เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ทางผู้พัฒนา CD PROJEKT RED ได้ออกอากาศรายการ Night City Wire #5 จนจบ ก็มีสื่อมวลชนจากต่างประเทศหลายๆ สำนักที่เริ่มตีพิมพ์บทความพรีวิวเกม Cyberpunk 2077 ที่บอกเล่าประสบการณ์และความรู้สึกของสื่อมวลชนเหล่านี้ หลังจากที่ได้มีโอกาสทดลองเล่นเกมกันไปถึงคนละ 16 ชั่วโมงเต็ม
คุณ Tom กล่าวว่าเขาไม่ได้รู้สึกว่าการขับรถในเกมมีความโดดเด่นอะไรเป็นพิเศษ คือไม่ได้จะบอกว่าไม่ดี แต่ก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมเหมือนเกมขับรถตรงๆ
คุณ Tom กล่าวว่าเขาชอบรายละเอียดภายในของรถแต่ละคันมาก เพราะมีเอกลักษณ์แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดระหว่างรถแต่ละรุ่น
ในแง่ของความเร็ว คุณ Tom กล่าวว่ารถที่เขาได้ขับในช่วงต้นๆ ของเกมนั้นค่อนข้างอืดอาดมาก แต่พอเล่นไปซักพัก เขาก็มีโอกาสขโมยรุสปอร์ตราคาแพงมาใช้ และทำให้การขับรถรู้สึกเร็วขึ้นเยอะ
คุณ Tom บอกว่าเขาชอบการขับรถมอเตอร์ไซค์มากกว่ารถยนตร์ เพราะมันมีความคล่องตัวสูงกว่า ทำให้สามารถขับรถซอกแซกตามถนนหนทางของเมือง Night City ได้ดีกว่า
ถนนในเกมจะโล่งๆ ร้างๆ เหมือนที่เห็นในตัวอย่างไหม?
จากตัวอย่างเกมเพลย์หลายๆ คลิปที่ปล่อยออกมา มีฉากหลายฉากที่แสดงให้เห็นถนนของเมือง Night City ที่แลดูโล่งๆ ไม่ค่อยมี NPC หนาตาเหมือนในตัวอย่างที่ปล่อยออกมาแรกๆ ทำให้ผู้เล่นหลายคนเป็นห่วงว่าเมืองของเกมตัวเต็มจะร้างแบบเดียวกันไหม?
เกมจะแบ่งระดับความยากให้เลือกทั้งหมด 4 ระดับ ตั้งแต่ระดับ Story ที่ปรับเกมให้ง่ายสำหรับคนที่ต้องการเสพเนื้อเรื่องอย่างเดียว ไปจนถึงระดับ Hard และ Very Hard
คุณ Tom กล่าวว่าเขาเล่นเกมในระดับปกติหรือ Normal ซึ่งเขาบอกว่ามีจังหวะที่รู้สึกว่าเกมท้าทายเรา และบังคับให้เราต้องใช้สมองในการแก้ปัญหาจริงๆ
เกมเปิดช่องให้เราทำผิดพลาดไม่มาก และคุณ Tom บอกว่าเขามักจะกด Quick Save ทุกครั้งก่อนการต่อสู้เพราะรู้ว่าสามารถพลาดพลั้งได้เสมอ ไม่ว่าจะในแง่ของการต่อสู้หรือตัวเลือกบทสนทนาหลังการต่อสู้
คุณ Tom ออกตัวก่อนว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ชอบเกม Red Dead Redemption 2 ขนาดนั้น แม้เขาจะยอมรับว่ามันเป็นเกมที่สุดยอดในแง่ของกราฟิก แต่คุณ Tom ก็รู้สึกว่าเกมมี Pacing ที่ช้ามากเกินไปจนเขาเล่นเกมไม่ค่อยสนุกเลย
เขาบอกว่า CP2077 ไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบนั้นกับเขาแม้แต่น้อย แม้ว่าเขาจะบอกว่าเกมมี Pacing ค่อนข้างยืดยาด แต่มันเป็นความยืดยาดแบบ RPG คลาสสิคมากกว่า โดยเขาเปรียบเทียบกับเกมอย่าง Divinity: Original Sin ที่ให้ผู้เล่นใช้เวลาอยู่ในเมืองเริ่มต้นหลายชั่วโมงกว่าจะได้ออกสู่โลกกว้าง
