GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
บทความ
Sifu - เพลงมวยคิ้วขาว สายสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์ และหลักคุณธรรมศิลปะการป้องกันตัว
ลงวันที่ 10/01/2022

“เจ้าหนุ่มน้อยก้าวย่างอย่างอาจอง มุ่งตรงไปยังฝูงทรชน ผู้คนล้วนมองด้วยสายตาพิฆาต หยาดเหงื่อแห่งความตึงเครียดไหลหยดจรดปลายจมูก ลูกหมัดสลับลูกเตะพุ่งตรงอย่างไม่รอรี หนุ่มน้อยเขาสวนกลับทันท่วงที ประกาศศักดิ์ศรีของเพลงมวยคิ้วขาวสั่งตาย แม้ชีวิตวอดวายแล้วไซร้ ข้าจักลุกขึ้นมาฟาดฟันอีกคร่า”

ข้างต้นล้วนเป็นคำจำกัดความของ Sifu เกมผจญภัยแนวต่อสู้ของผู้พัฒนา Sloclap เจ้าของผลงานสุดยอดรวมศาสตร์การต่อสู้ป้องกันตัวอย่าง Absolver กลับมาครั้งนี้พวกเขายังมั่นคงในหมุดหมายเดิมคือ พัฒนาเกมซึ่งบรรจุศิลปะการป้องกันตัวแบบถึงลูกถึงคน โดยในเกม Sifu ถูกอัดแน่นด้วยศาสตร์เพลงมวยคิ้วขาว ที่เรียกอีกชื่อว่า ปักเหมย หรือ ไป่เหมย (Pak Mei) ซึ่งมีความเป็นมาน่าสนใจยิ่งยวด พร้อมทั้งนำเสนอความสัมพันธ์ลึกซึ้งถึงจิตวิญญาณระหว่างอาจารย์ลูกศิษย์ และหลักคุณธรรมของศิลปะการป้องกันตัว


เพลงมวยคิ้วขาวกับเส้นทางล้างแค้น

Sifu เป็นเรื่องราวของหนุ่มน้อยที่จิตใจของเขาเผาไหม้ด้วยไฟแค้น เดินทางตามล่าเหล่าบุคคลปริศนา ผู้ลงมือสังหารล้างบางครอบครัวของเขา เขาเพียงตัวคนเดียว ไร้ซึ่งเพื่อนฝูง มีเพียงแค่วิชาเพลงมวยคิ้วขาวเป็นอาวุธสุดท้าย

ผู้พัฒนา Sloclap ได้แรงบันดาลใจจากเพลงมวยคิ้วขาว หนึ่งในศาสตร์เพลงมวยเลื่องชื่อของประเทศจีน พวกเขาทำงานร่วมกับคุณเบนจามิน โคลุสซี อาจารย์เพลงมวยคิ้วขาวที่ได้เปิดสถาบันสอนเพลงมวยคิ้วขาว LWS Pak Mei ณ ประเทศฝรั่งเศส โดยสาเหตุที่ผู้พัฒนาเลือกใช้เพลงมวยคิ้วขาวเนื่องจากมันสอดประสานกับเรื่องราวของการล้างแค้นในเกมได้อย่างดี โดยคุณเบนจามิน กล่าวถึงนิยามของเพลงมวยคิ้วขาวและทำให้เราเข้าใจถึงอารมณ์ในเกมนี้อย่างกระจ่างโดยไม่จำเป็นต้องสาธยายให้มากความ

“ดุดัน ฉับไว ทรงพลังและแม่นยำ”

จุดกำเนิดสุดยอดเพลงมวยคิ้วขาว

ต้องกล่าวก่อนว่าจุดกำเนิดของเรื่องราวต่อไปนี้ มีความคาบเกี่ยวระหว่างประวัติศาสตร์กับตำนาน เราไม่สามารถยืนยันได้โดยแท้ว่าส่วนใดเป็นข้อเท็จจริงหรือเป็นเรื่องเสริมเติมแต่งในภายหลัง 

