้กับการสร้างโลกของการผจญภัยครั้งใหม่ขึ้นมา พวกเขาก็มุ่งความสนใจไปที่การลงเกมให้กับ PC และเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่อย่าง PS5 กับ Xbox Series X / S ด้วย ซึ่งแม้จะเพิ่งเริ่มพัฒนาเท่านั้น ทาง Motive ก็กำลังหาวิธีในการใช้พลังของเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดนี้ให้ได้มากที่สุด เพื่อสร้างประสบการณ์อันเยี่ยมยอดในการเล่น Dead Space ให้ได้เหมือนครั้งที่มันเปิดตัวอย่างเป็นตำนานใน Xbox 360 และ PS3


“เราต้องการจะให้ผู้เล่นได้ดื่มดำ่กับเกมนี้อย่างลึกซึ้งจริงๆ ผ่านประสบการณ์แบบ interactive อย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่หน้าจอเริ่มต้นยาวไปจนถึงวินาทีที่จบเครดิต โดยไม่มีอะไรมาขวางกั้น ซึ่งนั่นก็หมายความว่ามันจะไม่เกิดการโหลดฉาก หรือโหลดอะไรทั้งนั้น ที่จะกลายเป็นการขัดขวางความต่อเนื่องในการเล่นของคุณตั้งแต่ต้นจนจบ (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความเร็วของ SSD ในเครื่องคอนโซลของคุณด้วย)”

“คุณจะสามารถเล่น Dead Space Remake ได้อย่างราบรื่นตั้งแต่ต้นจนจบ”


Ducharme กล่าวว่า “อย่างที่เราได้ประกาศวัตถุประสงค์ของเรา ให้ทุกคนได้ทราบโดยทั่วกันไปแล้ว ว่าสิ่งที่พวกเราพยายามจะทำให้สำเร็จเลยก็คือ การสร้างเกมที่จะทำให้คุณสามารถดิ่มดำ่ไปกับบรรยากาศของมัน และอยากที่จะเล่นให้จบไปเลยรวดเดียว โดยไม่ต้องการที่จะวางจอยในมือลงกลางคัน”


ซึ่งกุญแจสำคัญที่จะสร้างบรรยากาศแบบนั้นขึ้นมาเลยก็คือ การที่เราเก็บทุกรายละเอียดดั้งเดิมเกี่ยวกับตัวเอกอย่าง Isaac Clarke ทั้งหลอดเลือด ระบบ inventory และส่วนอื่นๆ เอาไว้ โดย EA Motive ก็ตั้งเป้าที่จะรักษาสิ่งเดิมที่ดีอยู่แล้วเอาไว้ และปรับปรุง UI กับความสามารถของ Dead Space ให้ดีมากขึ้น แต่สำหรับตรงส่วนนี้ก็ยังไม่ได้มีการให้รายละเอียดเพิ่มเติมอะไรมากไปกว่านี้ค่ะ



แน่นอนว่าการนำเทคโนโลยีล่าสุดมาใช้ในการพัฒนา มันก็หมายรวมไปถึงการปรับปรุงคุณภาพกราฟิกและระบบเสียงด้วย โดยทั้ง Ducharme และ Campos-Oriola ก็ได้อธิบายเพิ่มเติมตรงจุดนี้ว่า “สิ่งที่สำคัญจริงๆ เลยก็คือ การที่เราจะสามารถคงเอกลักษณ์เฉพาะของ Dead Space เอาไว้ได้ ทั้งบรรยากาศความ sci-fi ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งผสมปนเปไปกับความเกรอะกรังคราบสนิทสกปรก ที่บ่งบอกระยะเวลาการคงอยู่มาอย่างยาวนานของมัน”


โดย Campos-Oriola ก็ได้มีการกล่าวเสริมว่า “การที่ภาพดูสกปรก และเติมเต็มด้วยกลิ่นอายของความเป็นอุตสาหกรรม ซึ่งเราจะสามารถทำให้สมจริงได้มากขึ้น ด้วยพลังของเทคโนโลยีตัวใหม่ล่าสุด จะเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศของเกมให้ยอดเยี่ยมมากยิ่งขึ้น”


“จริงๆ แล้วทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นจากเนื้อหาดั้งเดิมของตัวเกม” Ducharme กล่าวในตอนที่เขาเริ่มอธิบายถึงแนวทางในการอ้างอิงแนวคิด และการออกแบบของทีมงาน ในช่วงที่เริ่มสร้างวิดีโอตัวอย่างภาค Remake “พวกเราต้องทำให้แน่ใจว่าการพัฒนาในครั้งนี้ จะเป็นการเจาะลึกลงไปในความเป็น Dead Space จริงๆ ไม่ใช่แค่การปรับปรุงคุณภาพกราฟิกให้สวยขึ้น แต่จะต้องสามารถถ่ายทอดความเป็น Dead Space ออกมาได้อย่างแท้จริง ผ่านทั้งเอฟเฟกต์ dynamic ของแสง และองค์ประกอบทุกอย่าง ที่จะทำให้เราสามารถถ่ายทอดบรรยากาศของเกมออกมาได้อย่างเต็มที่”