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ทางผู้พัฒนา CD PROJEKT RED ได้ออกอากาศรายการ Night City Wire #5 จนจบ ก็มีสื่อมวลชนจากต่างประเทศหลายๆ สำนักที่เริ่มตีพิมพ์บทความพรีวิวเกม Cyberpunk 2077 ที่บอกเล่าประสบการณ์และความรู้สึกของสื่อมวลชนเหล่านี้ หลังจากที่ได้มีโอกาสทดลองเล่นเกมกันไปถึงคนละ 16 ชั่วโมงเต็ม
คุณ Tom กล่าวว่าเขาไม่ได้รู้สึกว่าการขับรถในเกมมีความโดดเด่นอะไรเป็นพิเศษ คือไม่ได้จะบอกว่าไม่ดี แต่ก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมเหมือนเกมขับรถตรงๆ
คุณ Tom กล่าวว่าเขาชอบรายละเอียดภายในของรถแต่ละคันมาก เพราะมีเอกลักษณ์แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดระหว่างรถแต่ละรุ่น
ในแง่ของความเร็ว คุณ Tom กล่าวว่ารถที่เขาได้ขับในช่วงต้นๆ ของเกมนั้นค่อนข้างอืดอาดมาก แต่พอเล่นไปซักพัก เขาก็มีโอกาสขโมยรุสปอร์ตราคาแพงมาใช้ และทำให้การขับรถรู้สึกเร็วขึ้นเยอะ
คุณ Tom บอกว่าเขาชอบการขับรถมอเตอร์ไซค์มากกว่ารถยนตร์ เพราะมันมีความคล่องตัวสูงกว่า ทำให้สามารถขับรถซอกแซกตามถนนหนทางของเมือง Night City ได้ดีกว่า
ถนนในเกมจะโล่งๆ ร้างๆ เหมือนที่เห็นในตัวอย่างไหม?
จากตัวอย่างเกมเพลย์หลายๆ คลิปที่ปล่อยออกมา มีฉากหลายฉากที่แสดงให้เห็นถนนของเมือง Night City ที่แลดูโล่งๆ ไม่ค่อยมี NPC หนาตาเหมือนในตัวอย่างที่ปล่อยออกมาแรกๆ ทำให้ผู้เล่นหลายคนเป็นห่วงว่าเมืองของเกมตัวเต็มจะร้างแบบเดียวกันไหม?
เกมจะแบ่งระดับความยากให้เลือกทั้งหมด 4 ระดับ ตั้งแต่ระดับ Story ที่ปรับเกมให้ง่ายสำหรับคนที่ต้องการเสพเนื้อเรื่องอย่างเดียว ไปจนถึงระดับ Hard และ Very Hard
คุณ Tom กล่าวว่าเขาเล่นเกมในระดับปกติหรือ Normal ซึ่งเขาบอกว่ามีจังหวะที่รู้สึกว่าเกมท้าทายเรา และบังคับให้เราต้องใช้สมองในการแก้ปัญหาจริงๆ
เกมเปิดช่องให้เราทำผิดพลาดไม่มาก และคุณ Tom บอกว่าเขามักจะกด Quick Save ทุกครั้งก่อนการต่อสู้เพราะรู้ว่าสามารถพลาดพลั้งได้เสมอ ไม่ว่าจะในแง่ของการต่อสู้หรือตัวเลือกบทสนทนาหลังการต่อสู้
คุณ Tom ออกตัวก่อนว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ชอบเกม Red Dead Redemption 2 ขนาดนั้น แม้เขาจะยอมรับว่ามันเป็นเกมที่สุดยอดในแง่ของกราฟิก แต่คุณ Tom ก็รู้สึกว่าเกมมี Pacing ที่ช้ามากเกินไปจนเขาเล่นเกมไม่ค่อยสนุกเลย
เขาบอกว่า CP2077 ไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบนั้นกับเขาแม้แต่น้อย แม้ว่าเขาจะบอกว่าเกมมี Pacing ค่อนข้างยืดยาด แต่มันเป็นความยืดยาดแบบ RPG คลาสสิคมากกว่า โดยเขาเปรียบเทียบกับเกมอย่าง Divinity: Original Sin ที่ให้ผู้เล่นใช้เวลาอยู่ในเมืองเริ่มต้นหลายชั่วโมงกว่าจะได้ออกสู่โลกกว้าง