ว่ากันว่าผู้คิดค้นเพลงมวยคิ้วขาวคือ “อาจารย์ไป่เหมย” นักพรตคิ้วขาว หนึ่งในห้าเซียนแห่งวัดเส้าหลินเห่อนาน พวกเขาไม่เพียงเป็นกลุ่มต่อต้านราชวงศ์ชิง แต่ล้วนแล้วเป็นบรรดาอาจารย์ร่ำเรียนวิชามวยเส้าหลินจนบรรลุแก่นแท้ และได้ต่อยอดเพลงมวยในแนวทางตัวเองแตกต่างกันไป โดยไป่เหม่ยเป็นผู้ทรงอิทธิพลในกลุ่มลำดับที่สอง ชื่อของเขาตั้งขึ้นจากคิ้วของเขาที่มีสีขาวโพลน

รูปวาดหน้าตาของอาจารย์ไป่เหมย

ไป่เหมยเดินทางไปยังภูเขาเอ๋อเหมยหรืออีกชื่อก็คือภูเขาง้อไบ๊ หลังจากรอดพ้นการบุกเผาวัดเส้าหลินเพื่อปราบกลุ่มต่อต้านให้สิ้นซากโดยฝีมือของทางการ แต่บางแหล่งข้อมูลก็กล่าวว่าเขาคือผู้ทรยศกลุ่มต่อต้านราชวงศ์ชิงและกลุ่มห้าเซียนแห่งวัดเส้าหลิน อันเป็นต้นเหตุในการเผาวัดเส้าหลิน บางแหล่งข้อมูลก็กล่าวว่าเขาเป็นสายลับสองหน้าให้ทั้งสองฝ่าย

ช่วงเวลาที่เขาปลีกวิเวกบนภูเขาเอ๋อเหมย เขามุ่งมั่นกับการพัฒนาเพลงมวยของตน เพลงมวยของเขาผสมผสานกระบวนท่าเพลงหมัดทั้งห้าของเส้าหลิน (เสือ, มังกร, ตั๊กแตน, งู และเสือดาว) โดยเน้นหนักเพลงมวยเสือและเพลงมวยเสือดาว ทำให้เพลงมวยของเขาทั้ง “ดุดัน ฉับไว ทรงพลังและแม่นยำ” ซึ่งเขาตั้งชื่อเพลงมวยของเขาว่า “เพลงมวยเส้าหลิน” เพื่อให้เกียรติแก่สถานที่ซึ่งเขาได้ร่ำเรียนวิชาเพลงมวย  

ไป่เหมยถ่ายทอดวิชามวยของเขาให้แก่ กวง เหว่ย เจ้าอาวาสของวัดเต๋าบนภูเขาเอ๋อเหมย ต่อมาอาจารย์ กวง เหว่ยเปลี่ยนชื่อเพลงมวยเป็น “เพลงมวยคิ้วขาว” เพื่อให้เกียรติแก่อาจารย์ของเขานั้นเอง จากนั้นก็ได้ส่งต่อเพลงมวยคิ้วขาวจากรุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน 

เราคุ้นชินกับอาจารย์ไป่เหมยในวัฒนธรรมป๊อปที่แพร่หลายตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน มีเรื่องราวของเขาอยู่ในหลายสื่อบันเทิง ไม่ว่าบทบาทที่ดีหรือร้าย ตั้งแต่นักพรตคิ้วขาวจากสำนักง้อไบ๊ตามนิยาย, ซีรีส์ และภาพยนตร์จีนกำลังภายใน จนถึงบทบาทซึ่งทำให้ผู้คนทั่วโลกจดจำอาจารย์ไป๋เหม่ยในฐานะปรมาจารย์กังฟูอย่างภาพยนตร์ Kill Bill: Vol. 2


“Sifu” ความสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณระหว่างอาจารย์ลูกศิษย์ 

เส้นทางของการร่ำเรียนเพลงมวยคิ้วขาวของคุณเบนจามิน เขาเดินทางไปประเทศจีนเพื่อสรรหาการร่ำเรียนศิลปะการป้องกันตัว เขาเคยเรียนศิลปะการป้องกันตัวหลายรูปแบบ รวมถึงกังฟูแขนงอื่นมาก่อน ทั้งฮังกา, ทังหลางและไทชิ แต่เมื่อเขาได้พบกับปักเหมย เขาตระหนักทันทีว่าคือศาสตร์ที่เขาตามหามานาน