“เราต้องทำให้แน่ใจว่าการพัฒนาภาค Remake ในครั้งนี้จะเป็นการเจาะลึกไปถึงเนื้อแท้ของความเป็น Dead Space จริงๆ”


ซึ่งวิธีการพัฒนานั้น ก็ไม่ใช่แค่เพียงการทุ่มเทความสามารถทั้งหมดลงไปให้กับการ Remake เพียงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการทำให้มั่นใจว่า Ishimura จะฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้งด้วย


“พวกเราต้องการใช้ดนตรีประกอบที่ผู้เล่นคุ้นเคย และปรับปรุงให้มันดีขึ้น เพื่อให้คุณสามารถดื่มดำ่กับบรรยากาศของเกมได้อย่างเต็มที่...ทั้งเสียงเปิดประตู เสียงหลอดเลือด ไปจนถึงเสียงสิ่งมีชีวิตต่างๆ โดยเราจะปรับให้ทุกอย่างยอดเยี่ยมขึ้น โดยยังคำนึงถึงเอกลักษณ์ดั้งเดิมเอาไว้อยู่” Ducharme กล่าว ขณะที่อธิบายว่าการเพิ่มระบบเสียงแบบ 3D จะสามารถเพิ่มประสบการณ์ในการเล่นเกมได้อย่างไรบ้าง


“ระบบเสียงแบบ 3D จะช่วยทำให้เราจับทิศทางของแหล่งกำเนิดเสียงได้อย่างชัดเจนขึ้น ทำให้คุณสามารถคาดเดาได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น หรืออะไรก็ตามที่กำลังจะตามมานั้น จะเข้ามาในทิศทางไหนกันแน่”

อนาคตที่กำลังจะมาถึงจากอดีตที่ผ่านมา


นักพัฒนาทั้งสองได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าพวกเขาตั้งใจ จะมุ่งเน้นการพัฒนาไปในแนวทางของการสร้าง Dead Space ภาคดั้งเดิมขึ้นมาใหม่ ซึ่งในขณะนี้พวกเขาก็ได้มีการพยายามจัดวางเรื่องราวที่เคยเล่าเอาไว้ในภาคต้นฉบับ เพื่อนำมาใช้ในการหาแนวทางในการเสริม concept ใหม่เพิ่มเติมเข้าไป


“สำหรับเราแล้ว รากฐานสำคัญที่นำมาใช้เป็นมาตรฐานในการพัฒนาเกมเลยก็คือตัวเกมในภาคหนึ่ง แต่เราก็จะทำการปรับปรุงเพื่อเพิ่มเติมบางอย่าง ที่พวกเราต้องการจะนำเสนอเข้าไปด้วย” Campos-Oriola กล่าว 



“เรากำลังเริ่มทำงานจากมุมมองของการเล่าเรื่องเป็นหลัก แต่ในขณะเดียวกันเราก็ยังคำนึงถึงจุดยืนของฟีเจอร์ และคอนเทนต์บางส่วนด้วยตลอดทั้งการพัฒนา โดยเรียนรู้จากข้อผิดพลาดต่างๆ ไปด้วยในตัว” Ducharme กล่าว และยืนยันว่ายังไม่มีแผนที่จะนำ microtransactions มาใช้ในการพัฒนาตัวเกมเลยแต่อย่างใด


นี่คือความเป็นไปล่าสุดที่ทาง EA ตั้งใจจะทำเพื่อชดเชยให้กับข้อผิดพลาดของ microtransactions เมื่อหลายปีก่อน ยกตัวอย่างเช่น การใส่ microtransactions ลงใน Dead Space 3 และ Star Wars Battlefront II ที่สุดท้ายก็โดนลบออกไป ซึ่งทางหัวหน้าสตูดิโออย่าง Laura Miele ก็ได้มีการอธิบายกับทาง IGN ว่าปัจจุบันบริษัทตั้งเป้าที่จะนำเสนอประสบการณ์ต่างๆ ออกไปในวงกว้าง ผ่านรูปแบบธุรกิจที่แตกต่างกันไปในแต่ละเกม 



“เราต้องการพัฒนาเกมที่มอบประสบการณ์ที่ตรงตามความต้องการของผู้เล่น ซึ่งบางครั้งก็อาจเป็นประสบการณ์จากการเสพเนื้อเรื่องของผู้เล่น ซึ่งพวกเขาจะสามารถดำดิ่งลงไปในเรื่องราวของโลกที่ถูกนำเสนอออกมาได้อย่างแท้จริง” Miele กล่าว “ในขณะที่ผู้เล่นคนอื่นๆ ก็ต้องการที่จะให้เราปล่อยคอนเทนต์และอีเวนท์ใหม่ๆ ออกมาในทุกๆ วันในช่วงการตรีมงาน EA Play Live ยกตัวอย่างเช่น Star Wars: Galaxy of Heroes, The Sims, Apex และ FIFA เป็นต้น ซึ่งหากเราต้องการจะให้พวกเขาเลือกเกมของ EA เราก็จะต้องสร้างเกมที่พวกเขาอยากจะเล่นออกมา โดยมุ่งมั่นที่จะทำให้ผู้เล่นของเรา รู้สึกประหลาดใจและพึงพอใจกับประสบการณ์ ที่ได้รับจากเกมของเราให้ได้มากที่สุด”


