ในหลายๆ จังหวะ การเล่นเกม The Last of Us Part II ทำให้ผู้เขียนนึกถึงเกม PS4 Exclusive ชื่อดังอีกเกมอย่าง God of War (2018) ทั้งสองเกมมีความคล้ายคลึงกันอยู่มาก ตั้งแต่มุมกล้องที่ติดตามตัวละครหลักของเกมอย่างใกล้ชิดแทบจะตลอดเวลา เพื่อให้ผู้เล่นได้เข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครในทุกช่วงเวลาตลอดการเดินทาง รวมไปถึงองค์ประกอบด้านภาพ เสียง และเกมเพลย์ระดับแนวหน้าของวงการ ที่ทำงานร่วมกันในการขับสาสน์และ “บรรยากาศ” ของเกมให้ถึงผู้เล่นอย่างชัดเจนตลอดระยะเวลาที่นั่งเล่น จนทำให้ “ประสบการณ์” โดยรวมของเกมน่าดึงดูดในระดับที่พูดได้เต็มปากว่า “วางจอยไม่ลง” เลยทีเดียว
แต่ในขณะเดียวกัน แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่า The Last of Us Part II เป็นผลงานวีดีโอเกมที่น่าทึ่งในหลายๆ ระดับ แต่ในความพยายามที่จะนำเสนอ “แง่มุม” อันหลากหลายมากขึ้นของผู้พัฒนา ทำให้เนื้อเรื่องของเกมขาดส่วนผสมบางอย่าง ที่ทำให้เกมอย่าง God of War (2018) หรือกระทั่งผลงานที่ผ่านมาของผู้พัฒนา Naughty Dog เองทั้ง Uncharted และ The Last of Us ภาคแรก กลายเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมอันดับต้นๆ ในแง่ของเนื้อเรื่อง นั่นก็คือการที่เนื้อเรื่องของเกมเหล่านั้น “มุ่งเน้น” (Focused) ไปที่เรื่องราวของตัวละครเพียงไม่กี่ตัวตลอดการเดินทางของพวกเขา ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถสร้างความผูกพันธ์กับตัวละครเหล่านั้น และติดตามการเจิรญเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของพวกเขาได้อย่างเข้มข้น ทำให้เนื้อเรื่องโดยรวมขาด “น้ำหนัก” เมื่อเทียบกับเกมอื่นๆ ที่กล่าวไปข้างต้น
แม้ว่าสุดท้ายแล้ว คงไม่สามารถบอกว่าเนื้อเรื่องของเกม The Last of Us Part II นั้น “แย่” หรือ “ห่วย” ได้ เพราะเอาเข้าจริง เนื้อเรื่องของเกมถูกเขียนมาอย่างลึกซึ้ง และเปี่ยมไปด้วยสถานการณ์และตัวละครที่จะทำให้คุณตั้งคำถามกับ “ความถูกต้อง” ของทั้งตัวเองและตัวละครอยู่ตลอดเวลา แถมกราฟิกอันสุดยอดของเกมยังช่วยทำให้นักแสดงมากความสามารถทั้งหลายสามารถมอบ “ความเป็นมนุษย์” ให้กับตัวละครเหล่านี้ได้ในระดับที่ผู้เขียนยังไม่เคยเห็นในเกมไหนมาก่อนเลย และทำให้คุณภาพของการแสดงและคัตซีนทั้งหมดเข้าใกล้คุณภาพระดับ “ฮอลลีวู้ด” มากกว่าเกมไหนๆ ที่ผ่านมาได้สบาย
*หมายเหตุ: รีวิวฉบับนี้จะหลีกเลี่ยงการสปอยเนื้อเรื่องให้ได้มากที่สุด และจะกล่าวถึงเหตุการณ์และตัวละครในภาพกว้างเท่านั้น
*หมายเหตุ 2: เนื่องจากทางผู้พัฒนากำชับมาให้ใช้ภาพประกอบที่พวกเขาส่งมาให้เท่านั้นในบทความรีวิวนี้ จึงไม่สามารถแสดงภาพบทบรรยายหรือเมนูภาษาไทยได้ ผู้ที่อยากเห็นว่าบทบรรยายของเกมหน้าตาเป็นอย่างไร สามารถรับชมได้ในวีดีโอรีวิวเกม The Last of Us Part II ของเราแทน