เขาอุทิศตัวเพื่อร่ำเรียนกับอาจารย์เพลงมวยคิ้วขาว อาจารย์คนแรกที่รับเขาเป็นศิษย์คือคุณชาง เหยา มัน ผู้เป็นลูกศิษย์รุ่นแรกของปรมาจารย์เพลงมวยคิ้วขาวอย่างคุณเหลา ซือ เหลี่ยง ต่อมาคุณเหลา เหว่ย เค่อ และ คุณ เหลา เหว่ย ซาน ก็รับเขาเป็นศิษย์อีกเช่นกัน โดยทั้งสองเป็นทั้งอาจารย์, ลูกชายและผู้สืบทอดวิชาของปรมาจารย์ คุณเหลา ซือ เหลี่ยง

เดิมที คุณเหลา เหว่ย ซาน ไม่ต้องการสอนศาสตร์แขนงนี้ให้กับชาวต่างชาติ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาเข้าใจว่ากังฟูมิใช่เป็นเพียงศิลปะการป้องกันตัว แต่เป็นถึงวัฒนธรรม ประจวบกับเขาพบกับคุณเบนจามิน ที่ทั้งเข้าใจทั้งภาษาและวัฒนธรรมของชาวจีน เขาจึงตัดสินใจสอนเพลงมวยคิ้วขาวในทุกแง่มุมเท่าที่เขารู้ และหนึ่งในนั้นคือหลักการของ Sifu

คำว่า Sifu หรือซือฝุ (师父) เช่นเดียวกับชื่อเกม มันมีความหมายว่า อาจารย์หรือผู้สั่งสอนและถ่ายทอดวิชาความรู้ โดยซือฝุมาจากคำว่า 师 หรือซือ แปลว่า อาจารย์ กับ 父 หรือฟู่ ที่แปลว่า บิดา ฉะนั้นการนับถือเป็นซือฝุคือการให้เกียรติอาจารย์ประดุจดั่งบิดาของตน


คุณเหลา เหว่ย ซาน อธิบายว่าวัฒนธรรมเกี่ยวกับสายสัมพันธ์อาจารย์ลูกศิษย์มีมาเป็นเวลานาน การเป็นซือฟูไม่ใช่เรื่องของธุรกิจ ไม่มีจุดประสงค์แอบแฝง หากลูกศิษย์ไม่เข้าใจถึงแก่นแท้ของสายสัมพันธ์ดังกล่าว ถือว่าไม่ได้มีหัวใจบริสุทธิ์ ไร้ประโยชน์ที่จะสั่งสอนต่อไป มีเพียงเวลาที่จะทำให้เข้าใจความเป็นซือฝุอย่างถ่องแท้

“การน้อมรับให้เป็นอาจารย์เท่ากับน้อมรับให้เป็นบิดาตราบชั่วชีวิต”

เป็นคำนิยามที่อธิบายซือฝุได้ดีเยี่ยม ซึ่งคุณเบนจามิน กล่าวในขณะที่คุณเหลา เหว่ย ซาน ถามเขาว่าเข้าใจหรือไม่ว่าซือฝุคืออะไร ก่อนรับเขาเป็นศิษย์ ซึ่งจากคำตอบและการกระทำของเขา แสดงให้เห็นโดยชัดแจ้งว่าเขาเข้าใจหลักการซือฝุอย่างถ่องแท้ ซึ่งคุณเหลา เหว่ย ซาน กับคุณเบนจามิน ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น เขานับถือคุณเหลา เหว่ย ซาน ไม่เพียงในฐานะอาจารย์ แต่ถึงระดับบิดาในทางจิตวิญญาณ 

นอกจากนั้นคุณเบนจามินยังเคารพต้นตระกูลในทางสายโลหิตและในทางอาจารย์เพลงมวยคิ้วขาว อย่างคุณ เหลา ซือ เหลี่ยง, คุณเหลา เหว่ย เค่อ และคุณเชง เหยา มัน รวมถึงสถาบันสอนเพลงมวยคิ้วขาว LWS Pak Mei ก็มาจากชื่อของคุณเหลา เหว่ย ซาน เป็นการตั้งชื่อเพื่อให้เกียรติซือฝุของเขา