ในตอนนี้ก็ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกมเพลย์อะไรออกมามากมาย แต่ผู้พัฒนาทั้งสองก็นำเสนอแนวคิดบางอย่างของทีม เกี่ยวกับการปรับปรุงเกมเพลย์ของตัวเกมในภาคต้นฉบับ ที่อาจได้แนวคิดมาจากตัวเกมในภาคอื่นๆ



นอกจากนั้น Campos-Oriola ยังได้กล่าวเสริมอีกว่า พวกเขาจะพัฒนาความสามารถในการแยกขิ้นส่วนแขนขาศัตรูของ Isaac ให้ยอดเยี่ยมขึ้น ซึ่งพวกเขาไม่ได้จะทำให้มันน่ากลัวขึ้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่พวกเขาก็ยังหวังว่าจะสามารถพัฒนาระบบการต่อสู้ควบคู่ไปด้วยกัน เพื่อให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับตัวเกมมากยิ่งขึ้นอีกด้วย 


“สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากไม่แพ้กันสำหรับเรา ซึ่งตัวเกมไม่มีเมื่อ 12 ปีก่อน ก็คือทางเลือกและวิธีการที่หลากหลายในการหาทางไปต่อ ซึ่งองค์ประกอบเหล่านั้นจะช่วยเปิดประสบการณ์ในการเล่น Dead Space ให้กับผู้เล่นได้หลากหลายกลุ่มมากขึ้น ทั้งผู้เล่นเก่าและผู้เล่นที่ไม่มีโอกาสได้ลองสัมผัสกับตัวเกมภาคแรกมาก่อนเลย”

แล้วส่วนที่เกี่ยวข้องกับแฟนๆ ของเกม Dead Space ล่ะ


เกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้ง Ducharme และ Campos-Oriola ซึ่งเป็นแฟนเกม Dead Space มาอย่างยาวนาน ก็ได้ยืนยันว่าจิตใจอันเร่าร้อนของความเป็นแฟนเกมนั้น ได้สะท้อนไปทั่วทั้งทีมแล้ว เพราะอันที่จริงโปรเจกต์นี้ก็เรียกได้ว่าเกิดมาจากความหลงใหลของ Patrick Klaus แห่ง EA Motive เลยก็ว่าได้ 


“มันเป็นทั้งแรงจูงใจและความหลงใหลใน Dead Space ของ Patrick Klaus โดยเฉพาะเลยจริงๆ ในตอนที่เขานำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับโปรเจกต์นี้ขึ้นมาเมื่อสองสามปีก่อน” Miele กล่าว “ทางสตูดิโอเองก็มีงานที่ต่อคิวให้ทำอยู่มากมาย แต่ในขณะเดียวกันพวกเราก็อยากที่จะทำโปรเจกต์นี้มาตลอดเลยเหมือนกัน ซึ่งจากการที่ทาง Motive ได้สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่าง Star Wars: Squadrons เอาไว้เมื่อปีที่แล้ว บวกกับความเชี่ยวชาญในการพัฒนาเกมประเภทแอคชันของพวกเขา ก็ทำให้เราตัดสินใจได้ว่าทีมของพวกเขาเหมาะสมแล้ว ที่จะเป็นผู้รับผิดชอบโปรเจกต์ Dead Space นี้”



แต่อย่างไรก็ดีทาง Motive ก็ไม่ได้มีแต่เพียงแฟนๆ เกมในทีมพัฒนาเท่านั้น แต่มันยังดึงดูดแฟนเกม Dead Space มาร่วมด้วยช่วยกันแนะนำกระบวนการในการพัฒนาอย่างแข็งขันอีกด้วย เช่นเดียวกันกับเกม Command and Conquer Remastered และ Skate


“เราไม่ต้องการที่จะทำงานแค่กับทีมตัวเอง และฟังแค่ความเห็นภายในทีมเท่านั้น เราจึงติดต่อกับชุมชนของผู้เล่น เพื่อสร้างสภาที่จะเป็นกระดานเสียง ที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับงานที่เรากำลังทำอยู่ เพื่อเช็กให้แน่ใจว่าแนวทางของเรา จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้เล่นได้ หรือส่วนไหนที่เปลี่ยนไปแล้วจะไม่เป็นที่ถูกใจ” Ducharme อธิบาย “ซึ่งเราก็ได้รับข้อเสนอแนะมามากมาย และพวกเราก็พยายามจะติดต่อกับพวกเขาอยู่เสมอ 2-3 สัปดาห์ เพื่อโชว์คอนเทนต์ที่มีและรับฟังความคิดเห็นของพวกเขา และนำมาปรับใช้ในการพัฒนาโปรเจกต์ต่อไป”