ในหลายๆ จังหวะ การเล่นเกม The Last of Us Part II ทำให้ผู้เขียนนึกถึงเกม PS4 Exclusive ชื่อดังอีกเกมอย่าง God of War (2018) ทั้งสองเกมมีความคล้ายคลึงกันอยู่มาก ตั้งแต่มุมกล้องที่ติดตามตัวละครหลักของเกมอย่างใกล้ชิดแทบจะตลอดเวลา เพื่อให้ผู้เล่นได้เข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครในทุกช่วงเวลาตลอดการเดินทาง รวมไปถึงองค์ประกอบด้านภาพ เสียง และเกมเพลย์ระดับแนวหน้าของวงการ ที่ทำงานร่วมกันในการขับสาสน์และ “บรรยากาศ” ของเกมให้ถึงผู้เล่นอย่างชัดเจนตลอดระยะเวลาที่นั่งเล่น จนทำให้ “ประสบการณ์” โดยรวมของเกมน่าดึงดูดในระดับที่พูดได้เต็มปากว่า “วางจอยไม่ลง” เลยทีเดียว
แต่ในขณะเดียวกัน แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่า The Last of Us Part II เป็นผลงานวีดีโอเกมที่น่าทึ่งในหลายๆ ระดับ แต่ในความพยายามที่จะนำเสนอ “แง่มุม” อันหลากหลายมากขึ้นของผู้พัฒนา ทำให้เนื้อเรื่องของเกมขาดส่วนผสมบางอย่าง ที่ทำให้เกมอย่าง God of War (2018) หรือกระทั่งผลงานที่ผ่านมาของผู้พัฒนา Naughty Dog เองทั้ง Uncharted และ The Last of Us ภาคแรก กลายเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมอันดับต้นๆ ในแง่ของเนื้อเรื่อง นั่นก็คือการที่เนื้อเรื่องของเกมเหล่านั้น “มุ่งเน้น” (Focused) ไปที่เรื่องราวของตัวละครเพียงไม่กี่ตัวตลอดการเดินทางของพวกเขา ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถสร้างความผูกพันธ์กับตัวละครเหล่านั้น และติดตามการเจิรญเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของพวกเขาได้อย่างเข้มข้น ทำให้เนื้อเรื่องโดยรวมขาด “น้ำหนัก” เมื่อเทียบกับเกมอื่นๆ ที่กล่าวไปข้างต้น
แม้ว่าสุดท้ายแล้ว คงไม่สามารถบอกว่าเนื้อเรื่องของเกม The Last of Us Part II นั้น “แย่” หรือ “ห่วย” ได้ เพราะเอาเข้าจริง เนื้อเรื่องของเกมถูกเขียนมาอย่างลึกซึ้ง และเปี่ยมไปด้วยสถานการณ์และตัวละครที่จะทำให้คุณตั้งคำถามกับ “ความถูกต้อง” ของทั้งตัวเองและตัวละครอยู่ตลอดเวลา แถมกราฟิกอันสุดยอดของเกมยังช่วยทำให้นักแสดงมากความสามารถทั้งหลายสามารถมอบ “ความเป็นมนุษย์” ให้กับตัวละครเหล่านี้ได้ในระดับที่ผู้เขียนยังไม่เคยเห็นในเกมไหนมาก่อนเลย และทำให้คุณภาพของการแสดงและคัตซีนทั้งหมดเข้าใกล้คุณภาพระดับ “ฮอลลีวู้ด” มากกว่าเกมไหนๆ ที่ผ่านมาได้สบาย
*หมายเหตุ: รีวิวฉบับนี้จะหลีกเลี่ยงการสปอยเนื้อเรื่องให้ได้มากที่สุด และจะกล่าวถึงเหตุการณ์และตัวละครในภาพกว้างเท่านั้น
*หมายเหตุ 2: เนื่องจากทางผู้พัฒนากำชับมาให้ใช้ภาพประกอบที่พวกเขาส่งมาให้เท่านั้นในบทความรีวิวนี้ จึงไม่สามารถแสดงภาพบทบรรยายหรือเมนูภาษาไทยได้ ผู้ที่อยากเห็นว่าบทบรรยายของเกมหน้าตาเป็นอย่างไร สามารถรับชมได้ในวีดีโอรีวิวเกม The Last of Us Part II ของเราแทน