หลักคุณธรรมของศิลปะการป้องกันตัวกับการล้างแค้น

ไม่เพียงแต่หลักการของซือฝุ คุณเหลา เหว่ย ซาน กล่าวถึงหลักคุณธรรมของศิลปะการป้องกันตัว (“Wude” หรือ martial virtue) ไว้อย่างน่าสนใจ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับหลักการปฏิบัติตนของผู้เรียนศิลปะการป้องกันตัวในทุกศาสตร์ ไม่จำกัดเพียงกังฟู

“กังฟูที่แท้จริงมีไว้เพื่อป้องกันตัวเท่านั้น มิได้มีเพื่อรังแกผู้อื่น มิได้มีไว้เพื่อการวิวาท เมื่อถึงเวลาต้องป้องกันตัว มิใช่ว่าต้องโจมตีให้รุนแรงมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้”

แต่เมื่อพิจารณาหลักดังกล่าว โดยนำมาพิเคราะห์ในบริบทของเกม Sifu เป็นไปได้ว่ามันอาจเป็นประเด็นสำคัญในเกม Sifu ว่าตัวเกมจะมีการนำเสนออย่างไร ในเมื่อหนุ่มน้อยไฟแค้นสุ่มอก ดูเหมือนว่าเขาได้ก้าวล้ำหลักคุณธรรมของศิลปะการป้องกันตัวจนเลยเถิดอย่างเต็มตัวเสียแล้ว การมุ่งหน้าล้างแค้นอย่างไม่ลดละ แม้แต่ความตายมิอาจหยุดยั้งเขาได้

จึงเกิดคำถามว่าการกระทำของเขามันขัดกับหลักคุณธรรมของศิลปะการป้องกันตัวหรือไม่? และหากพิเคราะห์ว่าเป็นเพียงการป้องกันตัว เมื่อมองย้อนไปยังหลักการสำคัญของกังฟูที่แท้จริง หากจักป้องกันตัว ก็ทำเท่าที่พอควร 

“แล้วสิ่งที่เขาทำมันพอสมควรแก่เหตุแล้วหรือ?”

แหล่งข้อมูลอ้างอิง:


GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
Sifu - เพลงมวยคิ้วขาว สายสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์ และหลักคุณธรรมศิลปะการป้องกันตัว
10/01/2022

“เจ้าหนุ่มน้อยก้าวย่างอย่างอาจอง มุ่งตรงไปยังฝูงทรชน ผู้คนล้วนมองด้วยสายตาพิฆาต หยาดเหงื่อแห่งความตึงเครียดไหลหยดจรดปลายจมูก ลูกหมัดสลับลูกเตะพุ่งตรงอย่างไม่รอรี หนุ่มน้อยเขาสวนกลับทันท่วงที ประกาศศักดิ์ศรีของเพลงมวยคิ้วขาวสั่งตาย แม้ชีวิตวอดวายแล้วไซร้ ข้าจักลุกขึ้นมาฟาดฟันอีกคร่า”

ข้างต้นล้วนเป็นคำจำกัดความของ Sifu เกมผจญภัยแนวต่อสู้ของผู้พัฒนา Sloclap เจ้าของผลงานสุดยอดรวมศาสตร์การต่อสู้ป้องกันตัวอย่าง Absolver กลับมาครั้งนี้พวกเขายังมั่นคงในหมุดหมายเดิมคือ พัฒนาเกมซึ่งบรรจุศิลปะการป้องกันตัวแบบถึงลูกถึงคน โดยในเกม Sifu ถูกอัดแน่นด้วยศาสตร์เพลงมวยคิ้วขาว ที่เรียกอีกชื่อว่า ปักเหมย หรือ ไป่เหมย (Pak Mei) ซึ่งมีความเป็นมาน่าสนใจยิ่งยวด พร้อมทั้งนำเสนอความสัมพันธ์ลึกซึ้งถึงจิตวิญญาณระหว่างอาจารย์ลูกศิษย์ และหลักคุณธรรมของศิลปะการป้องกันตัว