“มันมีองค์ประกอบมากมายที่พร้อมจะนำเสนอความน่าหวาดกลัวภายในงานของเรา แต่ก็อย่างที่ Phil พูดนั่นแหละ สิ่งที่ยอดเยี่ยมจริงๆ หรือการค้นพบแนวทางอะไรใหม่ๆ ที่บางครั้งมันก็อาจจะมาจากการอ่าน Reddit สองอาทิตย์หลังเกมเปิดตัวก็ได้” Campos-Oriola กล่าว “แต่อย่างไรก็ดีการพูดคุยนี้ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ช่วยเสริมกำลังใจให้กับทีมได้เช่นกัน เมื่อแนวคิดอะไรสักอย่างได้รับการตอบรับในแง่บวก และได้รับคำชมจากแฟนๆ เกมกลับมา”


“เมื่อพูดถึงจักรวาลเกมที่มีฐานแฟนที่แข็งแกร่งมากขนาดนี้ การรับฟังเสียงความต้องการของพวกเขา และรวบรวมมาใช้พิจารณาขณะกำลังพัฒนาผลงานนั้นเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญ เพราะแฟนเกมย่อมจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับเกมและตัวละครอย่างลึกซึ้ง รวมไปถึงประสบการณ์ที่พวกเขาต้องการจากเกมอีกด้วย” Miele กล่าว “ซึ่งอีกหนึ่งตัวอย่างนอกจาก Command and Conquer Remastered และ Skate เลยก็คือ Mass Effect Legendary Edition ที่พวกเราตัดสินใจพัฒนาตามความคิดเห็นของแฟนๆ เพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นว่าเรากำลังสร้างเกมไปในทิศทางที่พวกเขาอยากจะเห็นอยู่จริงๆ”


“สิ่งที่พวกเรากำลังทำกันอยู่นี้ คือการ Remake เกมสยองขวัญเอาชีวิตรอดในตำนานกลับขึ้นมาอีกครั้ง และการจะทำมันออกมาได้ เราก็ต้องทำงานร่วมกับชุมชนแฟนเกม แม้ว่าผมจะไม่เคยมีโอกาสทำงานในเกมแนวนี้มาก่อนเลย และเมื่อได้ลองพูดคุยกับคนใน Motive เขาก็พูดตอบผมว่าสองคำว่า Dead SpaceCampos-Oriola กล่าว 


“เกมนี้จะเป็นเหมือนดั่งจดหมายรักจากเราถึงเหล่าแฟนๆ และเราเองก็เป็นหนึ่งในแฟนเกมนี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นเราก็หวังว่าด้วยความหลงใหลที่เรามีให้กับซีรีส์ Dead Space จะทำให้เราสามารถแปลงมันออกมาเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมต่อไปได้ในอนาคต” Ducharme กล่าว


Credit: IGN



GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทสัมภาษณ์ผู้พัฒนา Dead Space Remake ถึงวิธีการใช้เทคโนโลยี Next-Gen ในการชุบชีวิตเกมสยองขวัญในตำนานกลับมาอีกครั้ง
23/07/2021

Dead Space เป็นแฟรนไชส์สยองขวัญ หนึ่งในตำนานมีชีวิตที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2008 จากฝีมือทีมสร้างอย่าง Visceral Games (ที่ปิดตัวลงไปแล้วในปัจจุบัน) 

และครองใจแฟนๆ มาได้อย่างยาวนานจวบจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งหลังจากที่เงียบหายไปหลายปี โดยไม่มีวี่แววว่าจะมีการประกาศสร้างภาคใหม่ ในที่สุดวันนี้ที่รอคอยก็มาถึง เมื่อ EA ได้ตัดสินใจประกาศคืนชีพเกมนี้กลับมาอีกครั้ง ในฐานะ Dead Space Remake โดยทีมสร้างใหม่อย่าง EA Motive (สตูดิโอที่พัฒนาเกม Star Wars Squadrons) และจะลงให้สำหรับเครื่อง PS5, Xbox Series X / S และ PC


ซึ่งในงาน EA Play Live ที่ผ่านมาทาง EA ก็ได้ปล่อยวิดีโอตัวอย่างสั้นๆ ที่เผยให้เราผู้เล่นได้เห็นบรรยากาศที่ตัวเกมจะนำเสนอ รวมถึงพลังของ engine ที่ใช้พัฒนาในภาค Remake นี้ 


ซึ่งเราก็ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับโปรดิวเซอร์อาวุโสอย่าง Philippe Ducharme และผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์อย่าง Roman Campos-Oriola เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของทีม แนวทางในการพัฒนาที่จะคงเอกลักษณ์ของต้นฉบับเอาไว้ พร้อมๆ กับปรับปรุงระบบอะไรหลายๆ อย่างให้มีความทันสมัยมากขึ้น การเจาะลึกแนวทางในการใช้เทคโนโลยี Next-gen ในการทำให้ USG Ishimura มีชีวิตขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไปจนถึงการที่ตอบรับกระแสของแฟนๆ ในกระบวนการพัฒนา และอื่นๆ อีกมากมาย

การใช้เทคโนโลยี Next-Gen เพื่อนำ Dead Space กลับมามีชีวิตอีกครั้งบนเครื่อง PS5 และ Xbox Series


จากการพูดคุยกับหัวหน้าทีมของ EA Motive ทั้งคู่ก็ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่า มันจะไม่ใช่แค่การปรับปรุงคุณภาพของเกมในเวอร์ชันต้นฉบับเท่านั้น เพราะแม้จะมีการอ้างอิงเอกลักษณ์ดั้งเดิมมา และทำงานโดยใช้ข้อมูลในการพัฒนาจำนวนมาก พวกเขาก็จะสร้างเกมใหม่ทั้งหมดผ่านพลังเทคโนโลยีของ EA อย่าง Frostbite engine



ซึ่งทาง Campos-Oriola ก็ได้อธิบายถึงวิธี ในการอ้างอิงเนื้อหาดั้งเดิมของเกมว่า “เราเริ่มต้นออกแบบโดยการอิงจากภาคดั้งเดิมของ Dead Space ซึ่งจุดที่น่าตลกมากเลยก็คือ เราได้เห็นจุดที่ทำงานซำ้ซ้อนกันอย่างชัดเจน และในช่วงบทแรกคุณก็จะได้เห็นทางเดินที่เขาทำเอาไว้ แล้วก็มาตัดสินใจแก้ไขออกไปด้วยเหตุขัดข้องทางเทคนิคบางอย่างทีหลัง”


“พวกเราไม่ได้จะแก้ไขของเดิมที่มีอยู่แล้ว แต่พวกเราตั้งใจว่าจะสร้างทั้งงานกราฟิก ดนตรีประกอบ ระบบเกมเพลย์ และทุกๆ อย่างใหม่ทั้งหมด รวมถึงการสร้างองค์ประกอบ และถ่ายแอนิเมชันการเคลื่อนไหวใหม่ทั้งหมดอีกด้วย”


แน่นอนว่าในขณะที่ทีมทุ่มเทให้กับการสร้างโลกของการผจญภัยครั้งใหม่ขึ้นมา พวกเขาก็มุ่งความสนใจไปที่การลงเกมให้กับ PC และเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่อย่าง PS5 กับ Xbox Series X / S ด้วย ซึ่งแม้จะเพิ่งเริ่มพัฒนาเท่านั้น ทาง Motive ก็กำลังหาวิธีในการใช้พลังของเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดนี้ให้ได้มากที่สุด เพื่อสร้างประสบการณ์อันเยี่ยมยอดในการเล่น Dead Space ให้ได้เหมือนครั้งที่มันเปิดตัวอย่างเป็นตำนานใน Xbox 360 และ PS3


“เราต้องการจะให้ผู้เล่นได้ดื่มดำ่กับเกมนี้อย่างลึกซึ้งจริงๆ ผ่านประสบการณ์แบบ interactive อย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่หน้าจอเริ่มต้นยาวไปจนถึงวินาทีที่จบเครดิต โดยไม่มีอะไรมาขวางกั้น ซึ่งนั่นก็หมายความว่ามันจะไม่เกิดการโหลดฉาก หรือโหลดอะไรทั้งนั้น ที่จะกลายเป็นการขัดขวางความต่อเนื่องในการเล่นของคุณตั้งแต่ต้นจนจบ (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความเร็วของ SSD ในเครื่องคอนโซลของคุณด้วย)”

“คุณจะสามารถเล่น Dead Space Remake ได้อย่างราบรื่นตั้งแต่ต้นจนจบ”


Ducharme กล่าวว่า “อย่างที่เราได้ประกาศวัตถุประสงค์ของเรา ให้ทุกคนได้ทราบโดยทั่วกันไปแล้ว ว่าสิ่งที่พวกเราพยายามจะทำให้สำเร็จเลยก็คือ การสร้างเกมที่จะทำให้คุณสามารถดิ่มดำ่ไปกับบรรยากาศของมัน และอยากที่จะเล่นให้จบไปเลยรวดเดียว โดยไม่ต้องการที่จะวางจอยในมือลงกลางคัน”


ซึ่งกุญแจสำคัญที่จะสร้างบรรยากาศแบบนั้นขึ้นมาเลยก็คือ การที่เราเก็บทุกรายละเอียดดั้งเดิมเกี่ยวกับตัวเอกอย่าง Isaac Clarke ทั้งหลอดเลือด ระบบ inventory และส่วนอื่นๆ เอาไว้ โดย EA Motive ก็ตั้งเป้าที่จะรักษาสิ่งเดิมที่ดีอยู่แล้วเอาไว้ และปรับปรุง UI กับความสามารถของ Dead Space ให้ดีมากขึ้น แต่สำหรับตรงส่วนนี้ก็ยังไม่ได้มีการให้รายละเอียดเพิ่มเติมอะไรมากไปกว่านี้ค่ะ