เพลงมวยคิ้วขาวกับเส้นทางล้างแค้น

Sifu เป็นเรื่องราวของหนุ่มน้อยที่จิตใจของเขาเผาไหม้ด้วยไฟแค้น เดินทางตามล่าเหล่าบุคคลปริศนา ผู้ลงมือสังหารล้างบางครอบครัวของเขา เขาเพียงตัวคนเดียว ไร้ซึ่งเพื่อนฝูง มีเพียงแค่วิชาเพลงมวยคิ้วขาวเป็นอาวุธสุดท้าย

ผู้พัฒนา Sloclap ได้แรงบันดาลใจจากเพลงมวยคิ้วขาว หนึ่งในศาสตร์เพลงมวยเลื่องชื่อของประเทศจีน พวกเขาทำงานร่วมกับคุณเบนจามิน โคลุสซี อาจารย์เพลงมวยคิ้วขาวที่ได้เปิดสถาบันสอนเพลงมวยคิ้วขาว LWS Pak Mei ณ ประเทศฝรั่งเศส โดยสาเหตุที่ผู้พัฒนาเลือกใช้เพลงมวยคิ้วขาวเนื่องจากมันสอดประสานกับเรื่องราวของการล้างแค้นในเกมได้อย่างดี โดยคุณเบนจามิน กล่าวถึงนิยามของเพลงมวยคิ้วขาวและทำให้เราเข้าใจถึงอารมณ์ในเกมนี้อย่างกระจ่างโดยไม่จำเป็นต้องสาธยายให้มากความ

“ดุดัน ฉับไว ทรงพลังและแม่นยำ”

จุดกำเนิดสุดยอดเพลงมวยคิ้วขาว

ต้องกล่าวก่อนว่าจุดกำเนิดของเรื่องราวต่อไปนี้ มีความคาบเกี่ยวระหว่างประวัติศาสตร์กับตำนาน เราไม่สามารถยืนยันได้โดยแท้ว่าส่วนใดเป็นข้อเท็จจริงหรือเป็นเรื่องเสริมเติมแต่งในภายหลัง 

ว่ากันว่าผู้คิดค้นเพลงมวยคิ้วขาวคือ “อาจารย์ไป่เหมย” นักพรตคิ้วขาว หนึ่งในห้าเซียนแห่งวัดเส้าหลินเห่อนาน พวกเขาไม่เพียงเป็นกลุ่มต่อต้านราชวงศ์ชิง แต่ล้วนแล้วเป็นบรรดาอาจารย์ร่ำเรียนวิชามวยเส้าหลินจนบรรลุแก่นแท้ และได้ต่อยอดเพลงมวยในแนวทางตัวเองแตกต่างกันไป โดยไป่เหม่ยเป็นผู้ทรงอิทธิพลในกลุ่มลำดับที่สอง ชื่อของเขาตั้งขึ้นจากคิ้วของเขาที่มีสีขาวโพลน

รูปวาดหน้าตาของอาจารย์ไป่เหมย

ไป่เหมยเดินทางไปยังภูเขาเอ๋อเหมยหรืออีกชื่อก็คือภูเขาง้อไบ๊ หลังจากรอดพ้นการบุกเผาวัดเส้าหลินเพื่อปราบกลุ่มต่อต้านให้สิ้นซากโดยฝีมือของทางการ แต่บางแหล่งข้อมูลก็กล่าวว่าเขาคือผู้ทรยศกลุ่มต่อต้านราชวงศ์ชิงและกลุ่มห้าเซียนแห่งวัดเส้าหลิน อันเป็นต้นเหตุในการเผาวัดเส้าหลิน บางแหล่งข้อมูลก็กล่าวว่าเขาเป็นสายลับสองหน้าให้ทั้งสองฝ่าย

ช่วงเวลาที่เขาปลีกวิเวกบนภูเขาเอ๋อเหมย เขามุ่งมั่นกับการพัฒนาเพลงมวยของตน เพลงมวยของเขาผสมผสานกระบวนท่าเพลงหมัดทั้งห้าของเส้าหลิน (เสือ, มังกร, ตั๊กแตน, งู และเสือดาว) โดยเน้นหนักเพลงมวยเสือและเพลงมวยเสือดาว ทำให้เพลงมวยของเขาทั้ง “ดุดัน ฉับไว ทรงพลังและแม่นยำ” ซึ่งเขาตั้งชื่อเพลงมวยของเขาว่า “เพลงมวยเส้าหลิน” เพื่อให้เกียรติแก่สถานที่ซึ่งเขาได้ร่ำเรียนวิชาเพลงมวย  