แน่นอนว่าการนำเทคโนโลยีล่าสุดมาใช้ในการพัฒนา มันก็หมายรวมไปถึงการปรับปรุงคุณภาพกราฟิกและระบบเสียงด้วย โดยทั้ง Ducharme และ Campos-Oriola ก็ได้อธิบายเพิ่มเติมตรงจุดนี้ว่า “สิ่งที่สำคัญจริงๆ เลยก็คือ การที่เราจะสามารถคงเอกลักษณ์เฉพาะของ Dead Space เอาไว้ได้ ทั้งบรรยากาศความ sci-fi ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งผสมปนเปไปกับความเกรอะกรังคราบสนิทสกปรก ที่บ่งบอกระยะเวลาการคงอยู่มาอย่างยาวนานของมัน”


โดย Campos-Oriola ก็ได้มีการกล่าวเสริมว่า “การที่ภาพดูสกปรก และเติมเต็มด้วยกลิ่นอายของความเป็นอุตสาหกรรม ซึ่งเราจะสามารถทำให้สมจริงได้มากขึ้น ด้วยพลังของเทคโนโลยีตัวใหม่ล่าสุด จะเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศของเกมให้ยอดเยี่ยมมากยิ่งขึ้น”


“จริงๆ แล้วทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นจากเนื้อหาดั้งเดิมของตัวเกม” Ducharme กล่าวในตอนที่เขาเริ่มอธิบายถึงแนวทางในการอ้างอิงแนวคิด และการออกแบบของทีมงาน ในช่วงที่เริ่มสร้างวิดีโอตัวอย่างภาค Remake “พวกเราต้องทำให้แน่ใจว่าการพัฒนาในครั้งนี้ จะเป็นการเจาะลึกลงไปในความเป็น Dead Space จริงๆ ไม่ใช่แค่การปรับปรุงคุณภาพกราฟิกให้สวยขึ้น แต่จะต้องสามารถถ่ายทอดความเป็น Dead Space ออกมาได้อย่างแท้จริง ผ่านทั้งเอฟเฟกต์ dynamic ของแสง และองค์ประกอบทุกอย่าง ที่จะทำให้เราสามารถถ่ายทอดบรรยากาศของเกมออกมาได้อย่างเต็มที่”

“เราต้องทำให้แน่ใจว่าการพัฒนาภาค Remake ในครั้งนี้จะเป็นการเจาะลึกไปถึงเนื้อแท้ของความเป็น Dead Space จริงๆ”


ซึ่งวิธีการพัฒนานั้น ก็ไม่ใช่แค่เพียงการทุ่มเทความสามารถทั้งหมดลงไปให้กับการ Remake เพียงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการทำให้มั่นใจว่า Ishimura จะฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้งด้วย


“พวกเราต้องการใช้ดนตรีประกอบที่ผู้เล่นคุ้นเคย และปรับปรุงให้มันดีขึ้น เพื่อให้คุณสามารถดื่มดำ่กับบรรยากาศของเกมได้อย่างเต็มที่...ทั้งเสียงเปิดประตู เสียงหลอดเลือด ไปจนถึงเสียงสิ่งมีชีวิตต่างๆ โดยเราจะปรับให้ทุกอย่างยอดเยี่ยมขึ้น โดยยังคำนึงถึงเอกลักษณ์ดั้งเดิมเอาไว้อยู่” Ducharme กล่าว ขณะที่อธิบายว่าการเพิ่มระบบเสียงแบบ 3D จะสามารถเพิ่มประสบการณ์ในการเล่นเกมได้อย่างไรบ้าง


“ระบบเสียงแบบ 3D จะช่วยทำให้เราจับทิศทางของแหล่งกำเนิดเสียงได้อย่างชัดเจนขึ้น ทำให้คุณสามารถคาดเดาได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น หรืออะไรก็ตามที่กำลังจะตามมานั้น จะเข้ามาในทิศทางไหนกันแน่”

อนาคตที่กำลังจะมาถึงจากอดีตที่ผ่านมา


นักพัฒนาทั้งสองได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าพวกเขาตั้งใจ จะมุ่งเน้นการพัฒนาไปในแนวทางของการสร้าง Dead Space ภาคดั้งเดิมขึ้นมาใหม่ ซึ่งในขณะนี้พวกเขาก็ได้มีการพยายามจัดวางเรื่องราวที่เคยเล่าเอาไว้ในภาคต้นฉบับ เพื่อนำมาใช้ในการหาแนวทางในการเสริม concept ใหม่เพิ่มเติมเข้าไป


“สำหรับเราแล้ว รากฐานสำคัญที่นำมาใช้เป็นมาตรฐานในการพัฒนาเกมเลยก็คือตัวเกมในภาคหนึ่ง แต่เราก็จะทำการปรับปรุงเพื่อเพิ่มเติมบางอย่าง ที่พวกเราต้องการจะนำเสนอเข้าไปด้วย” Campos-Oriola กล่าว 