ไป่เหมยถ่ายทอดวิชามวยของเขาให้แก่ กวง เหว่ย เจ้าอาวาสของวัดเต๋าบนภูเขาเอ๋อเหมย ต่อมาอาจารย์ กวง เหว่ยเปลี่ยนชื่อเพลงมวยเป็น “เพลงมวยคิ้วขาว” เพื่อให้เกียรติแก่อาจารย์ของเขานั้นเอง จากนั้นก็ได้ส่งต่อเพลงมวยคิ้วขาวจากรุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน 

เราคุ้นชินกับอาจารย์ไป่เหมยในวัฒนธรรมป๊อปที่แพร่หลายตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน มีเรื่องราวของเขาอยู่ในหลายสื่อบันเทิง ไม่ว่าบทบาทที่ดีหรือร้าย ตั้งแต่นักพรตคิ้วขาวจากสำนักง้อไบ๊ตามนิยาย, ซีรีส์ และภาพยนตร์จีนกำลังภายใน จนถึงบทบาทซึ่งทำให้ผู้คนทั่วโลกจดจำอาจารย์ไป๋เหม่ยในฐานะปรมาจารย์กังฟูอย่างภาพยนตร์ Kill Bill: Vol. 2


“Sifu” ความสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณระหว่างอาจารย์ลูกศิษย์ 

เส้นทางของการร่ำเรียนเพลงมวยคิ้วขาวของคุณเบนจามิน เขาเดินทางไปประเทศจีนเพื่อสรรหาการร่ำเรียนศิลปะการป้องกันตัว เขาเคยเรียนศิลปะการป้องกันตัวหลายรูปแบบ รวมถึงกังฟูแขนงอื่นมาก่อน ทั้งฮังกา, ทังหลางและไทชิ แต่เมื่อเขาได้พบกับปักเหมย เขาตระหนักทันทีว่าคือศาสตร์ที่เขาตามหามานาน

เขาอุทิศตัวเพื่อร่ำเรียนกับอาจารย์เพลงมวยคิ้วขาว อาจารย์คนแรกที่รับเขาเป็นศิษย์คือคุณชาง เหยา มัน ผู้เป็นลูกศิษย์รุ่นแรกของปรมาจารย์เพลงมวยคิ้วขาวอย่างคุณเหลา ซือ เหลี่ยง ต่อมาคุณเหลา เหว่ย เค่อ และ คุณ เหลา เหว่ย ซาน ก็รับเขาเป็นศิษย์อีกเช่นกัน โดยทั้งสองเป็นทั้งอาจารย์, ลูกชายและผู้สืบทอดวิชาของปรมาจารย์ คุณเหลา ซือ เหลี่ยง

เดิมที คุณเหลา เหว่ย ซาน ไม่ต้องการสอนศาสตร์แขนงนี้ให้กับชาวต่างชาติ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาเข้าใจว่ากังฟูมิใช่เป็นเพียงศิลปะการป้องกันตัว แต่เป็นถึงวัฒนธรรม ประจวบกับเขาพบกับคุณเบนจามิน ที่ทั้งเข้าใจทั้งภาษาและวัฒนธรรมของชาวจีน เขาจึงตัดสินใจสอนเพลงมวยคิ้วขาวในทุกแง่มุมเท่าที่เขารู้ และหนึ่งในนั้นคือหลักการของ Sifu

คำว่า Sifu หรือซือฝุ (师父) เช่นเดียวกับชื่อเกม มันมีความหมายว่า อาจารย์หรือผู้สั่งสอนและถ่ายทอดวิชาความรู้ โดยซือฝุมาจากคำว่า 师 หรือซือ แปลว่า อาจารย์ กับ 父 หรือฟู่ ที่แปลว่า บิดา ฉะนั้นการนับถือเป็นซือฝุคือการให้เกียรติอาจารย์ประดุจดั่งบิดาของตน


คุณเหลา เหว่ย ซาน อธิบายว่าวัฒนธรรมเกี่ยวกับสายสัมพันธ์อาจารย์ลูกศิษย์มีมาเป็นเวลานาน การเป็นซือฟูไม่ใช่เรื่องของธุรกิจ ไม่มีจุดประสงค์แอบแฝง หากลูกศิษย์ไม่เข้าใจถึงแก่นแท้ของสายสัมพันธ์ดังกล่าว ถือว่าไม่ได้มีหัวใจบริสุทธิ์ ไร้ประโยชน์ที่จะสั่งสอนต่อไป มีเพียงเวลาที่จะทำให้เข้าใจความเป็นซือฝุอย่างถ่องแท้

“การน้อมรับให้เป็นอาจารย์เท่ากับน้อมรับให้เป็นบิดาตราบชั่วชีวิต”

เป็นคำนิยามที่อธิบายซือฝุได้ดีเยี่ยม ซึ่งคุณเบนจามิน กล่าวในขณะที่คุณเหลา เหว่ย ซาน ถามเขาว่าเข้าใจหรือไม่ว่าซือฝุคืออะไร ก่อนรับเขาเป็นศิษย์ ซึ่งจากคำตอบและการกระทำของเขา แสดงให้เห็นโดยชัดแจ้งว่าเขาเข้าใจหลักการซือฝุอย่างถ่องแท้ ซึ่งคุณเหลา เหว่ย ซาน กับคุณเบนจามิน ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น เขานับถือคุณเหลา เหว่ย ซาน ไม่เพียงในฐานะอาจารย์ แต่ถึงระดับบิดาในทางจิตวิญญาณ 

นอกจากนั้นคุณเบนจามินยังเคารพต้นตระกูลในทางสายโลหิตและในทางอาจารย์เพลงมวยคิ้วขาว อย่างคุณ เหลา ซือ เหลี่ยง, คุณเหลา เหว่ย เค่อ และคุณเชง เหยา มัน รวมถึงสถาบันสอนเพลงมวยคิ้วขาว LWS Pak Mei ก็มาจากชื่อของคุณเหลา เหว่ย ซาน เป็นการตั้งชื่อเพื่อให้เกียรติซือฝุของเขา


หลักคุณธรรมของศิลปะการป้องกันตัวกับการล้างแค้น

ไม่เพียงแต่หลักการของซือฝุ คุณเหลา เหว่ย ซาน กล่าวถึงหลักคุณธรรมของศิลปะการป้องกันตัว (“Wude” หรือ martial virtue) ไว้อย่างน่าสนใจ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับหลักการปฏิบัติตนของผู้เรียนศิลปะการป้องกันตัวในทุกศาสตร์ ไม่จำกัดเพียงกังฟู

“กังฟูที่แท้จริงมีไว้เพื่อป้องกันตัวเท่านั้น มิได้มีเพื่อรังแกผู้อื่น มิได้มีไว้เพื่อการวิวาท เมื่อถึงเวลาต้องป้องกันตัว มิใช่ว่าต้องโจมตีให้รุนแรงมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้”

แต่เมื่อพิจารณาหลักดังกล่าว โดยนำมาพิเคราะห์ในบริบทของเกม Sifu เป็นไปได้ว่ามันอาจเป็นประเด็นสำคัญในเกม Sifu ว่าตัวเกมจะมีการนำเสนออย่างไร ในเมื่อหนุ่มน้อยไฟแค้นสุ่มอก ดูเหมือนว่าเขาได้ก้าวล้ำหลักคุณธรรมของศิลปะการป้องกันตัวจนเลยเถิดอย่างเต็มตัวเสียแล้ว การมุ่งหน้าล้างแค้นอย่างไม่ลดละ แม้แต่ความตายมิอาจหยุดยั้งเขาได้

จึงเกิดคำถามว่าการกระทำของเขามันขัดกับหลักคุณธรรมของศิลปะการป้องกันตัวหรือไม่? และหากพิเคราะห์ว่าเป็นเพียงการป้องกันตัว เมื่อมองย้อนไปยังหลักการสำคัญของกังฟูที่แท้จริง หากจักป้องกันตัว ก็ทำเท่าที่พอควร 

“แล้วสิ่งที่เขาทำมันพอสมควรแก่เหตุแล้วหรือ?”

แหล่งข้อมูลอ้างอิง:


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header