“เรากำลังเริ่มทำงานจากมุมมองของการเล่าเรื่องเป็นหลัก แต่ในขณะเดียวกันเราก็ยังคำนึงถึงจุดยืนของฟีเจอร์ และคอนเทนต์บางส่วนด้วยตลอดทั้งการพัฒนา โดยเรียนรู้จากข้อผิดพลาดต่างๆ ไปด้วยในตัว” Ducharme กล่าว และยืนยันว่ายังไม่มีแผนที่จะนำ microtransactions มาใช้ในการพัฒนาตัวเกมเลยแต่อย่างใด


นี่คือความเป็นไปล่าสุดที่ทาง EA ตั้งใจจะทำเพื่อชดเชยให้กับข้อผิดพลาดของ microtransactions เมื่อหลายปีก่อน ยกตัวอย่างเช่น การใส่ microtransactions ลงใน Dead Space 3 และ Star Wars Battlefront II ที่สุดท้ายก็โดนลบออกไป ซึ่งทางหัวหน้าสตูดิโออย่าง Laura Miele ก็ได้มีการอธิบายกับทาง IGN ว่าปัจจุบันบริษัทตั้งเป้าที่จะนำเสนอประสบการณ์ต่างๆ ออกไปในวงกว้าง ผ่านรูปแบบธุรกิจที่แตกต่างกันไปในแต่ละเกม 



“เราต้องการพัฒนาเกมที่มอบประสบการณ์ที่ตรงตามความต้องการของผู้เล่น ซึ่งบางครั้งก็อาจเป็นประสบการณ์จากการเสพเนื้อเรื่องของผู้เล่น ซึ่งพวกเขาจะสามารถดำดิ่งลงไปในเรื่องราวของโลกที่ถูกนำเสนอออกมาได้อย่างแท้จริง” Miele กล่าว “ในขณะที่ผู้เล่นคนอื่นๆ ก็ต้องการที่จะให้เราปล่อยคอนเทนต์และอีเวนท์ใหม่ๆ ออกมาในทุกๆ วันในช่วงการตรีมงาน EA Play Live ยกตัวอย่างเช่น Star Wars: Galaxy of Heroes, The Sims, Apex และ FIFA เป็นต้น ซึ่งหากเราต้องการจะให้พวกเขาเลือกเกมของ EA เราก็จะต้องสร้างเกมที่พวกเขาอยากจะเล่นออกมา โดยมุ่งมั่นที่จะทำให้ผู้เล่นของเรา รู้สึกประหลาดใจและพึงพอใจกับประสบการณ์ ที่ได้รับจากเกมของเราให้ได้มากที่สุด”


ในตอนนี้ก็ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกมเพลย์อะไรออกมามากมาย แต่ผู้พัฒนาทั้งสองก็นำเสนอแนวคิดบางอย่างของทีม เกี่ยวกับการปรับปรุงเกมเพลย์ของตัวเกมในภาคต้นฉบับ ที่อาจได้แนวคิดมาจากตัวเกมในภาคอื่นๆ



นอกจากนั้น Campos-Oriola ยังได้กล่าวเสริมอีกว่า พวกเขาจะพัฒนาความสามารถในการแยกขิ้นส่วนแขนขาศัตรูของ Isaac ให้ยอดเยี่ยมขึ้น ซึ่งพวกเขาไม่ได้จะทำให้มันน่ากลัวขึ้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่พวกเขาก็ยังหวังว่าจะสามารถพัฒนาระบบการต่อสู้ควบคู่ไปด้วยกัน เพื่อให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับตัวเกมมากยิ่งขึ้นอีกด้วย 


“สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากไม่แพ้กันสำหรับเรา ซึ่งตัวเกมไม่มีเมื่อ 12 ปีก่อน ก็คือทางเลือกและวิธีการที่หลากหลายในการหาทางไปต่อ ซึ่งองค์ประกอบเหล่านั้นจะช่วยเปิดประสบการณ์ในการเล่น Dead Space ให้กับผู้เล่นได้หลากหลายกลุ่มมากขึ้น ทั้งผู้เล่นเก่าและผู้เล่นที่ไม่มีโอกาสได้ลองสัมผัสกับตัวเกมภาคแรกมาก่อนเลย”

แล้วส่วนที่เกี่ยวข้องกับแฟนๆ ของเกม Dead Space ล่ะ


เกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้ง Ducharme และ Campos-Oriola ซึ่งเป็นแฟนเกม Dead Space มาอย่างยาวนาน ก็ได้ยืนยันว่าจิตใจอันเร่าร้อนของความเป็นแฟนเกมนั้น ได้สะท้อนไปทั่วทั้งทีมแล้ว เพราะอันที่จริงโปรเจกต์นี้ก็เรียกได้ว่าเกิดมาจากความหลงใหลของ Patrick Klaus แห่ง EA Motive เลยก็ว่าได้ 


“มันเป็นทั้งแรงจูงใจและความหลงใหลใน Dead Space ของ Patrick Klaus โดยเฉพาะเลยจริงๆ ในตอนที่เขานำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับโปรเจกต์นี้ขึ้นมาเมื่อสองสามปีก่อน” Miele กล่าว “ทางสตูดิโอเองก็มีงานที่ต่อคิวให้ทำอยู่มากมาย แต่ในขณะเดียวกันพวกเราก็อยากที่จะทำโปรเจกต์นี้มาตลอดเลยเหมือนกัน ซึ่งจากการที่ทาง Motive ได้สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่าง Star Wars: Squadrons เอาไว้เมื่อปีที่แล้ว บวกกับความเชี่ยวชาญในการพัฒนาเกมประเภทแอคชันของพวกเขา ก็ทำให้เราตัดสินใจได้ว่าทีมของพวกเขาเหมาะสมแล้ว ที่จะเป็นผู้รับผิดชอบโปรเจกต์ Dead Space นี้”



แต่อย่างไรก็ดีทาง Motive ก็ไม่ได้มีแต่เพียงแฟนๆ เกมในทีมพัฒนาเท่านั้น แต่มันยังดึงดูดแฟนเกม Dead Space มาร่วมด้วยช่วยกันแนะนำกระบวนการในการพัฒนาอย่างแข็งขันอีกด้วย เช่นเดียวกันกับเกม Command and Conquer Remastered และ Skate


“เราไม่ต้องการที่จะทำงานแค่กับทีมตัวเอง และฟังแค่ความเห็นภายในทีมเท่านั้น เราจึงติดต่อกับชุมชนของผู้เล่น เพื่อสร้างสภาที่จะเป็นกระดานเสียง ที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับงานที่เรากำลังทำอยู่ เพื่อเช็กให้แน่ใจว่าแนวทางของเรา จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้เล่นได้ หรือส่วนไหนที่เปลี่ยนไปแล้วจะไม่เป็นที่ถูกใจ” Ducharme อธิบาย “ซึ่งเราก็ได้รับข้อเสนอแนะมามากมาย และพวกเราก็พยายามจะติดต่อกับพวกเขาอยู่เสมอ 2-3 สัปดาห์ เพื่อโชว์คอนเทนต์ที่มีและรับฟังความคิดเห็นของพวกเขา และนำมาปรับใช้ในการพัฒนาโปรเจกต์ต่อไป”



“มันมีองค์ประกอบมากมายที่พร้อมจะนำเสนอความน่าหวาดกลัวภายในงานของเรา แต่ก็อย่างที่ Phil พูดนั่นแหละ สิ่งที่ยอดเยี่ยมจริงๆ หรือการค้นพบแนวทางอะไรใหม่ๆ ที่บางครั้งมันก็อาจจะมาจากการอ่าน Reddit สองอาทิตย์หลังเกมเปิดตัวก็ได้” Campos-Oriola กล่าว “แต่อย่างไรก็ดีการพูดคุยนี้ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ช่วยเสริมกำลังใจให้กับทีมได้เช่นกัน เมื่อแนวคิดอะไรสักอย่างได้รับการตอบรับในแง่บวก และได้รับคำชมจากแฟนๆ เกมกลับมา”


“เมื่อพูดถึงจักรวาลเกมที่มีฐานแฟนที่แข็งแกร่งมากขนาดนี้ การรับฟังเสียงความต้องการของพวกเขา และรวบรวมมาใช้พิจารณาขณะกำลังพัฒนาผลงานนั้นเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญ เพราะแฟนเกมย่อมจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับเกมและตัวละครอย่างลึกซึ้ง รวมไปถึงประสบการณ์ที่พวกเขาต้องการจากเกมอีกด้วย” Miele กล่าว “ซึ่งอีกหนึ่งตัวอย่างนอกจาก Command and Conquer Remastered และ Skate เลยก็คือ Mass Effect Legendary Edition ที่พวกเราตัดสินใจพัฒนาตามความคิดเห็นของแฟนๆ เพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นว่าเรากำลังสร้างเกมไปในทิศทางที่พวกเขาอยากจะเห็นอยู่จริงๆ”


“สิ่งที่พวกเรากำลังทำกันอยู่นี้ คือการ Remake เกมสยองขวัญเอาชีวิตรอดในตำนานกลับขึ้นมาอีกครั้ง และการจะทำมันออกมาได้ เราก็ต้องทำงานร่วมกับชุมชนแฟนเกม แม้ว่าผมจะไม่เคยมีโอกาสทำงานในเกมแนวนี้มาก่อนเลย และเมื่อได้ลองพูดคุยกับคนใน Motive เขาก็พูดตอบผมว่าสองคำว่า Dead SpaceCampos-Oriola กล่าว 


“เกมนี้จะเป็นเหมือนดั่งจดหมายรักจากเราถึงเหล่าแฟนๆ และเราเองก็เป็นหนึ่งในแฟนเกมนี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นเราก็หวังว่าด้วยความหลงใหลที่เรามีให้กับซีรีส์ Dead Space จะทำให้เราสามารถแปลงมันออกมาเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมต่อไปได้ในอนาคต” Ducharme กล่าว


Credit: IGN



บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header